ฉันเป็นแค่เมียชั่วคราว ?

บทที่3 ล่ามแบบพิเศษ



บทที่3 ล่ามแบบพิเศษ

บทที่ 3ล่ามแบบพิเศษ

นีราหลับตาลง เธอไม่ต้องการให้โฆษณมองเห็นความ อ่อนแอและไร้ทางสู้ในดวงตาของเธอ

“อื้อ…ฮึก…” นีราถอนลมหายใจอย่างเจ็บปวด

ไม่มีการเล้าโลมและสัมผัสอย่างรักใคร่ใดๆ โฆษณ ต้องการทำให้เธอรู้ว่าทุกอย่างที่เขาทำกับเธอนั้นคือการ แก้แค้น

เมื่อทําติดต่อกันถึงห้าครั้ง นีราก็รับไม่ไหวและหมดสติ

ไปในที่สุด

ก่อนหน้าที่เธอจะหมดสติ โตษณบอกกับเธอว่า “บัญชีที่ พวกคุณพ่อลูกทําไว้ม ผมจะค่อยๆเรียกคืนจากร่างกาย ของคุณอย่างช้าๆ

ในตอนที่นีราตื่นขึ้นมา นอกจากเธอแล้วก็มีชาลินีอยู่ ภายในห้อง

“ประธานโฆษณให้ฉันนำสิ่งนี้มาให้คุณค่ะ” ชาลินีทำท่า ยื่นกล่องยาคุมกำเนิดให้กับนีรา แล้วในตอนที่ออกจาห้อง ก็ถูกนีราเรียกไว้
“คุณเองก็…ไม่มีอะไรแล้วค่ะ คุณไปเถอะ” นีราหยุดคำ พูดเอาไว้

“เขาไม่ได้ให้ฉันทานยาค่ะ” ชาลินีมองเห็นสีหน้าของ เธอก็รู้แล้วว่าเธอต้องการจะถามอะไร

เธอกับโฆษณไม่ได้มีความสัมพันธ์กันจริงๆ แล้วโฆษณ จะให้เธอกินยาคุมกำเนิดได้ยังไง

แต่เธอรู้ว่า หลังจากที่นีราได้ยินคำตอบของเธอแล้ว จะ ต้องรู้สึกไม่ดีอยู่ในใจ

ป้าเหมียวได้เตรียมอาหารเช้าเอาไว้ให้มากมาย แต่นี รากลับไม่รู้สึกอยากทานอาหารเลย

“คุณผู้หญิงคะ คุณผู้ชายส่งรถมารับคุณไปที่บริษัทค่ะ รถรออยู่ด้านนอกแล้ว คุณผู้ชายช่างดีกับคุณมากจริงๆ เลยนะคะ แม้แต่กระทั่งเวลาทำงานก็ยังอยากจะให้คุณ คอยอยู่ข้างๆ”

นีราที่เพิ่งจะหยิบนมขึ้นมาวางกลับลงไปบนโต๊ะ ภายใน ใจขมขื่นแต่บนใบหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ

โฆษณเป็นห่วงแค่ว่าเธอจะกลับไประบายเรื่องนี้กับที่ บ้าน และบอกสิ่งที่เขาทำกับพ่อของเธอ ดังนั้นเขาจึงส่ง คนมารับเธอไปที่บริษัท
พูดให้ชัดเจนก็คือ เขาต้องการคอยจับตาเฝ้าดูเธอ

บริษัทKU-Cooperation ก่อตั้งโดยคุณปู่ของโตษณ แล้วโตษณก็ใช้เวลาเจ็ดปีในการสร้างมันให้กลายเป็น อาณาจักรแห่งธุรกิจที่แท้จริง

นีราสูดหายใจลึกแล้วเดินไปที่แผนกต้อนรับ

“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ นีรา รบกวนสอบถามว่าผู้อำนวยการ ของคุณ…

“ทำไมเพิ่งจะมา ลูกค้ารอเธอมายี่สิบนาทีแล้ว รีบมากับ

ฉันเร็ว”

โมลีเป็นลูกครึ่งจีนเยอรมัน มีลักษณะและบุคลิกภาพที่ เป็นเอกลักษณ์ โดยทําหน้าที่เป็นฝ่ายต้อนรับส่วนหน้าให้ กับ KU-Cooperationมาสามปีแล้ว

“เธอจำไว้นะ คุณทยุติเป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบโครงการ โกลเด้นซิตี้ ความร่วมมือระหว่างKU-Cooperationและ บริษัทฝรั่งเศสในครั้งนี้มีความสำคัญมาก”

“และเพราะล่ามภาษาฝรั่งเศสได้ลาคลอดไปแล้ว ถึง แม้ว่าเธอจะมาเริ่มงานวันนี้วันแรก แต่มันหมายถึงภาพ ลักษณ์ของบริษัทKU-Cooperation และมันก็สำคัญมากนะคะ”

โมลีจ้องมองนีราขึ้นลงหัวจรดเท้าหนึ่งรอบ ถึงแม้ว่า ใบหน้านั้นไร้ที่ติ แต่มาทำงานโดยไม่แต่งหน้าเลยก็ดู จะมั่นใจเกินไปสักหน่อยนะ

นอกจากนี้ เดรสคอปกสีเบจและรองเท้าส้นสูงสีน้ำตาล ก็ดูสุขุมและดูมีรสนิยม แต่ผมยาวตรงนั้นดูที่อเกินไป

โมลีหยิบลิปสติกและอายแชโดว์ของเธอออกมา แล้ว แต่งหน้าบางๆให้กับนีราอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หยิบ เครื่องประดับผมของตัวเองออกมา ปัดผมยาวตรงของ หล่อนไปทางด้านหลัง ปล่อยทิ้งไว้ที่หลังใบหูเพียงแค่ สองเส้น

“อื้ม ตอนนี้เธอดูมีชีวิตชีวามากขึ้นแล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะมี ลุคส์ดูแพงอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่แล้วเพราะฝีมือของ ฉันล่ะ” โมลีชื่นชม “ผลงาน” ของตัวเองอย่างภาคภูมิใจ

นีรามองเห็นตัวเองจากกระจกภายในลิฟต์ แล้วลังเลอยู่ ชั่วขณะ

เรื่องนั้น อันที่จริงแล้วฉัน…”
นีรารู้ว่าอีกฝ่ายจำคนผิดแล้ว เธอลังเลว่าควรจะบอก โมลีดีหรือไม่ ว่าตัวเองคือภรรยาใหม่ของโฆษณ

แต่เมื่อคิดถึงงานแต่งงานเมื่อวานนี้ที่มีเพียงตระกูลภูล พิพัฒน์ และ ตระกูลจำรูญเท่านั้นที่รู้ เห็นได้ชัดว่าโฆษณ ไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ถึงเรื่องนี้ ดังนั้นเธอจึงหยุดไว้เพียง ครึ่งเดียว

“เธอไม่ต้องเป็นกังวลไปนะ ถ้าหากฉันมีโอกาสได้นั่ง ข้างๆคุณทยุติสักครั้งล่ะก็ ถึงแม้ต้องตายฉันก็ยอม”

เมื่อเผชิญหน้ากับโมลีที่กำลังเพ้อถึงผู้ชาย นีราก็ไม่รู้ว่า จะอธิบายให้ชัดเจนได้ยังไงดี

ต่อมาเธอถึงได้รู้ว่าเพราะล่ามภาษาฝรั่งเศสคนใหม่ชื่อ ว่านิรา ในเวลานั้นสถานการณ์เป็นไปอย่างเร่งรีบ เธอเลย ไม่มีเวลาตรวจสอบสถานะของนีรา

ในห้องประชุม VIP นีราถูกโมลีผลักเข้าไป

“ท่านประธานคะ ท่านนี้คือล่ามภาษาฝรั่งเศสคนใหม่ คุณนีราค่ะ”

ท่านประธาน โฆษณก็อยู่ที่นั่นด้วยงั้นเหรอ?
นีราเงยหน้าขึ้นทันที แล้วเจอกับสายตาลุ่มลึกของ โฆษณเข้าพอดี เธอก้มลงมองที่เท้าของตัวเองอย่างไม่รู้ ตัว เธอเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วทำไมต้องก้มหน้าลง ด้วยล่ะ? เมื่อคิดได้เช่นนี้ นิราก็เงยขึ้นมามองใหม่อีกครั้ง แต่ก็จงใจที่จะหลีกเลี่ยงสายตาที่ร้อนแรงนั่น

“คุณนีรา เชิญนั่ง”

เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มที่พูดภาษาฝรั่งเศสได้อย่าง คล่องแคล่ว ทำให้รู้สึกสบาย และบรรเทาความตึงเครียด ภายในใจของนีรา

ไม่เพียงเท่านั้น ทยุติยังช่วยดึงเก้าอี้ที่นั่งข้างๆออกให้ เธออย่างเป็นสุภาพบุรุษอีกด้วย

ไม่แปลกเลยที่โมลีจะละเมอเพ้อหาได้ขนาดนั้น ผู้ชาย คนนี้ไม่ว่าจะมองอย่างไรรูปร่างหน้าตาราวกับพระเอกซี รีส์เกาหลี

ทยุติเติบโตที่ประเทศฝรั่งเศสตั้งแต่ยังเด็ก ที่เขากลับมา ประเทศจีนครั้งนี้ก็เพื่อร่วมมือกับ บริษัทKU-Cooperation ในการทำโครงการ

“ขอบคุณค่ะ” โชคดีที่นีราเคยไปศึกษาต่อที่ฝรั่งเศสเป็น เวลาสองปี และพูดภาษาฝรั่งเศสได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่อย่างนั้นเธอก็คงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี

ทันทีที่นีราเข้าไปนั่ง ทันใดนั้นทยุติก็เดินไปด้านหน้า หน้าและจะนั่งลงโดยเว้นระยะห่างระหว่างคนทั้งสอง

แต่การเข้ามาใกล้โดยไม่คาดคิดทําให้นีราตื่นตกใจ แล้ว ก้าวถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว โดยลืมไปว่าด้านหลังของตัว เองเป็นมุมโต๊ะ ก่อนที่เอวของนีราจะกระแทกเข้ากับมุม โต๊ะ ก็มีมือหนึ่งโอบไปที่เอวจนถึงด้านหลังของเธอเอาไว้

เมื่อปฏิกิริยาตอบสนองของนีรากลับมา เธอต้องการที่ จะกล่าวขอบคุณเขา ทยุติก็จับมือซ้ายของเธอขึ้นมาแนบ กับริมฝีปากของเขา เป็นการเคลื่อนไหวที่นุ่มนวลและ ระมัดระวัง

นีราดึงมือของตัวเองกลับมาอย่างรวดเร็ว แล้วหันไปมอง โตษณอย่างกังวลและไม่สบายใจ แต่กลับพบว่าสายตา ของเขาเอาแต่จ้องมองอยู่ที่สัญญาในมือ

ที่แท้เธอคิดมากไปเอง เขาไม่ได้สนใจแม้แต่น้อยแล้วจะ มีปฏิกิริยาอะไรได้ล่ะ

“โต…ประธานโตษณคะ คุณทยุติบอกว่าเราสามารถเริ่ม ได้เลยค่ะ” นีราเอ่ยอย่างกล้าหาญ สายตาจ้องมองไปที่ โต๊ะ
“คิดไม่ถึงเลยว่าไหวพริบของคุณจะดีขนาดนี้ พอรู้ว่า ผมไม่ได้รู้สึกรักใคร่ชอบพออะไรคุณ ก็เลยคิดจะหาผู้ สนับสนุนคนใหม่ไวขนาดนี้?”

โฆษณใช้น้ำเสียงในเชิงธุรกิจ บนใบหน้าไม่แสดงความ รู้สึกส่วนตัวใดๆ นีราตัวนิ่งขึง สองมือจับแน่นอยู่ใต้โต๊ะ

“คุณนีรา ประธานโฆษณพูดว่าอะไรเหรอครับ?” ทยุติที่

นั่งอยู่ด้านข้างถามนีรา

“เขา เขาทักทายคุณค่ะ” นีราดีใจ ทยุติไม่เข้าใจภาษา จีน ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องหารูมุดเข้าไปแล้ว

“นีรา คุณเป็นอย่างที่ผมดูถูกไว้ก่อนหน้านี้จริงๆ ดู เหมือนว่าเรื่องการพูดจาโกหกก็ด้วย มันยากมากที่จะเส แสร้งทําเป็นบริสุทธิ์ไร้เดียงสาต่อหน้าผมสินะ? นี่แค่วัน แรกก็ล่อลวงผู้ชายคนอื่นต่อหน้าผม หลังจากนี้ผมจะไม่ ต้องโดนคุณสวมเขาทุกวี่วันงั้นเหรอ”

โฆษณยังคงพูดอย่างเป็นทางการ ราวว่าตอนนี้เขากำลัง พูดเรื่องธุรกิจ ในความคิดของเขา การที่นีราปรากฏ ตัวขึ้นมาในตอนนี้ไม่ใช่เหตุบังเอิญ แต่เป็นเธอที่จงใจ วางแผนเอาไว้

“โฆษณ มันจะมากเกินไปแล้วนะคะ!” นีราลุกขึ้นยืน
“คิดไม่ถึงเลยว่าไหวพริบของคุณจะดีขนาดนี้ พอรู้ว่า ผมไม่ได้รู้สึกรักใคร่ชอบพออะไรคุณ ก็เลยคิดจะหาผู้ สนับสนุนคนใหม่ไวขนาดนี้?”

โฆษณใช้น้ำเสียงในเชิงธุรกิจ บนใบหน้าไม่แสดงความ รู้สึกส่วนตัวใดๆ นีราตัวนิ่งขึง สองมือจับแน่นอยู่ใต้โต๊ะ

“คุณนีรา ประธานโฆษณพูดว่าอะไรเหรอครับ?” ทยุติที่

นั่งอยู่ด้านข้างถามนีรา

“เขา เขาทักทายคุณค่ะ” นีราดีใจ ทยุติไม่เข้าใจภาษา จีน ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องหารูมุดเข้าไปแล้ว

“นีรา คุณเป็นอย่างที่ผมดูถูกไว้ก่อนหน้านี้จริงๆ ดู เหมือนว่าเรื่องการพูดจาโกหกก็ด้วย มันยากมากที่จะเส แสร้งทําเป็นบริสุทธิ์ไร้เดียงสาต่อหน้าผมสินะ? นี่แค่วัน แรกก็ล่อลวงผู้ชายคนอื่นต่อหน้าผม หลังจากนี้ผมจะไม่ ต้องโดนคุณสวมเขาทุกวี่วันงั้นเหรอ”

โฆษณยังคงพูดอย่างเป็นทางการ ราวว่าตอนนี้เขากำลัง พูดเรื่องธุรกิจ ในความคิดของเขา การที่นีราปรากฏ ตัวขึ้นมาในตอนนี้ไม่ใช่เหตุบังเอิญ แต่เป็นเธอที่จงใจ วางแผนเอาไว้

“โฆษณ มันจะมากเกินไปแล้วนะคะ!” นีราลุกขึ้นยืนอย่างตื่นตัว

“คุณนีรา คุณดูไม่มีความสุขเลย ประธานโฆษณทำให้ คุณอึดอัดหรือเปล่าครับ?”

เพราะสายตาที่เป็นห่วงของทยุติ นีราจึงทำได้เพียงแค่ พูดโกหกเขาอีกครั้ง

“ไม่ค่ะ ไม่เป็นไร ประธานโฆษณขอให้ฉันชงกาแฟให้ เขาค่ะ”

นีราหยิบกาแฟแล้วเดินไปที่อีกด้านของโต๊ะ ที่จริงแล้ว เมื่อเธอพูดออกไป เธอก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาทันที

“คุณโตษณคะ ถ้าคุณไม่อยากจะให้การความร่วมมือใน ครั้งนี้ต้องล้มเหลว ตอนนี้ได้โปรดปฏิบัติต่อฉันในฐานะ ล่ามด้วยเถอะค่ะ”

นีราไม่ได้ต้องการที่จะข่มขู่เขา แต่ว่าคำพูดเหล่านั้นของ เขามันทำให้คนเจ็บปวดได้จริงๆ

“เป็นล่ามบนเตียงด้วยใช่มั้ยล่ะ? แต่ว่าระดับทางธุรกิจ ของคุณเมื่อคืนนี้ไม่ค่อยจะดีนักนะ” ทันใดนั้นโฆษณจับ ข้อมือของนีราเอาไว้ แล้วริมฝีปากก็ขยับขึ้นเล็กน้อย
นีราทั้งโกรธทั้งหวั่นวิตกถึงแม้ว่าเขาจะลดเสียงของเขา ลง แต่ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าคนตรงข้ามจะไม่ได้ยิน และไม่ว่าเธอจะพยายามมากแค่ไหนก็ไม่สามารถสลัดให้ หลุดจากอุ้งมือของเขาได้

เมื่อมองเห็นแววตาที่เกลียดชังของเธอแล้ว ความโกรธข องโฆษณก่อนหน้านี้จึงลดลงไปเล็กน้อย

โฆษณไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้เขาอนุญาตให้นีราสนใจ เฉพาะตัวเขาเท่านั้น แม้ว่าเธอจะเกลียดเขา แต่เขาก็ไม่ อนุญาตให้เธอไปเอาอกเอาใจคนอื่น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ