ชีวิตที่เฝ้ารอเธอ

บทที่1 โยนมันออกไป



บทที่1 โยนมันออกไป

“เซิ่นจือเชีย ออกไปใช้ชีวิตที่ดี เดินไปข้างหน้า อย่า เข้ามาอีก และไม่ต้องย้อนมองกลับมาอีก”

คำเตือนสติของผู้คุมยังคงดังก้องอยู่ในหู หลังจาก นั้น ประตูใหญ่ของคุกที่อยู่ด้านหลังก็ถูกเปิดออกเสียง ดัง“เพิ่ง” พร้อมควันโขมง เหมือนปลุกเซิ่นจือเชี่ยนจาก ฝันร้ายตลอดระยะเวลา3ปีที่ผ่านมา

ชีวิตที่ดี ?

ช่วงฤดูหนาวแท้ๆ แต่เซิ่นจือเชี่ยยังคงสวมเสื้อยืด และกางเกงยีนส์ตัวเดิมที่เธอใส่อยู่ในคุก เธอจ้องมองโลก ภายนอกคุกอย่างเหม่อลอย

แม้จะเป็นเวลาสั้นๆเพียงสามปีนับตั้งแต่เธอเข้าคุก แต่โลกกลับไม่คุ้นเคยจนแทบจำไม่ได้ จะมีชีวิตที่ดีได้ อย่างไรสำหรับเธอที่เป็นแบบนี้

ยิ่งไม่ต้องพูดถึง สถานที่ที่เธอสามารถเปลี่ยนเสื้อผ้า

ก็ไม่มี

จอมขวัญหนาวมากจนปากซีดเซียว แต่ก็ยากที่จะ กลับที่นั่นหรอ ?

แต่ว่าที่นั่น ก็คงไม่ต้อนรับเธออีกต่อไป
แต่เธอ เป็นภรรยาของผู้ชายคนนั้นไม่ใช่เหรอ?

กลัวทำไม แม้ว่าเธอจะถูกบังคับให้เซ็นใบหย่าในวัน ที่เข้าคุกก็ตาม

ยังไม่ทันได้คิดไตร่ตรอง เซิ่นจือเชี่ยก็ได้ควักเศษ เหรียญที่มีนั่งรถบัส สถานที่ที่เธอลงคือ บ้านของเหลียง ชวน

เธอไม่คิดที่อยากจะอยู่ที่นี่เลย แต่เสื้อผ้าของเธอ เมื่อสามปีที่แล้วยังอยู่ที่นี่ เธอแค่อยากมาเก็บของแล้วไป ความต้องการเล็กๆน้อยๆนี้ คงไม่ทำให้คนนั้นโกรธหรือ กมั้ง

เซิ่นจือเชี่ยยืนอยู่หน้าประตูที่แกะสลักลายดอกไม้ ยัง ไม่ทันได้กดกริ่ง คนใช้ของบ้านกรก็รู้ว่าเป็นเธอ

“พระเจ้า นี่ใช่คุณผู้หญิงรึป่าว ? อากาศหนาวขนาดนี้ ยืนอยู่ข้างนอกทําไม ?

“คุณผู้หญิงอะไรกัน คุณผู้ชายได้เซ็นหย่ากับเธอ ไปเมื่อสามปีก่อนแล้ว ! เธอฆ่าแม่ของคุณผู้ชาย ผู้หญิง อสรพิษอย่างนั้น ไม่มีคุณสมบัติที่จะมาเป็นนายหญิงของ เราได้หรอก !
“อะไรนะ ? เธอเป็นคนฆ่าแม่ของคุณผู้ชายงั้นหรอ ? ไหนว่าถูกรถชนไง ?

“ก็เธอนี่แหละเป็นคนขับรถชน จริงๆควรโดนโทษ ประหารชีวิต แต่ตระกูลเช่นนั้นเป็นคนชั้นสูง ซ้ำยังมี ลูกสาวคนเดียวแบบนี้ ก็ไม่รู้ว่าเบื้องหลังใช้วิธีอะไร จึงลด โทษเธอเหลือเพียงสามปี ในความคิดของฉัน ผู้หญิงสาร เวแบบนี้ ตายเป็นหมื่นๆครั้งก็ไม่น่าเสียดาย

“เห้อ ช่างเถอะ เธอก็ติดคุกมาสามปีแล้ว เธอลองคิด ดูสิว่าในคุกนั้นสามารถฆ่าคนทางอ้อมอย่างทรมานใจได้ เลยนะ หนำซ้ำคุณผู้ชายยังกล่าวทักทายเธอเป็นพิเศษ ไม่ แน่อาจจะทรมานกว่าการตายเป็นหมื่นๆครั้งเสียอีก รีบอยู่ ห่างจากคนประเภทนี้จะดีกว่า เดี๋ยวจะโชคร้ายไปด้วย

ประโยคประชดประชันเหล่านี้เหมือนมืดแหลมคมที่ ทิ่มเข้าหูของเธอ คงจะชาไปตั้งแต่แรกแล้ว แต่พอตอนที่ เธอได้ยินประโยคที่พูดว่า “คุณผู้ชายยังกล่าวทักทายเธอ เป็นพิเศษ หัวใจก็สั่นอย่างรุนแรงโดยไม่สามารถควบคุม ไม่ได้

เซิ่นจือเชียเจ็บใจจนหายใจไม่ออก แต่เมื่อกังจะหัน หลังเดินออกไป ทันใดนั้นประตูแกะสลักลายดอกไม้บาน ใหญ่ของบ้านก็เปิดออก เป็นบอดี้การ์ดเรียงสองแถวรีบ เดินออกมา วินาทีต่อมา ชายที่หล่อเหลาราวกับเทพบุตรถูกพาตัวออกมา

มืออันเรียวยาวของชายคนนั้นที่จับโทรศัพท์อยู่ ราวกับว่ามีบางอย่างเร่งด่วนเกิดขึ้นในโทรศัพท์ ใบหน้า หล่อเหลาของเขาเต็มไปด้วยความวิตกกังวลที่ไม่เข้ากับ ของเขาซะเลย

ทันใดนั้นเอง เขาเงยหน้าขั้น และจ้องไปที่ดวงตา ของจอมขวัญ

จี้เหลียงชวน !

เรื่องผ่านมาถึงทุกวันนี้ เซิ่นจือเชียยังคงรู้สึกหวั่นไหว กับชื่อนี้ แต่ที่ไม่เหมือนเดิมกับเมื่อสามปีก่อนก็คือ เธอไม่รู้ สึกหวั่นไหวเหมือนวัยสาวแบบนั้นอีกนั้น

เธอไม่กล้าอีกแล้ว

เธอไม่ใช่สาวน้อยที่วิ่งตามข้างหลังเขาแบบนั้นอีก ต่อไป และเขาก็ไม่ใช่นักเรียนหนุ่มที่สะพายกระเป๋าเดินนำ หน้าเธออย่างเฉยชาเหมือนตอนวัยรุ่นอีกต่อไป ระหว่าง เขาทั้งสองคน มีชีวิตคนๆหนึ่งกีดกั้นระหว่างทั้งสอง

ชีวิตของแม่เขา !
เขาเกลียดเธอเข้ากระดูก เกลียดยันขี้เถ้ากระดูกของ

แน่นอนว่า จี้เหลียงชวนที่เห็นเซิ่นจือเชี่ยเมื่อสักครู่ นั้น ข้อต่อมือของเขาก็บิดอย่างรุนแรง ความเกลียดชังที่ มีต่อเธอก็ทนไม่ได้จนขว้างโทรศัพท์ที่อยู่ในมือไปที่เธอ ดุอย่างเย็นชา : “ฉันเชิญพวกแกมากินข้าวฟรีหรอ ของ สกปรกนี้มาจากไหนกัน รีบโยนมันออกไป !

พูดจบ เขารีบเดินขึ้นรถอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าดวงตา ของเขาจะสกปกรมากขึ้นหากยังมองไปที่เซิ่นจือเชี่ย

ใบหน้าของเซิ่นจือเชียซีดจนไม่มีเลือด วินาทีต่อมา บอดี้การ์ดได้พุ่งตัวไปจับตัวเธอไว้ ท่าทางไร้ศักดิ์ศรีแบบนี้ ทําเสมือนเธอเป็นขยะโยนออกไปด้านนอก

“เหลียงชวน”

เซิ่นจือเชี่ยพูดพึมพำ แต่สิ่งที่คิดไม่ถึงเลย ก็คือเสียง ที่ไม่ค่อยได้ยินของเธอนั้นเอง จากรถหรูที่ขับออกไปนั้น ได้ย้อนกลับรถมา

“เอาตัวเธอขึ้นรถให้ฉัน ! “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ