บทที่ 9 ใครกล้าแย่งผู้หญิงของฉัน
ชิงโถงใจกว้างมาก ฉันแทบจะอดใจไม่ไหวเอาบัตรของเธอ ไปซื้ออิสรภาพของฉันคืนมา
แต่คิดไปคิดมา ในที่สุดก็ปฏิเสธไป เพราะศักดิ์ศรีที่น่า สงสารมันก็ยังก่อกวนอยู่
และดูหมือนว่าเพราะฉันปฏิเสธเธอ ทำให้ดีชิงโถงเชื่อฉัน จริง ๆ ว่าฉันไม่ใช้ผู้ชายที่ยอมทำทุกอย่างเพราะเงิน
หลังจากนั้น เธอก็เดินมาใกล้ฉัน พลางกอดฉัน ” ช่างเป็น อะไรที่น่ามหัศจรรย์และหายากจริง ๆ ฉันอยากจะเก็บสะสม นายไว้จริง ๆ แต่ว่าสะสมเอาไว้รสชาติก็เปลี่ยนแล้ว ฉันจะยัง ชอบนายได้ยังไงกันล่ะ ? ”
เมื่อดี้ชิงโถงกลับไปแล้ว ระหว่างเราก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น เกินกว่ามิตรภาพเลย พวกเราบริสุทธิ์ และบัตรที่ฉันคืนเธอ ไปก็เป็นหลักฐานที่ดีที่สุด
หลังจาก ชิงโถงกลับไป ฉันก็นอนลงบนโซฟาสักพักหนึ่ง รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าการจัดการกับผู้หญิงก็ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยเฉพาะการต้องใช้สมองมากกว่า กำลัง
หลังจากนอนได้เกือบสิบนาที ฉันก็กำลังจะออกไป แต่
ประตูห้องก็ถูกเปิดออก จางหงหมู่เดินเข้ามาอย่างสง่า
“เก่งมากหนุ่มน้อย เสื้อผ้าไม่ยับยู่ยี่ ชิงโถงก็ดูจะพอใจ เพียงแค่ใช้ปากก็จัดการเธอไว้ได้ นับถือจริง ๆ !
จางหงหวู่นั่งลงบนโซฟาพลางเอาขาไขว่ห้าง จากนั้นก็จุด บุหรี่ แล้วก็ยื่นให้ฉัน
ฉันเอื้อมมือไปรับ จากนั้นก็เอาเข้าปาก การที่ปอดโดน โอบล้อมไปด้วยควันมันกระตุ้นจริง รู้สึกเพลิดเพลินมาก และกลิ่นริมฝีปากของจางหงหมู่บนก้นบุหรี่นั้น ยิ่งทำให้ยิ่ง เพลิดเพลินเข้าไปอีก การเคลื่อนไหวของเธอโดยไม่ตั้งใจ ช่างยั่วยวนคนอื่นหลงใหลจริง ๆ
“ใช่ ผมแค่ทั้งเลียทั้งดูด แต่ก็ไม่ง่ายที่จะส่งชิงโถงออก ไป แต่ว่าร่างกายผมจะไม่ได้ทำอะไรเลย ถ้างั้น พี่หงหวู่อยาก จะช่วยผมไหม ? ”
ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนไป คำพูดแบบนี้ฉันคงไม่กล้าพูดออก ไปแน่นอน แต่ด้วยความ “เร่าร้อน” อยู่ที่เส้นทางสายนี้ทำให้ ฉันเปลี่ยนไปอ่างเห็นได้ชัดเจน หรืออาจจะพูดได้ว่าก้นเบื้อง ของหัวใจฉันเดิมทีก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว เพียงแค่มันคลุมเครือ ที่โดนปกคลุมอยู่หลายชั้นได้ถูกเส้นทางนี้เปิดออกไปแล้ว
จางหงหวู่หัวเราะลั่น แต่ในขณะที่ฉันไม่ทันได้ตั้งตัว แต่ก็ นอนคว่ำลงมาบนร่างกายของฉัน สายตาที่ยั่วยวน พลางเสีย ไปรอบ ๆ ริมฝีปาก หน้าอกที่อวบอิ่มของเธอก็ดันเข้ามาที่หน้าอกของฉัน ขาเรียวยาวทั้งสองข้างของเธอที่สวมใส่ถุง น่องสีดาก็ถูไปมากับร่างกายฉันอย่างเป็นจังหวะ และมือขาว ใสทั้งสองข้างของเธอก็สัมผัสไปที่ส่วนนั้นของฉัน
ภายใต้เสื้อผ้า ที่โดนนวดคลึง และโดนลูบคลำ การสัมผัส ทุกครั้งนั้นพอดิบพอดี และทุกครั้งก็ทำให้ฉันเพลิดเพลิน เดิม ที่ฉันคิดว่าการซัก ในไม่กี่วินาทีก่อนจะเสร็จความใคร่จะเป็น จุดที่ฟินที่สุดของผู้ชาย แต่จางหงหากำลังใช้มือของเธอบอก ฉันอยู่ว่า ที่จริงแล้วฉันคิดผิด และก็ผิดอย่างมหัน
ทันใดนั้น ก็มีเสียงร้องครางออกมาจากปากเล็ก ๆ ของ เธอ น่าหลงใหลมาก ราวกับปีศาจจิ้งจอกเก้ากรงเล็บจาก นรก ที่ต้องการจะลากวิญญาณมนุษย์ให้จมลงไปสู่นรก นั้น ทำให้ฉันยับยั้งใจไม่อยู่ และไม่คิดจะขัดขืน
ผ่านไปไม่นาน ประมาณสองสามนาที ฉันไม่ทันแม้แต่จะ อ้าปากของความเมตตา ก็ยอมปลดอาวุธออกมาภายใต้มือ ของจางหงหวู่
หลังจากนั้น จางหงหวก็ใช้ลิ้นเลียติ่งหูของฉันเบา ๆ “หนุ่มน้อย อยากจะปรนนิบัติน้องสาวของฉัน นายจะอ่อน เกินไป เมื่อไหร่ที่นายสามารถทนอยู่ในมือฉันได้นานสิบนาที นายก็จะกลายเป็นชายหนุ่มที่มีคุณสมบัตินั้น
ฉันอับอายมาก ผู้ชายร่างใหญ่คนหนึ่ง โดนผู้หญิง ปลดอาวุธด้วยมือได้ภายในสองสามนาที น่าอายจริง ๆ
ฉันอยากอยู่ด้านบนสุด ไม่ได้อยากมีคุณสมบัตินั้น
จางหงหวู่แลบลิ้นออกมา เพียงครึ่งเดียว “ งั้นก็รอให้ข้าง ล่างนั้นทนให้ได้ครึ่งชั่วโมง จนถึงตอนนี้ฉันยังไม่เคยเห็น ผู้ชายคนไหนทําได้เลย สงสัย……นายเอง มาก่อน ก็อาจจะสําลักออก
จากนั้น จางหงหวก็หัวเราะคิกคักออกมาแล้วเดินออกไป แต่ก่อนจะออกไปเธอหยุดอยู่ที่ประตูแล้วโยนแบงก์ร้อยมา ให้ฉันทึกหนึ่ง แล้วพูดว่านี้คือเงินเอาไว้ติดกระเป๋าของฉัน
ยิ้ม ดูจากเงินติดกระเป๋านี้แล้ว น่าจะทำให้ฉันมีอนาคตที่ สดใสได้เลย
หลังจากฉันออกจากเล่สิ่งชิงแล้ว ก็ตรงกลับบ้านทันที
หยาวเชียวไม่อยู่บ้าน สงสัยว่าจะออกไปทำงาน
ฉันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ก็เตรียมตัวจะทำอะไรกิน เสียหน่อย แต่แล้ว โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
และฉันก็กำลังครุ่นคิดว่า สายที่โทรเข้ามาจะเป็นจางหง หวหรือว่าอยู่ถึง แต่เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็พบว่าตัวเอง ผิดแล้ว เพราะสายที่โทรเข้ามาคือหนูเจิ่นดง
เมื่อมาถึงร้านอาหารที่นัดไว้ ฉันก็เห็นหนูเงินดง จากนั้น เราทั้งสองก็นั่งกินนั่งดื่มอย่างไม่มีจำกัด
เขาบอกฉันว่าวันนี้เข้ามาทำธุระ ก็เลยแวะมาหาฉัน แต่ก่อนจะมาหาฉันก็แวะเยี่ยมพ่อฉันแล้วที่โรงพยาบาล
ฉันไม่ได้พูดอะไร พลางชนเขาไปแก้วหนึ่ง เพื่อนสนิท ไม่ จําเป็นต้องพูดอะไรมากมาย
หลังจากกินเสร็จ หนูเจิ่นดงที่ดื่มไปยกใหญ่ก็อยากจะไป ร้องเพลงต่อให้ได้ และยังบอกอีกว่าต้องเอาแบบที่มีผู้หญิง
ด้วย
ดังนั้นจึงไม่มีทางเลือก ฉันเลยพาเขาไปร้านคาราโอเกะที่ ใกล้ที่สุด
เมื่อเข้ามาถึง เขาก็เกิดถูกใจสาวที่กำลังจ่ายเงินอยู่ที่ แคชเชียร์
หญิงสาวคนนั้นสวยมากจริง ๆ อายุประมาณยี่สิบ เป็นสาว ใสวัยแรกแย้ม ชุดกระโปรงสีขาว มัดผมหางม้าเล็ก ๆ ทำให้ บริสุทธิ์มาก ๆ ถ้าเปรียบกับสังคมสมัยนี้ราวกับดอกบัวที่ไม่ แปดเปื้อนดินโคลน และเป็นดอกบัวที่บริสุทธิ์
แต่ปัญหาก็คือ เธอเป็นลูกค้าที่กำลังจ่ายเงินอยู่ ไม่ใช่สาว บริการ!
หวูเจิ่นดงเดินโซซัดโซเซจะไปจับเธอให้ไปร้องเพลงเป็น เพื่อนด้วย ฉันก็รีบดึงเขาเอาไว้
แต่พูดจริง ๆ ฉันแทบจะดึงเขาไว้ไม่ไหว เพราะเขาเป็นชาย ร่างใหญ่ อายุยังน้อยและยังฝึกศิลปะการต่อสู้มาด้วย ฉันยังรู้สึกกระวนกระวายใจ ว่าเขาจะชกเข้ามาที่เบ้าตาฉันจนบวม
ในขณะที่ฉันกำลังไร้ซึ่งหนทางจะจัดการได้ ก็มีผู้ชายที่มี รอยสักรูปหัวเสือบนแขนเดินลงบันไดมา เดินแกว่งไปแกว่ง มา สายตา สายตาเลือนราง เพราะน่าจะดื่มมาเยอะพอ สมควรแล้ว
แต่ที่บังเอิญก็คือ เขาก็คิดว่าหญิงสาวคนนั้นเป็นสาวขาย
บริการ
” โอโห้ สาวสวย มา ขึ้นไปสนุกเป็นเพื่อนพวกพี่หน่อย! หนุ่มรอยสักคนนั้นก็ดึงหญิงสาวคนนั้น แต่หญิงสาวคนนั้น
ดิ้นรนขัดขืน บริการของร้านคาราโอเกะก็ช่วยห้ามปราบ
ฉันลากหาเงินดงออกมา ” พอได้แล้ว สาวคนนั้น โดยแขก คนนั้นลากไปแล้ว พวกเรากลับเถอะ! ”
“ แม่งเอ้ย ใครกล้าแย่งผู้หญิงของฉัน!!! ”
แต่อนิจจัง ฉันกำลังคิดจะลากหาเงินดงออกไป แต่คิดไม่ ถึงว่า ประโยคนั้นจะไปทำให้เขาเกิดแค้นขึ้นมา พลางสะบัด ฉันออก จากนั้นเดินตรงเข้าไปหาชายรอยสักรูปหัวเสือคน นั้นอย่างอุ่นเคือง แล้วก็ชกไปที่หน้าของชายคนนั้นจนหน้า หันเลือดออกไปอีกข้าง
” แม่งเอ้ย พี่น้อง ฉันโดนชกแล้ว รีบลงมา รีบลงมาชีวะ! ”
หนุ่มรอยสักหัวเสือคนนั้นแหกปากตะโกนเรียก แต่หาเงินดงหันไปพูดกับหญิงสาวคนนั้นอย่างเปิดเผย ” สาวน้อย ไม่ ต้องกลัว พี่จะปกป้องเธอเอง! “
ไม่มีใครคุ้มกะลาหัวนาย ยังจะไปปกป้องคนอื่นอีก
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้ามากมายจากด้านบน ฉันก็ยกหาเงิน คงขึ้นบนไหล่ แล้วก็วิ่งหนีไป
แต่ก็ได้ยินเสียงด่าของไอขี้เมารอยสักรูปหัวเสือดังมาจาก ด้านหลัง ” นังแพศยา คืนนี้ฉันจะจัดการเธอให้ตาย กล้าดียัง ไงเรียกคนมาต่อยฉัน! ”
ในขณะที่ฉันกำลังวิ่งหนีก็หันกลับไปมองหญิงสาวเซ่อซ่า คนนั้น ยังคงยืนงุนงงอยู่ที่เดิม
“เธอโง่เหรอ มัวยืนอยู่ให้เขามาฆ่าทิ้ง รีบวิ่งตามฉัน
มา!!!”
หลังจากนั้น หญิงสาวเซ่อซ่าคนนั้นก็วิ่งออกมาจากร้าน คาราโอเกะกับฉัน
เมื่อออกจากประตูมา ข้าง ๆ ก็มีพุ่งไม้มืด ๆ อยู่ ฉันที่แบก หวูเจิ่นดงอยู่ก็วิ่งได้ไม่เร็ว ส่วนหญิงสาวคนนั้นก็เห็นได้ชัดว่า ไม่ใช่พวกวิ่งเร็วอะไร ดังนั้นฉันจึงพาพวกเขาเข้าไปในพุ่งไม้
ทันใดนั้น ก็มีพวกอันธพาลสิบกว่าคนถือแท่งเหล็กหรือไม่ ขวดแก้วที่แตกออกมาจากร้านคาราโอเกะ แล้ววิ่งตรงมาที่ พวกแอบอยู่…….
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ