บทที่ 13
เมื่อกี้เข้าข้างดีอยู่หรอกแต่หลังๆ นี่เริ่มไม่ใช่ละ
“เออน่า ว่าแต่มึงไม่คิดบ้างเหรอวะ ว่ามันแปลกๆ” ผม ขมวดคิ้วมองไอ้เซฟแล้วถาม
“มึงหมายความว่าไงวะ?”
“เอ้ามึง เขาใช้รูปที่มึงจูบกับเขาขู่ให้ทำตามที่สั่งกูก็ว่าแม่ งแปลกแล้ว ถ้าจะแค่ให้ไปนัดแข่งกับพี่สแตนด์เอาใครไปก็ ได้หรอก ส
เออวะ มีเหตุผล ถ้าจะแค่ให้ไปนัดไอ้พี่สแตนด์แข่งจะ ใครก็ได้นี่หว่าแล้วทำไมถึงเป็นก??
“แล้วไหนจะเรื่องทริปติวนี่อีก พี่สแตนด์ก็โผล่มานี่กว่า ไม่ใช่บังเอิญแล้วเว้ย เรื่องนี้มันมีเบื้องลึกเบื้องหลัง ผม มองไอ้เซฟทึ่งๆ
“ทำไมวันนี้จึงดูฉลาดจังวะ” ผมบอก และเจอมันเขกหัวไป
ที อูยย เจ็บ
“มึงสิทำไมนึกไม่ถึง มัวแต่โดนพี่โฟมเอาเพลินรีไง!” ผม หน้าร้อนเมื่อมันพูดแบบนั้น
“สัส ไม่ใช่เว้ย กูแค่…แค่มัวแต่หาทางเรารูปคืนจนลืมนึก เฉยๆ” ผมแถไปเรื่อย ไอ้เซฟมองผมแบบไม่เชื่อ แต่มันก็ ไม่ได้ถามต่อแล้วเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่นแทน
“แล้วมึงจะเอายังไงกับรูปละวะ
“กูก็แค่ต้องหาทางเอาคืนมาให้ได้นั่นแหละ” ผมบอก
ปลงๆ
“ยังไง?” มันอีก ผมมองหน้ามันจริงจัง
“กูก็ไม่รู้วะ”
“โอ้ย มึงนี่สมองทำด้วยอะไรวะเนี่ย!” มันขยี้ผมตัวเองจน ยุ่ง ผมยิ้ม แหยๆ ส่งไปให้
ก็แหม ผมไม่รู้นี่ว่าแม่งเก็บรูปไว้ไหน
“ว่าแต่มึงเหอะ อยู่กับไอ้ฟานี่ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นเลยไง?” ผมแซะถาม มันมองหน้าผมป่วยๆ
“ถ้ามึงคิดอะไรเวรๆ อยู่ในหัวกูขอให้มึงหยุดคิดได้เลย ไอ้ฟาแม่งแทบไม่อยู่ติดห้อง เมื่อคืนเข้ามาอาบน้ำแล้วก็ ออกไป ตอนเช้ามืดเลยเดินออกตามหาแต่เสือกไปเจอมึง แทนไง แล้วก็มาเจอมันตอนพามึงเข้ามาพักนี่แหละ” ผม พยักหน้า
“อืม…ไอ้พี่โฟมหลังจากเอ่อ….” ผมหยุดไปเพราะไม่กล้า พูดคำนั้นเท่าไร
“หลังจากเอากับมึงแล้วไงต่อ?” แต่ไอ้เซฟก็สงเคราะห์ต่อ ให้ซะผมหน้าเห่อร้อนอีกครั้ง ไอ้เหี้ยนี่!
“เออนั่นแหละ หลังจากนั้นมันก็คุยโทรศัพท์แล้วก็ออกไป เลย เสียงแม่งโคตรเครียดกูก็เลยใช้จังหวะนั้นหนีออกมา
“กูว่าไม่ใช่แค่พี่โฟมละที่แปลก คนน้องแม่งก็น่าสงสัย มันขมวดคิ้วมุ่นเหมือนกำลังคิด
“แค่กๆๆ” จู่ ๆ ผมก็ดันคอไอออกมา สงสัยเผลอพูดเยอะ ไปหน่อย
“เอาไว้คุยกันคราวหลังแล้วกัน มึงก็กินข้าวให้หมดแล้ว ก็กินยาซะ กูจะไปบอกพวกไอ้ริวว่ามึงทำกิจกรรมวันนี้ไม่ ไหว” ผมพยักหน้าและทำตามที่มันสั่งแต่โดยดี ไอ้เซฟ ออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก
เมื่อผมทำถุกอย่างที่มันบอกเสร็จ ระหว่างนั่งรอข้าวต้ม ย่อยในหัวก็พลางนึกถึงภาพที่เห็นก่อนตื่น
ฝัน?
แต่ทําไมผมถึงฝันว่าไอ้ ‘ฟา’ โดนยิง???!
ผมเงยหน้ามองท้องฟ้าที่ไร้ลมนิ่งราวกับว่าอีกไม่นาน พายุฝนคงจะมา ก่อนจะก้มมองแก้วโค้กที่วางอยู่บนโต๊ะ ตรงหน้าแล้วถอนหายใจหนัก
“ถอนหายใจอีกแล้วนะมึง เป็นไรวะ?” ไอ้เซฟเดินมาพลาง ถามแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับผม ผมถอนหายใจ อีกครั้ง
“เอ้า มึงหนิ มองหน้ากูแล้วถอนใจมันหมายความว่าไงวะ” ไอ้เซฟชักสีหน้าเท้าคางมอง
“เปล่า…” ผมบอกปัดก่อนจะยกแก้วโค้กขึ้นดื่ม
“คิดถึงพี่โฟมอะดี้”
พรวด~~!
“ไอ้เหี้ย~ พ่นน้ำใส่กูทำไมเนี้ย อี๋~”
“แค่กๆ ๆ ๆ ”
พอไอ้เซฟพูดแบบนั้นออกมาผมก็สำลักน้ำใส่หน้ามันทัน ควัน ส่วนผมก็ไอไม่หยุด ไอ้เซฟทำหน้าแหยงๆ และหยิบ ผ้าเช็ดหน้าที่แม่งพกติดตัวไว้ตลอดแบบที่ผู้ชายส่วนใหญ่ ไม่พกกัน ขึ้นมาเช็ดใบหน้าของตัวเอง
สมน้ำหน้า!! โอ้ย แสบคอ แสบจมูก แค่กๆ ๆ ๆ
“สมน้ำหน้ามึงเล่นห่าไรไม่รู้เรื่อง อะน้ำ” มันพูดแกมซะ ใจแต่ก็ยังยื่นขวดน้ำเปล่าของมันมาให้ผม ผมรับมาดื่มใน ทันที
“ใจเย็นถึงเดี๋ยวสำลักอีกนะสัส” ไอ้เซฟปรามเมื่อผมดื่มเอาพรวดๆ
“โอ้ย มึงนั่นแหละพูดเหี้ยไร กูไม่ได้คิดถึงไอ้พี่โฟมนะ เว้ย” พอหายเท่านั้นแหละผมก็โวยวายทันที ไอ้เซฟทา หน้าไม่เชื่อ
“อ้อเหรอ~ แล้วหมาตัวในวะที่นั่งซักกะตายเหมือนหมา ไม่ได้แดกข้าวตอนที่พี่โฟมเปลี่ยนที่นั่งน่ะ แล้วพอพี่เขาไม่ มาหาแม่งก็นั่งถอนหายใจแทบจะทุกวินาที โถ~ เนี้ย ไม่ ได้คิดถึงเล้ยยยย” ผมกัดฟันเถียงไม่ออก
ก็จริงอย่างที่มันพูดหลังจากทริปนั้นก็ผ่านมาเกือบอาทิตย์ แล้ว วันสุดท้ายผมไม่ได้เข้าร่วมเพราะเป็นไข้ พอขากลับ พี่โฟมแม่งก็เปลี่ยนที่นั่งไปหลังสุด ไม่แม้แต่จะมองผม ด้วยซ้ำ ถึงยังงั้นผมก็คิดว่ายังไงก็ต้องฉะกันอยู่ดีเพราะผม อยู่คอนโดพี่มันแต่ปรากฏว่าไอ้พี่โฟมไม่กลับคอนโดเลย ตั้งแต่วันนั้นจนปัจจุบันนี้ แล้วแม่งไม่บอกเหี้ยอะไรเลยนะ ว่าไปไหน จะไปถามพวกพี่แฝดแม่งต้องแซวผมแน่ๆ เลย ปล่อยเลยตามเลยมาจนถึงตอนนี้ เพราะผมก็ไม่อยากเห็น หน้าพี่มันด้วยแหละ พอจะไปอยู่กับไอ้เซฟแม่งก็บอกว่าอยู่ คอนโดไอ้พี่โฟมไปก่อนนั่นแหละดีแล้ว ถามว่าทำไม มันก็ ตอบว่า อยู่ๆ ไปเถอะ หาทางลบรูปด้วย อะไรประมาณนั้น
“หุบปากไปเลยมึง ไหนแม่งตอนแรกจะไปซัดพี่มันไง แล้วนี่มาแซว มาชิปกูเพื่อ?” ผมพูดเสียงหงุดหงิด
“สนุกไง~” ไอ้เซฟตอบหน้าตาระรื่น ผมแทบจะลุกไปซัด หน้ามันซะให้ได้ ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนนะมึงโดนแน่!
“สนุกไปคนเดียวเหอะมึง! ” ผมชูนิ้วกลางให้มันหลังพูดจบ มันขาใหญ่ มีอะไรหน้าตลก —
“มึงยอมรับมาเหอะว่ามึงคิดถึงพี่โฟมอะ ฮ่าๆๆๆ” แหนะ ก นึกว่าจบประเด็นนี้ไปแล้วนะ
“แล้วทำไมกูต้องคิดถึงมันด้วย ??” ผมกลับ
“ปกตินี่ที่มึงจะคิดถึงน่ะ มึงอยู่กินกับพี่มันตั้งเกือบ ๆ สอง อาทิตย์ ตัวติดกันแทบจะตลอดเวลา แถมเอากันแทบทุก คืน พอพี่มันไม่สนใจมึง มันก็เหมือนขาดอะไรไปใช่มั้ยล่ะ แล้วก็…ตามสเต็ป เอากันไปเดี๋ยวก็รักกันเอง ยิ่งเอามากยิ่ง รักมาก ไงมึง ฮ่า ๆๆๆ
“ตรรกะอื่นๆ เหอะมึง แล้วมึงจะบอกว่ากูชอบไอ้พี่โฟม? ” ผมเลิกคิ้วถาม
“เรื่องนั้น…มึงต้องถามใจมึงดูเว้ย ถามกูไม่ได้หรอก” คราวนี้มันชักสีหน้าจริงจังตอนพูด จนผมอดจะคิดตามไม่ ได้
ผม…ชอบไอ้พี่โฟม?…เปล่าวะ??
“แกนั่นใครวะ โคตรเท่ห์~”
“เออวะ มาหาใครกันวะ อิจฉาโว้ย”
ผมหูกระตุกเมื่อได้ยินเสียงกลุ่มผู้หญิงโต๊ะข้างๆ กระซิบ กันเสียงดัง – –
“เต๊ะครับ” เสียงกระซิบที่ข้างหูทำเอาผมสะดุ้งจนต้องหัน ไปหาต้นเสียง
อีก!
ผมนิ่งค้างเมื่อเห็นหน้าพี่สแตนด์อยู่ใกล้ในระยะที่จมูกชน
กัน!!
มาไงวะเนี่ย !!
“วะ หวัดดีพี่…” ผมทักทายก่อนจะเขยิบถอยห่างออกมา จนสุดเก้าอี้ไม้ของโรงอาหารที่นั่งอยู่ ไอ้พี่สแตนด์นั่งลง ข้างๆ ผมนิ่งๆ ไม่ยอมพูดอะไรออกมา
อะ อะไรไรวะ? มาแล้วก็ไม่พูดใบ้แดกชั่วขณะรึไง??
“มีไรป่าวพี่” ไอ้เซฟลองเชิงถามก่อน พี่สแตนด์เมินมัน แล้วหันมาพูดกับผมแทน
“พี่นึกว่าเต๊ะจะโกรธพี่ซะอีก” ผมแอบเห็นไอ้เซฟชัก สีหน้าไม่พอใจที่ถูกเมิน แต่กลับเปลี่ยนมาเป็นมองผมแล้ว ยิ้มกรมกริ่ม
“โกรธเรื่องอะไรละพี่” ผมทำเป็นไม่สนใจสายตานั่นแล้ว ตอบไอ้พี่สแตนด์ไปด้วยคำถาม พี่มันเลิกคิ้วนิดให้ดูหล่อ (?)
“ก็เรื่องที่คลับวันนั้นไงครับ?” อ่อ…นึกออกละ เมื่อนึกได้ คิ้วผมก็เริ่มกระตุก นี่ผมลืมเรื่องน่าอัปยศวันนั้นไปได้ยังไง ฮม!
“คือว่า….ถ้าพี่ไม่พูดถึงมันอีกผมจะทำเป็นลืมๆ มันไปเลย แล้วกันนะครับ” ผมกัดฟันพูด จริงๆ ไอ้เรื่องวางยาโกรธ แต่ที่โกรธกว่าคือหลังจากนั้นต่างหาก ดันเสียตัวให้ ไอ้พี่โฟมไปซะได้!!!
“อ่า ครับๆ” พี่สแตนด์รับคำแล้วยิ้มแหยๆ ผมคิดไปเอง หรืออะไร ทำไมรู้สึกว่าพี่มันดูซอฟๆ ดูไม่โหดเหมือนตอน แรกที่เจอ?
“แล้วพี่มาที่นี่มีธุระอะไรเหรอครับ” ผมถามตามสงสัย สแตนด์มองผมจริงจัง ก่อนจะพูดในคำที่ทำเอาโต๊ะสาวๆ รอบๆ ผมถึงกับพากันลมจับ
“ไปเดทกับพี่นะครับ
ผมนี่อึ้งแดก ! ! !
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ