บทที่ 3 นายหาเรื่องเอง
หลังจากจมูกและใบหน้าที่พักของฉันกลับมาถึงบ้าน หยาวเขียวก็รีบเข้ามาประคองฉันไปที่โซฟา พลางถามฉันว่า เกิดอะไรขึ้น
ฉันเล่าเรื่องทั้งหด ให้เธอฟัง และเธอก็โกรธมาก “จางหง หมู่ทำไมถึงทำแบบนี้ นั้นมันเงินไว้ต่อชีวิตนะ ! ”
ผ่านไปสักพัก เธอก็เข้าไปในห้องนอนของตัวเอง แล้ว โทรศัพท์หาจางหงหมู่
“หงหวู่ พ่อของเฉินเฟิงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จริง ๆ พี่จะช่วย….……..
“หยาวเขียว เธอช่วยจัดการเรื่องตัวเองให้รอดก่อนได้ ไหม เงินที่ทำได้ทุกวันนี้ยังไม่พอจ่ายค่าดอกเบี้ยฉันเลย! ” หลังจากนั้น เสียงในโทรศัพท์ก็โดนตัดสายทิ้ง ตัด ตัด ดูออกทันทีว่า หยาวเชียวเองก็ทำตัวไม่ถูก
เธอนั่งลงข้าง ๆ ฉัน พลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเบา ” ขอโทษ เฉินเฟิง ฉันคิดว่านี่จะเป็นทางออกที่ดี ที่พอจะช่วย แก้ปัญหาได้ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจางหงหวจะเป็นคนแบบนี้ แม้กระทั่งเงินต่อชีวิตก็ยังไม่เว้น ขอโทษจริง ๆ ”
ฉันแสดงท่าทางราวกับกำลังบอกหยาวเชียวว่าไม่เป็นไร เพราะว่าเธอเองก็มีเจตนาที่ดี
ทันใดนั้น ฉันก็คิดขึ้นมาได้ว่า เมื่อกี้จางหงหมู่บอกหยาว เชียวว่า ให้จัดการเรื่องตัวเองให้รอดก่อน แล้วยังมีดอกเบี้ย อะไรอีก เลยพลางถามเธอไปว่า เกิดอะไรขึ้นกับเธอ
หยาวเชียวยิ้มแห้ง “มันจะเรื่องอะไรได้อีก ก็โดนคน หลอกนะ ”
หลังจากนั้น เธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอให้ฉันฟัง จากที่ฟังหยาวเซียวเล่าให้ฟัง เธอก็เป็นนักบัญชีให้ธุรกิจ
หนึ่งจริง ๆ แต่ว่าหลังจากรู้จักกับแฟนของเธอ
แฟนของเธอก็แนะนำให้เธอเอาเงินทุนของบริษัทมาเล่น หุ้น และแน่นอนว่าเธอไม่ทำ
แต่ต่อมาเธอก็ทนไม่ไหวกับคำแนะนำและคำหวานของ แฟนเธอ ที่วาดฝันชีวิตในอนาคตที่สวยหรู เธอจึงตอบตกลง ไป
และสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็น่าเศร้าสลด เงินทุนที่เอาไป เล่นหุ้นกลับหายไปหมด และบริษัทก็ทวงให้เธอจ่ายเงิน
จากนั้น แฟนของเธอก็พาเธอไปรู้จักกับจางหงหวู่ และให้ เธอยืมเงินด้วยดอกเบี้ยที่สูงมาก เงินต้นห้าแสนบาท หลังจากสามวันที่ยืมเงินไปต้องคืนเงินหกแสนบาท แน่นอนว่าหยาวเซียวไม่ต้องการ
แต่ว่าแฟนของเธอบอกว่า ครอบครัวกำลังรวบรวมเงินให้ อยู่ ไม่นานก็น่าจะรวบรวมได้ครบ บอกเธอไม่ต้องกังวลใจไป บวกกับที่บริษัทก็ทวงเงินอยู่ลึก ๆ สุดท้ายเธอจึงยอม
และหลังจากที่ยืมเงินมาได้แล้ว เธอก็พบว่า แฟนของเธอ ได้หายไป ไม่เห็นแม้แต่ร่องรอยและเงาของเขาอีกเลย และ จางหงหวก็บีบคั้นให้เธอคืนเงิน ไม่อย่างนั้นจะจับเธอแก้ผ้า แล้วให้ไปนั่งขอทาน และยังถ่ายรูปไว้แบล็คเมล์เธอ แล้วจะ เอาไปแปะประจานให้ทั่วหมู่บ้านของเธอ
ดังนั้นจึงหมดหนทาง หยาวเซียวได้แต่ทำตามคำสั่ง และก็ ราวกับตกลงไปอยู่ในโคลนตม ยิ่งอยู่ก็ยิ่งตกลงไปลึกขึ้น ยากที่จะปลีกตัวออกมา
แม้ว่าฉันจะเจออะไรมาน้อย แต่ฉันก็ไม่โง่ เมื่อฟังเรื่องที่ หยาวเซียวเล่าจบ ฉันก็รู้ทันทีเลยว่าหยาวเซียวถูกหลอก และ การถูกหลอกนี้ก็เป็นเพราะแฟนของเธอและจางหงหวู่ร่วมมือ กัน จางหงหมู่ให้เธอยืมเงิน ก็แสดงว่าเธอเป็นคนยักยอกเงิน ไป
“ที่พูดมานี่คือ เงินของเธอไม่ได้เอาไปเล่นหุ้นเลย แต่กลับ ไปอยู่ในมือของจางหงหวู่ จากนั้นเขาก็ยื่นข้อเสนอให้เธอ บังคับให้เธอช่วยหาเงินให้เขา และกลายเป็นแหล่งทำเงิน
ของเขา ”
หยาวเซียวครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ แล้วก็คิดออก ก็โมโหยกใหญ่ แล้วก็จะพุ่งออกไปติดบัญชีกับจางหงห
แต่ทว่าฉันถึงเธอเอาไว้ได้ “เธอไปคิดบัญชีกับเขา ถ้าหาก เขายอมรับ แล้วเธอจะทำอะไรเขาได้ ? ”
หยาวเชียวร้องไห้ออกมา ยิ่งร้องไห้ยิ่งเสียใจ และยิ่ง ร้องไห้ก็ยิ่งจนปัญญา จากนั้นก็ซบลงมาร้องไห้ที่ไหล่ของฉัน ร้องไห้จนหน้าตาเลอะเทอะ
หน้าอกของเธอที่อวบอิ่ม แนบร่างกายของฉันอย่างใกล้ ชิด รู้สึกอบอุ่นมาก อ่อนโยนมาก ทำให้ฉันอดไม่ได้ที่มีความ คิดอยากจะขยี้หน้าอกของเธอ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำ เพราะ เธอร้องไห้อย่างเสียใจมาก
ฉันจึงได้แต่ตบหลังเธอเบา ๆ อยากจะพูดอะไรปลอบใจ เธอ แต่ว่าแล้วใครจะมาปลอบใจฉันล่ะ ?
ผ่านไปชั่วครู่ หยาวเขียวก็ออกไปจากอ้อมกอดของฉัน
พลางเช็คน้ำตาบนหน้าของเธอ แล้วพูดขอบคุณกับฉัน คืนนั้น ฉันกับเธอรู้สึกผิดหวังมาก ต่างคนต่างมีเรื่องผิด
หวังของตัวเอง และรู้สึกว่าอนาคตข้างหน้าช่างมืดมน ราวกับ
เดินเข้าไปในเหวลึก
เช้าตรู่ของวันต่อมา ฉันรีบไปโรงพยาบาลตั้งแต่เช้า เพื่อ ไปเยี่ยมพ่อ
เพียงแค่เดินเข้าประตูของโรงพยาบาลไป ฉันก็เห็นผู้หญิง ที่เมื่อวานนี้ให้เงินฉันสามหมื่นบาท
“ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นนักเลง ไปต่อยกับคนอื่นตั้งแต่เช้าตรู่ พอหน้าตาฟกช้ำก็มาโรงพยาบาล ? ”
ฉันยิ้มแห้ง “ ใช่ที่ไหนกัน คนของจางหงหมู่ต่างหาก
จากนั้น ฉันก็เล่าเรื่องที่จางหงหมู่เล่นงานฉันแล้วแย่งเงิน ไปให้เธอฟัง
ฟังจบ เธอก็หัวเราะเบา ๆ ” เธอหาเรื่องเอง อยากจะไปมี
เรื่องกับเขา ”
ฉันรู้ว่าเธอเข้าใจผิดแล้ว แต่ฉันก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป หลังจากเดินเข้าลิฟต์ไปพร้อมกัน ฉันก็กดไปชั้น 8 แผนก
กระดูก
เธองงงวยเล็กน้อย “ เธอโดนทำร้ายก็ไม่รุนแรงขนาดนั้น ควรไปแผนกผู้ป่วยนอกไม่ใช่เหรอ ? ”
ฉันส่ายหัว “ ผมไม่ได้มาหาหมอ แต่เยี่ยมพ่อต่างหาก พ่อ ผมโดนรถชน พักอยู่ที่ชั้น 8 ”
เธอตกตะลึงเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้าเบา ๆ โดยไม่ได้พูด
อะไร
หลังจากลิฟต์มาหยุดอยู่ที่ชั้น 8 เธอก็ถามขึ้นมาทันทีว่า
“นายไปขอยืมเงินจางหงหวู่ เพราะพ่อนายเหรอ ?
ฉันตอบเธอไป หลังจากนั้นก็เดินออกมาจากลิฟต์ พลาง โบกมือลาเธอ
เมื่อมาถึงห้องพักผู้ป่วย ฉันดูพ่อเสร็จ ก็หันไปเห็นดวงตา ของแม่ที่แดงก่ำ เห็นได้ชัดว่าเธอต้องร้องไห้ไม่น้อยเลย
หลังจากปลอบใจแม่ไป ฉันก็ไปพบหมอรักษาพ่อ หมอบ อกว่า ร่างกายส่วนอื่นไม่น่ากังวล แต่ต้องรีบหาเงินมาผ่าตัด มิเช่นนั้นก็จะรักษาไม่ทัน ต้องตัดขาทิ้งอย่างเดียว
ฉันก็รีบร้อนมาก แต่ว่าก็ไม่มีวิธีอื่นเลย ครอบครัวญาติพี่ น้องก็ค่อนข้างยากจน รวบรวมเงินคนละเป็นพันเป็นหมื่น ลําบากแล้ว แต่ค่ารักษาเป็นแสน ๆ เงินที่รวบรวมมาก็แทบ จะไม่พอเลย
ในขณะที่ฉันกำลังกังวลใจ จางหงหวู่ก็โทรมา
เมื่อฉันรับสาย แต่ก็ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรออกไป จางหง หวู่ก็รีบพูดขึ้นมาว่า “ มารอฉันที่ประตูโรงพยาบาล หลัง จากนั้นก็ตัดสายทิ้งไป
หลังจากผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง จางหงหวก็มาถึง และไม่ได้พูดอะไรทั้งสิ้น ก็พลางลากฉันตรงไปที่ช่องจ่ายเงิน แล้วรูดบัตรเพื่อจ่ายเงินค่าผ่าตัดให้ฉัน
* ทำไมเหรอ พี่จางของนายออกเงินค่าผ่าตัดให้เป็นแสนๆ นายจะไม่ซาบซึ้งในน้ำใจหน่อยเหรอ ?
จางหงหวพูดหลอกล้อฉัน แต่ฉันได้แค่พูดว่า ขอบคุณ เบา ๆ หลังจากนั้นก็ไปเตรียมเรื่องผ่าตัด ให้พ่อ
แต่ในขณะที่กำลังหันหลัง เธอก็ดึงฉันเอาไว้
“ปรนนิบัติสาวสวยคนเมื่อวาน ให้ดี ๆ แล้วนายจะไม่
เสียใจ ”
พูดจบ จางหงหวู่ก็จงใจยกหน้าอกที่อวบอิ่มของเธอขึ้น พลางส่งสายตาหยาดเยิ้มมาที่ฉัน
“ แค่นายปรนนิบัติดีแล้ว ไม่แน่วันไหนฉันใจดีขึ้นมา แล้ว อาจจะให้นายนอนกับฉันก็ได้นะ เด็กน้อย! “
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ