บทที่ 12
ผมเอามือปิดปากด้วยความตกใจรู้สึกอยากจะอ้วกยังไง บอกไม่ถูก ให้ตายสินี่ผมต้องรอให้พวกมันขนของกันให้ เสร็จสินะถึงจะออกไปได้ ถ้าออกไปตอนนี้ได้ตายโหงกัน แน่ละกู!!
ไม่นานพวกนั้นก็บนของเสร็จผมถอนหายใจโล่งอกเมื่อ เห็นพวกนั้นขึ้นเรือไปกันเกือบหมดแล้ว จะเหลือกก็แต่ ไอ้ลูกพี่ใหญ่ที่ยืนมองซ้ายมองขวาเหมือนตรวจความ เรียบร้อยอยู่เท่านั้น
เฮือก!
แกร๊บ!
เพราะตกใจที่จู่ๆ ไอ้ลูกพี่ใหญ่นั่นหันมาทางนี้เลยเผลอ ถอยหลังไปก้าวหนึ่งจนเหยียบเข้ากับใบมะพร้าวแห้งที่อยู่ บนพื้น ทําไมตอนเดินมากไม่เห็นนนนน โว้ย รออะไรล่ะ มันเดินมาแล้วก็โกยสิคร้าบบบบ!!
ผมหันหลังเตียมวิ่งกลับไปทางเดิมแต่ทว่าสงสัยกรรม จะเยอะเลือกสะดุดตอไม้ล้มหน้าทิ่มสะเทือนไปทั้งร่างจน ขยับตัวไม่ได้ เส้นผมโดนกระชากขึ้นแรงจนชา ผมนิ่มหน้าด้วยความเจ็บ
หน้อย มาแอบดูพวกกูส่งของ มึงพวกใครตอบกูมา! ไม่ งั้นตาย!”มันตะคอกใส่ พลางดึงผมให้หันไปมองมัน ผม มองปฏิกิริยาแปลกๆ ที่มันแสดงออกมาเหมือนคนตกใจนั่น
“มึง..ไอ้ดัง… “มันพึมพำ อนึงออกมาและยังมองผมแบบ เติม ผมขมวดคิ้วมองหน้ามันอย่างสงสัย จะว่าไปทำไมรู้ สุกลุ้นหน้าแบ่งจังวะ?
“เฮ้ย! ทําไรกันน่ะ!!”ยังไม่ได้ทันทําอะไรต่อปีมีเสียง ตะโกนแทรกมาไอ้ลูก สะดุ้งตกใจปล่อยผมออกวิ่งออก ไป แต่ก็ยังมิวายหันมามองผมชั่วครู่ก่อนจะวิ่งขึ้นเรือไป
ถึงจะคุ้นหน้าแต่กลับนึกไม่ออก ทว่ารอยสักสักลายกระ โหลกที่ข้อมือของมันซึ่งผมเห็นแค่เพียงครู่เดียวกลับ ทําให้ภาพบางอย่างแล่นลิ้วเข้ามา..
‘ยิงแม่งสิวะ! มันเป็นหนอนของตำรวจนะเว้ย!
“ผะ ผม…
‘งั้นกูยิงเองก็ได้!’
ปัง! ปัง! ปัง!
เฮือก!
ผมหอบหายใจหนักมองเพดานสีครีมนิ่ง
ที่ไหนวะเนี่ย…แล้วภาพเมื่อกี้มันอะไร..?
“เหี้ยเต๊ะ!ตื่นแล้วเหรอมึงทำกูใจหายใจคว่ำหมดสัสเอ้ ย! เสียงคุ้นเคยดังขึ้นมาพร้อมกับกลิ่นหอมที่เรียกน้ำย่อย ของผมให้กู่ร้องได้ของข้าวต้มสูตรพิเศษที่ผมได้กินบ่อยๆ ตอนป่วย
ผมมองไอ้เซฟเดินมาพร้อมถาดอาหารในมือ มันวางของ ลงที่โต๊ะหัวเตียงแล้วมันก็มานั่งข้างๆ เตียงที่ผมนอน
“ไงมึง…”ผมทักเสียงที่ขนาดตัวเองยังต้องตกใจ
“เออรัส แล้วไปทำเหี้ยไรมาถึงได้โดนพี่เบิ้มกระชากหัวแบบนั่นได้วะ ถ้ากูไปไม่ทันนะมึงเละแน่ จะว่าไปไอ้รอย จําตามตัวมึงนี่ทํากุหลอนวะเหมือนคนเป็นเอดส์ หรือมึง โดนไอ้นั่นข่มขืน!!”มันรัวเป็นชุด ผมมองมันอย่างสะอา
“กูไม่ได้โดนไอ้เบิ้มนั่นข่มขืนเว้ย รอยนี่มันได้มาก่อนน่า นั้น… “ผมพูดบอกเสียงพร่า อืม…ผมมาอยู่ห้องพักมันได้ และจากที่มันเล่าแปลว่าไปคนที่ตะโกนนั่นคือมันสินะ โอ้ย กูยังพอมีบุญอยู่บ้างเว้ยย ;;
“แม่ง สงสารเสียงวะ กูฟังไม่รู้เรื่องเลย ไว้หายค่อยคุย แลัวกันมีง”ผมพยักหน้าช้าๆ
ไอ้เซฟหยิบแก้วน้ำมาให้ผมจิบ ผมพยุงตัวลุกขึ้นรับน้ำ มาจิบนิดแล้วคืนมันเพราะแสบคอ ทีนี้มันงัดแจงยกชาม ข้าวต้มมากใส่ช้อนและป้อนผมเหมือนรู้หน้าที่ ผมก็อ้า ปากรับด้วยความเคยชิน เอ่อ ไม่ใช่ว่าผมกับไอ้เซฟฟา แบบนี้กันบ่อยๆ นะครับ แต่ถ้าเกิดผมป่วยหรือมันป่วย พวกเราก็จะดูแลกันแบบนี้ตลอดมาตั้งแต่เริ่มคบเพื่อนกัน นั่นแหละ อีกอย่างพ่อมันกับพ่อผมก็สนิทกันด้วยเลยไม่ ซีอะไรเท่าไร
ปิ๊ง!
เสียงเหมือนอะไรกระแทกประตูทำเอาผมกับไอ้เซฟ สะดุ้งตกใจหมู่ มองผู้มาใหม่ที่ยืนทำหน้าบอกบุญไม่รับ มองเราทั้งสองคนอยู่
เหี้ย! พี่โฟมมา!
“อ่าว พี่โฟม? อ่อ ไอ้ฟาคงไปบอกใช่ป๊ะแล้วทำ” มัน ชะงักเพราะผมเอื้อมมือไปกระตุกชายเสื้อด้านหลังของมัน ไอ้เซฟหันมามองเชิงสงสัย ผมส่ายหัวแล้วทำหน้าเครียดๆ มันยิ่งทำหน้างงเข้าไปใหญ่ โอ้ย ไอ้สัสนั่นโจทย์กู กูไม่ อยากเจอตอนนี้!!!
ผมเลยโน้มคอมันลงมากระซิบที่ข้างหูเบาๆ (จริงๆ เพราะ เสียงแหบด้วย)
“ไอ้พี่โฟมนั่นแหละที่ทำรอยบนตัวกู! กูไม่อยากเจอมัน!”
ปิง!
เสียงกระแทกประตูดังอีกครั้ง จะกระแทกอะไรนักหนา กูตกใจ! แช่งให้มือมันพังซะดีมั้ย! ไอ้เซฟหันไปหาพี่โฟม คราวนี้สีหน้ามันเคร่งขรึมกว่าทุกครั้ง มันลุกขึ้นและเดินไปหาพี่โฟม และพูดในสิ่งที่ผมฟังแล้วอยากจะขุด หลุมมุดลงไปข้างล่างซะเดี๋ยวนี้เลย!!
“เหมือนเพื่อนผมจะไม่อยากเจอพี่ตอนนี้อะ ช่วยออกไป หน่อยได้มั้ยครับ”
ไอ้เหี้ยยย เห็นมั้ยมันหันมาจ้องกูเขม็งเลย!! อ้างอะไรก็ ไดเที่ไม่กระทบตัวกูหน่อยจะได้มั้ยยยยย!
ผมหลบสายตาเดือดๆ ของไอ้พี่โฟมที่มองมา แต่คำพูด ของพี่มันทำให้ผมต้องหันไปอีกครั้ง
“แต่พี่เป็นห่วงมัน” ผมมองพี่มันอึ้งๆ ผมคิดว่ามันเฟค ทว่าสายตาที่มองมานั้นมันต่างจากตอนแรก เหมือนพี่มัน เป็นห่วงผมจริงๆ
จู่ๆ ก็รู้สึกใจเต้นแปลกๆ !?
“ถ้าห่วงมันก็คิดก่อนทำหน่อยสิครับ! แหกตาดูสภาพ เพื่อนผมด้วย! แล้วเมื่อคืนถ้าผมไม่ไปเจอมันคงโดนไอ้เวร ที่ไหนไม่รู้ฉุดไปแล้ว! ทำอะไรก็คิดหน่อยสิครับพี่! เพื่อน ผมคนนะไม่ใช่ของเล่น ผมไม่รู้หรอกนะว่าพี่ต้งการอะไร จากเพื่อนผมน่ะ! แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเต๊ะอีกผมเล่นพี่ถึงตายแน่!!!” เหมือนไปกดสวิตซ์สักอย่างของไอ้ เซฟ จู่ๆ แม่งก็กระชากคอเสื้อพี่โฟมและตะคอกใส่ก่อนจะ ผลักไอ้พี่โฟมออกไปนอกห้องพร้อมปิดประตูใส่หน้าแบบ ไม่มีแล้ว งมารยาทความเคารพในตอนแรก
“มะ มึงโมโหอะไรวะ?” ผมถามข็มขัดความเงียบ มัน น มามองหน้านิ่งผมกลืน าลายลงคอ
“มึงยังจะพูดอีกเหรอวะว่ากูโมโหอะไร มีงบอกกูเองนะ เว้ยว่าไอ้เหี่ยพี่โฟมมันทำรอยพวกนั้นบนตัวมึงน่ะ มึงได้ ดูสภาพมึงมั้ยสัส! เหมือนคนโดนรุมโทรม ไหนจะรอยกัด รอยดูด เหี้ยเอ้ย กูดูแลของกูมาดีๆ เลือกมาย่ำยีซะได้ กลับ ไปตั้นหน้าแม่ง!!”
“เฮ้ยๆ ใจเย็นมึง” ผมรีบห้ามเมื่อมันทำท่าจะเปิดประตู ออกไปต่อยไอ้พี่โฟมจริงๆ
“มึงปกป้องมันเหรอ ะ!”
แม่ง เหมือนผัวเมียทะเลาะกัน —
“มึงไม่ต้องมาแสร้งห่วงกูขนาดนั้น กูรู้มึงแค่อยากต่อย เขา” ผมบอกเสียงนิ่ง มันยืนมองผมสักพักก่อนจะยิ้มออกมา และเดินมานั่งที่เดิม เห็นมันดูไม่อะไรกับพี่โฟมแต่ ผมก็เดาออกว่ามันเกลียดขี้หน้าแค่ไหน อันที่จริงๆ มันไม่ เคยญาติดีกับคนอื่นนอกจากคนที่สนิทกันมานานรู้ไส้พุง หรือคนในครอบครัวนั่นแหละ
“กูไม่ได้แสร้งเว้ย แค่ห่วงน้องชายในอนาคต” ไม่พูด เปล่ามันเอื้อมมือมายีผมผมจนฟูฟ่อง ผมทำหน้าเซ็ง อา.. ฟังไม่ผิดหรอกครับ ปีหน้าไอ้เซฟก็จะได้เข้ามาเป็น ครอบครัวเดียวกับผมแล้ว ถามว่าทำไม? คือเรื่องแม่งซับ ซ้อนขี้เกียจเล่าอะครับ ฮ่าๆๆๆๆ
“น้องชายห่าไรแก่กว่ากูปีเดียวแล้วอย่าเหลิงสัส” ผมลาก เสียงยาว มันขำ
“แล้วมึงจะเล่าให้กูฟังได้ยัง?” มันเลิกคิ้วถาม ผมมองหน้า มันป่วยๆ แม่ง ไม่อยากบอกเลย แต่ถ้าไม่บอกมันต้องโกรธ ผมแน่ๆ นี่ต้องเล่า?
“เออๆ เล่าก็ได้! เลิกมองกูแบบนั้นได้แล้ว!” ผมถอย หายใจแพ้ให้กับสายตาคาดคั้นของมันกันจะเริ่มเล่าเรื่อง ตั้งแต่เจอไอ้พี่โฟม อืม….นึกออกเลยปฏิกิริยาของมันหลัง ฟังจบ…
“เหี้ยเอ้ย! กูจะไปต่อยมันจริงๆ ละ!!” อย่างที่คิดครับ พอ ผมเล่าจบแม่งก็หัวฟัดหัวเหวี่ยงจะไปกระทืบไอ้พี่โฟมให้ ได้
“ใจเย็นดิวะมึง เจอหน้าครั้งต่อไปค่อยต่อยก็ได้ ไม่ห้ามครับ อยากให้แม่งโดนต่อยเหมือนกัน สะใจดี หึหึ “แล้วนี่มึงจะเอาไง”มันถามอีก ผมก็ตอบไปตามที่คิด “กูไม่อยากเจอมันสักพักวะ
“แหม่ ทำเหมือนน้อยใจผัวไปได้”
“ผัวพ่อง!!”
“เอ้าไอ้นี่ จึงได้กับเขากี่รอบแล้วละห่ำ ไม่ให้เรียกผัวแล้ว เรียกเหี้ยอะไร?!”
“มึงอยู่ข้างกูจริงป๊ะเนี่ย??
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ