ฉันเคยเงยมองเธอในช่วงที่ฉันซบเซา

บทที่ 4 ทานมื้อไหม



บทที่ 4 ทานมื้อไหม

กลางคืนฉันนอนไม่หลับ ในหัวมีภาพของเขา โผล่ขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า ฉันทนความเจ็บปวดของ ใจไว้ กว่าจะหลับลงไปก็ดึกมากแล้ว

ตอนที่คุณาสินก็ได้ติดต่อฉันอีกครั้ง เป็นเวลา หลังจากที่เจอกันในครั้งนั้นหนึ่งอาทิตย์

เขาบอกว่าเขาจะไปทำงานต่างจังหวัด ประมาณหนึ่งเดือน ถามฉันอย่างเกรงใจว่าช่วยดูแล ลูกของเขาให้หน่อยได้ไหม ในหนึ่งเดือนนี้เขาจะไม่ ปรากฏในบ้านเลย

ฉันปฏิเสธเขา และก็ได้บอกว่าตอนนี้ตัวเอง เรียนหนัก ให้เขาไปหาคนที่เหมาะสมกว่านี้ เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย

ฉันวางสายด้วยความรู้สึกผิดหวัง จริง ๆ แล้ว ฉันก็แอบหวังว่าเขาจะเอ่ยขอร้องฉันอีกครั้ง ไม่แน่ ฉันอาจจะตอบตกลงก็ได้

ในบางที คนส่วนใหญ่ก็อาจจะใช้ชีวิตดัง สุภาษิตไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ฉันยังคิดถึงเขา คิดถึงเขามาก ยิ่งเป็นอาทิตย์ที่แล้วที่เจอกันโดย บังเอิญ โดยเฉพาะค่าคืนที่โดดเดี่ยวฉันก็รู้สึกไม่อยากเป็นแบบนี้เลย

ฉันหลอกตัวเองอยู่เสมอ ถ้าหากว่าฉันไม่จาก มา ระหว่างเธอกับเขามันก็คงไม่เป็นแบบนี้..

ความคิดถึงนี้กำลังทรมานฉันไม่หยุดไม่หย่อย ทำให้ฉันจินตนาการนึกน้อนไปถึงทุกอย่างในตอนที่ ยังอยู่กับเขา

สุดท้ายฉันก็ไม่สามารถปล่อยวางจากเขาได้ พอเห็นเขา พอได้ยินเสียงของเขา ความหยายาม ทั้งหมดกลับสูญเปล่า

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะการที่เธอคิดถึงเขาตลอดทั้ง วันทั้งคืนหรือเปล่า พอใกล้ถึงเวลาเที่ยงคืน ในตอน ที่ฉันกำลังสะลึมสะลืออยู่ ฉันก็ได้รับโทรศัพท์จาก คุณาสิน

ฉันชะงักไปพักหนึ่งถึงได้กดรับสาย น้ำเสียง ของเขาในโทรศัพท์ฟังดูแหบพร่าเล็กน้อย

“เธอออกมาหน่อยได้ไหม?” คุณาสินพูด “ฉัน อยู่หน้าประตูมหาลัยเธอ”

ฉันรีบลงจากเตียงไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมเผ้าก็ยังไม่ทันหวี รีบวิ่งไปที่ประตูก่อนที่จะปิด

พอเงยหน้าก็เห็นรถของคุณาสิน เขากำลังยืน สูบบุหรี่อยู่ข้างตัวรถ ควันบุหรี่ของเขาลอยหายไป ในความมืด

เขาสวมใส่กางเกงยีนส์และเสื้อคลุมแขนยาว เมื่อเทียบกับลุคผู้ใหญ่ในชุดสูทอย่างเป็นทางการ ของเขาก่อนหน้านี้ เขาในคืนนี้ดูหนุ่มขึ้นเป็นอย่าง มาก ผมก็ยาวขึ้นนิดหนึ่งด้วย พอเห็นฉัน เขาก็ยัก คิ้วแล้วยิ้มให้ รอยยิ้มนั้นสามารถทำให้วิญญาณของ เธอหลุดออกจากร่างได้เลยนะนั่น

ฉันมองเขาอย่างนิ่งอึ้ง จากนั้นก็ถูกเขาพาตัว

ขึ้นไปบนรถ

รถสปอร์ตได้ถูกขับออกไปวิ่งอยู่บนถนนภาย ใต้แสงไฟที่ส่องสว่าง

“คุณมาหาฉันมีธุระอะไรเหรอคะ?”

ฉันนั่งอยู่นานกว่าจะคิดคำถามนี้ออก

เหมือนว่าเขายังคิดไม่ได้ว่าจะตอบคำถามนี้ อย่างไร จากนั้นก็ยื่นมือไปกดปุ่มเปิดเพลง
ในรถมีเสียงดนตรีคลอขึ้นมา ทำให้ไม้รู้สึกเก้อ

เขินแล้ว

เขาขับรถไปพลางเอ่ยถามฉัน

“ทานมื้อค่ำไหม?”

“ที่คุณมาหาฉันดึกขนาดนี้เพื่อชวนฉันทานมื้อ ค่ำเหรอคะ?”

“อืม”

ฉันมองเขา เหมือนว่าเขาจะสังเกตเห็นอะไร บางอย่าง เขาทำท่าเป็นถูหางตาแล้วเอ่ยออกมาว่า “ทานเสร็จแล้วเดี๋ยวกลับมาส่ง

เหมือนเขาพูดคำนี้เพื่อรับปากกับฉันว่าเขาไม่

ได้หวังอะไรจากฉัน

แต่ฉันก็ต้องบอกเตือนเขา

“ประตูมหาลัยจะปิดและห้ามไม่ให้เข้าออก หลังเที่ยงคืนค่ะ”

“ใช่เหรอ?”
เขาเงียบไปอย่างพูดอะไรไม่ถูก

“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวเสร็จแล้วคุณส่งฉันไปที่ บ้านแม่ฉันก็ได้ค่ะ”

เขาอึมทีหนึ่งแล้วไม่ได้พูดอะไรอีกเลย

พวกเราทานอะไรกันนิดหน่อย ในตอนที่กำลัง จะส่งฉันกลับไปที่บ้าน ฉันเห็นว่าเขาขับรถมาผิด ทาง ทางรอบ ๆ เริ่มเปลี่ยวมากขึ้นเรื่อย ๆ ๆ

“ไม่ใช่ทางนี้ค่ะ คุณต้องยูเทิร์นกลับไป” ฉัน มองเงาต้นไม้ที่มืดสนิทภายนอก รู้สึกว่าเขาตั้งใจ ฉันเลยรู้สึกโกรธ

“ไม่กลับได้ไหม?” เขาจอดรถลง ดับเครื่อง ปิดไฟ แล้วเอามือกดที่หัวไหล่ของฉัน

ฉันขัดขืนแล้วจะผลักเขา

เขายื่นมือมาประคองใบหน้าของฉันเอาไว้ จาก นั้นก็ประกบริมฝีปากเข้ามาขบกัดที่ใบหู และเอ่ย เรียกชื่อของฉันด้วยเสียงกระเส่า

“ฟอง ฟอง….”
เขาเรียกชื่อของฉันซ้ำอยู่อย่างนั้นครั้งแล้วครั้ง

“ฟอง ฉันคิดถึงเธอมาก”

คำพูดนี้ทำให้ฉันพ่ายแพ้อย่างไม่เป็นท่าในเล่าทันที

การขัดขืนและสติของฉันก็ได้หายไป จมอยู่ใน จูบที่เร่าร้อนของเขาอีกครั้ง

เขาใช้มือล้วงเข้ามาในกระโปรงของฉัน แล้ว สอดใส่เข้าไปด้านในจนสุด ทำให้ฉันถึงกับลืมผลัก มือของเขาออก การกระทำที่รุนแรงของทำให้ฉันจม ปักอยู่กับความรู้สึกที่เสียวซ่านและคำนึงหา ในตอน ที่เขาเริ่มสอดใส่เข้ามา ฉันกอดร่างของเขาไว้อย่าง แน่นด้วยอาการเกร็งและกระตุกเล็กน้อย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ