ชีคเถื่อนปล้นพรหมจรรย์ ชุด ทัณ...

ตอนที่ 3



ตอนที่ 3

เขาก้มหน้าต่ำลงมาหา ดวงตาสีทองตรึงดวงตากลมโตที่ เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกของหล่อนเอาไว้อย่างแน่น หนา หล่อนไม่เคยอยู่ชิดใกล้กับผู้ชายคนไหนมากเท่านี้ มาก่อนเลย

“คุณ… จะทําอะไร…

ดวงตาของหล่อนมีแต่ความประหม่าและตื่นกลัว ไม่ เหลือความอวดดีแม้แต่น้อย แก้มนวลแดงระเรื่อ เมื่อริม ฝีปากหยักสวยของผู้ชายหล่อจัดเคลื่อนเข้ามาชิดใกล้

“ลงโทษแบบเจ้าชายทะเลทรายยังไงล่ะ”

เขา… หมายถึงอะไรนะ

มะลิยังไม่ทันจะหาคำตอบให้กับตัวเองได้ ลำคอระหง ของหล่อนก็ถูกกอบกุม จากนั้นเขาก็ประกบปากลงมาหา อย่างรวดเร็ว สัมผัสของเขาทั้งดุดัน หนักหน่วง และแสดง ความเป็นใหญ่ของเพศชาย

หล่อนขัดขืน ผลักไส แต่จุมพิตจากเจ้าชายทะเลทราย ช่างดุดันเสียเหลือเกิน ไม่ช้า ร่างกายของหล่อนก็อ่อน ระทวย ปากอิ่มที่เคยเม้มแน่นและส่ายหนี ตอนนี้ถูกดูด ถูกบดคลึงด้วยความหิวกระหาย สองร่างเคลื่อนไหวกอด รัด แรงปรารถนาที่ปะทุคุกรุ่นมาตั้งแต่แรกสบประสานสายตากำลังครอบงำทุกสิ่งทุกอย่าง

ลิ้นใหญ่แลบออกมาตวัดไล้เลียกลีบปากอิ่ม ก่อนที่จะ ดุนดันเข้ามาภายในอุ้งปากสาว หล่อนตกใจไม่น้อยกับ สิ่งที่เกิดขึ้น แต่ความเจนจัดของเจ้าชายเถื่อนมีอำนาจ รุนแรงเหลือเกิน รสจูบดุดันของเขาทำให้หล่อนลุ่มหลง ในความรู้สึกที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน

ฝ่ามือเล็กที่เคยดันแผงอกกว้างเอาไว้ ตอนนี้ไต่ขึ้นไป ตามลําคอแกร่ง ก่อนจะโอบกอดเอาไว้ และเผยอปากจูบ ตอบเจ้าของทัณฑ์จุมพิตด้วยความเต็มใจ

นั่นเสียงของหล่อนเหรอ… ใช่ไหม… ทำไม… หล่อนถึง ส่งเสียงแบบนั้นออกไปล่ะ

ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเสียงครางของตัวเอง หลุดออกจากนําคอ ความอับอายขายหน้ากระชาก สติสัมปชัญญะให้กลับคืนมาอย่างรวดเร็ว

“อย่า…”

เสียงคัดค้านของหญิงสาวเจ้าของอุ้งปากที่หวานราวกับ น้ำผึ้งเดือนห้าดังแว่วมาเข้าหู และมันก็มีอำนาจพอที่จะ ช่วยเรียกสติของเจ้าชายหนุ่มให้กลับคืนมา
ทุกอย่างรอบตัวหยุดชะงัก เซรีมเงยหน้าขึ้นจากซอกคอ ระหงที่ตัวเองเพิ่งจะดูดกัดทันที ก่อนจะรีบคลายอ้อมแขน ออก และถอยออกห่างร่างอวบอัดเต็มไม้เต็มมือนั้นอย่าง รวดเร็ว

นี่เขา… ทําบ้าอะไรลงไปเนี่ย?

เซรีมสบถออกมาเสียงดัง ทั้งโกรธทั้งโมโหตัวเองที่ ปล่อยให้ความรู้สึกชั้นต่ำแบบนั้นเข้ามาครอบงำ หล่อน เป็นเมียเก็บของน้าชาย และเขาก็ไม่ควรจะแตะต้อง

แต่ทําไม… ร่างกายของเขาถึงอยากได้หล่อนนักหนานะ

เจ้าชายหนุ่มยกมือขึ้นเสยเส้นผมของตัวเองอย่าง หงุดหงิด เขาใช้เวลาเกือบนาทีเพื่อควบคุมจังหวะการ หายใจของตนเอง ก่อนจะเค้นเสียงราบเรียบออกมา คล้ายกับก่อนหน้านี้ไม่ได้เกิดอะไรขึ้น

“พรุ่งนี้ฉันจะกลับมาใหม่

มะลิก้มหน้างุด หน้าร้อนผ่าว แต่ไม่ใช่แค่ที่ใบหน้าอย่าง เดียวที่ร้อนราวกับถูกนาบด้วยถ่านติดไฟ แต่อวัยวะบาง อย่างที่อยู่กึ่งกลางลำตัวก็ร้อนรุ่มไม่ต่างกัน

“ไม่จำ… เป็น… เพราะถึงยังไง ฉันก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจ”
“นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันควรสนใจ เพราะฉันจะกลับมาพร้อม กับทนายความ และตำรวจ”

หล่อนเงยหน้าขึ้นมองเขา มองผู้ชายเจ้าของจุมพิตดุดัน ด้วยความตื่นตกใจ

“คุณ… จะพาตารวจมาทำไมคะ”

“หึ… พรุ่งนี้เธอก็จะรู้ ฉันไปละ”

แล้วเจ้าชายจากแดนทรายก็หมุนตัวเดินลงบันไดบ้านไป หล่อนมองร่างสูงใหญ่ก้าวขึ้นไปในรถ ก่อนที่รถสปอร์ต ราคาแสนแพงจะแล่นออกไปจากลานหน้าบ้าน

“ฉัน… ไม่ยอม…”

ร่างสาวสั่นเทา ขณะทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้ไม้อีกครั้ง ภายในอกเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“ฮัสซัน น้าไม่มีวันยอมเสียหนูไปอย่างแน่นอน น้าจะสู้…

แม้ว่าคู่ต่อสู้ของหล่อนจะเป็นเจ้าชายเถื่อนจากดินแดนทรายอันไกลโพ้นก็ตาม
เขาหล่อ เขามีเสน่ห์ และแสนอันตราย รวมถึงเงินใน กระเป๋าก็มีมากมายเท่ากับเม็ดทรายในบ้านเมืองของเขา แต่หล่อนจะไม่ยอมแพ้ ต่อให้ต้องแลกด้วยลมหายใจ ก็ตาม

หลังจากพาฮัสซันเข้านอนเรียบร้อยแล้ว มะลิก็รีบ โทร.หาญาติผู้ใหญ่ที่เหลือเพียงคนเดียวในโลกใบนี้ด้วย ความร้อนใจ หล่อนต้องการคําปรึกษา หรืออย่างน้อยๆ ก็ แค่ได้ระบายความทุกข์ทรมานใจที่เกิดจากความหวาด กลัวออกไปก็ยังดี

“ความจริงป้าว่า… มะลิคืนฮัสซันให้กับญาติที่แท้จริงไปก็ เป็นทางเลือกที่ดีนะ”

คำแนะนำของป้าสมศรีซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของมารดาผู้ ล่วงลับไปแล้วของตนเองด้งมาตามสาย แต่มันช่างขัดกับ ความต้องการของหล่อนเหลือเกิน

“หนูยกฮัสซันให้กับใครไม่ได้หรอกป้า หนูรักฮัสซันมาก ป่าสมศรีก็รู้นี่คะ” หล่อนน้ำตาซึมยามพูดออกมา

ฮัสซันเป็นเด็กร่าเริง นิสัยดี ไม่ว่าหล่อนจะสั่งสอนอบรม อะไร ฮัสซันก็เชื่อฟังเสมอ แถมฮัสซันยังรักหล่อนมาก ด้วย ซึ่งก็เหมือนกับที่หล่อนรักฮัสซันนั่นแหละ

“ป้ารู้ แต่ฮัสซันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับมะลิเลยนะ ทางสายเลือดน่ะ”

“แต่ทางกฎหมาย หนูเป็นผู้ปกครองของฮัสซันเพียงคน เดียวนะคะ”

“ป่ารู้ แต่ญาติพี่น้องของฮัสซันจะยอมเหรอ แล้วญาติๆ ของฮัสซันยังเป็นถึงราชวงศ์ด้วย”

นี่แหละที่หล่อนหวาดกลัว กลัวว่าเจ้าชายทะเลทรายคน นั้นจะใช้อำนาจเพื่อแย่งชิงฮัสซันไปจากอกของหล่อน ซึ่ง หล่อนคงอยู่ไม่ได้แน่หากไม่มีฮัสซัน

“ถึงเป็นราชวงศ์ ถึงสูงส่งแค่ไหน แต่ก็ต้องอยู่ใน กฎหมายบ้านเมืองของเราไม่ใช่เหรอคะ ป้าสมศรี”

กระบอกตาของมะลิร้อนผ่าวก่อนที่หยาดน้ำตาจะไหล

รินออกมาอาบแก้ม

“ใต้กฎหมายของเรา แต่พวกเราเป็นถึงผู้ปกครองแคว้น เลยนะมะลิ ยังไงซะ เราก็แพ้”

“ทำไมป้าสมศรีไม่ให้กำลังใจหนูเลยล่ะ” หล่อนตัดพ้อ น้ำตาไหลไม่หยุด สะอื้นไห้เบาๆ

“ป้ารู้ว่ามะลิรักฮัสซันมาก แต่ป้าก็ไม่อยากให้มะลิโกหกตัวเอง ฮัสซันไม่ใช่ของมะลิ เด็กคนนี้มีสายเลือด สูงส่ง เราต้องคืนเขากลับไปสู่ราชวงศ์”

“หนู… ยอมไม่ได้…”

หล่อนร้องไห้สะอึกสะอื้น นี่หล่อนกำลังจะสูญเสียฮัส ซันให้กับ… เขาก็ไม่รู้อย่างนั้นเหรอ แล้วถ้าพวกเขาไม่รัก ไม่เอ็นดู หรือไม่เอาใจใส่ฮัสซันล่ะ จะทำยังไง ไม่มีทาง….. หล่อนไม่มีทางไว้ใจคนอื่น

“หนูรักฮัสซัน และหนูก็ไม่เชื่อว่าคนพวกนั้นจะรักฮัสซัน

ได้มากกว่าหนู”

“อย่าลืมสิมะลิ ฮัสซันคือคนของราชวงศ์แห่งซาเรีย มียศ ถาบรรดาศักดิ์ ดังนั้นจะไม่มีใครทำร้ายฮัสซันได้หรอก มะลิวางใจได้เลย เชื่อป้านะ ปล่อยฮัสซันไปเถอะ”

“ไม่… หนูยอมไม่ได้หรอกค่ะ”

คนปลายสายถอนใจออกมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ

“มะลิ… หนูยังสาวยังสวย ถ้าไม่มีฮัสซันสักคน หนูก็จะ สามารถใช้ชีวิตอิสระยังไงก็ได้”
“ทําไมป่าสมศรีพูดแบบนี้คะ

“ป้าพูดความจริง และป้าก็หวังดีกับมะลิด้วย ป้าไม่อยาก ให้มะลิมีภาระที่ไม่ใช่สายเลือดของตัวเอง”

“หนูไม่เคยมองฮัสซันว่าเป็นภาระค่ะ”

“แล้วที่มะลิทำงานหนักอยู่ทุกวันนี้ล่ะ ไม่ใช่เพื่อหาเลี้ยง ฮัสซันหรือไง”

“มันคือหน้าที่ที่หนูต้องทำเพื่อฮัสซันค่ะป่าสมศรี

คนปลายสายถอนใจออกมาอีกครั้ง “งั้นก็สรุปว่ามะลิจะ ไม่มีทางยอมปล่อยฮัสซันให้กับญาติพี่น้องเขาใช่ไหม”

“หนูคิดเอาไว้แบบนั้น แต่หนูไม่รู้ว่าจะสามารถตั้งรับได้

แค่ไหน หนู…”

“มะลิสู้เขาไม่ได้หรอก”

คำพูดตรงไปตรงมาของป้าสมศรียิ่งทำให้หล่อนเครียด หนัก น้ำตาไหลรินไม่หยุด

“แล้วหนูควรจะทำยังไงดีคะป้าสมศรี หนูถึงจะไม่ต้องเสียฮัสซันไป

“มะลิก็คงต้องทำข้อตกลงพวกเขา พูดกับเขาดีๆ บางที เขาอาจจะเปลี่ยนใจไม่คิดจะพาตัวของฮัสซันกลับไปยัง ประเทศก็เป็นได้

“มันจะมีทางเป็นอย่างนั้นเหรอคะป่าสมศรี”

“พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ มะลิ

หล่อนร้องไห้สะอึกสะอื้น ก่อนจะกล่าวลาจากป่าสมศรี จากนั้นก็เดินกลับเข้ามายังห้องนอนที่ฮัสซันกำลังนอน หลับปุ๋ยอยู่ หล่อนพยายามจะกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ ขณะยกมือขึ้นลูบศีรษะเล็กของเด็กน้อยด้วยความรัก เอ็นดู

“น้าจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาพรากฮัสซันไปจากน้า เด็ดขาด น้าจะสู้…”

สู้เหรอ…? แล้วหล่อนจะสู้ยังไงดีล่ะ

และการค้นหาทางออก มันก็ทำให้มะลิไม่อาจจะข่มตา หลับได้เลยตลอดทั้งคืน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ