ตอนที่ 7 ผู้ชายจอมหลอกลวงที่ขี้ขลาด(1)
หลังจากที่ฉินซูเจียนพูดประโยคนั้นจบ ดูเหมือนรู้ได้ถึงความ ของโฉ่งฉ่างของตนเอง จึงเอ่ยอีกครั้งว่า “ขอโทษนะคะ ดู เหมือนว่าฉันจะรบกวนพวกคุณแล้ว
ไม่รู้ว่าใครพูดตอบว่า “ไม่เป็นไร
ยังมีคนพูดต่ออีกว่า “คุณก็คือฉันซูเงี่ยนนี่เอง ถ่ายรูปกับ ฉันได้ไหม เซ็นต์ลายเซ็นให้ฉันหน่อย
ชั้นที่นั่งพิเศษจึงเกิดเสียงดังเซ็งแซ่ขึ้นอีกครั้งในช่วงเวลา สั้นๆ คนจำนวนมากต่างก็พากันห้อมล้อมรอบตัวฉันซูเจียน
ซย่าหว่านอ่านทำราวกับว่าเป็นคนที่ไม่ได้เป็นอะไร หลับตาลงอีกครั้ง แต่ว่าครั้งนี้เธอกลับไม่ได้หลับเหมือนเมื่อครู่
ไม่นานนัก ด้านข้างของซย่าหว่านอ่านก็มีหอมของน้ำหอม ที่ส่งกลิ่นหอมรัญจวนมา เธอยื่นจมูกฟุดฟิด ชำเลืองมองไปยัง ข้างๆ ไม่รู้ว่าฉันซูเงี่ยนมานั่งที่ข้างๆ ตนเองตั้งแต่เมื่อไหร่ กำลัง นั่นตะแคงข้างพูดคุยกับหันจึงเหนียน
เธอเพียงแต่ชำเลืองมองเล็กน้อย ซึ่งโย่วมั่นก็หยิกเข้าที่ แขนของเธอหนึ่งที่ “หว่านอาน เธอจะไปห้องน้ำเป็นเพื่อนฉัน ไม่ใช่เหรอ ไปเถอะ…” ซึ่งโย่วมั่นพูดแล้วก็ลุกขึ้นคว้าแขนของซย่าหว่านอาน โดยไม่สนใจปฏิกิริยาของเธอ พาเธอออกไปจาก ที่นั่งพิเศษ
เดินมุ่งตรงไปได้ระยะหนึ่ง อย่าหว่านอานพบว่าทางที่ยัง โย่วมั่นพาเธอมาไม่ใช่ทางที่จะไปห้องน้ำเลยสักนิด ไม่ใช่ว่า จะไปห้องน้ำเหรอ”
“ไปห้องน้ำอะไรกัน!
ซย่าหว่านอานแบะปากยิ้มเจื่อนเล็กน้อย
เธอรู้อยู่แล้วว่าส่ง โย่วมั่นแค่หาข้ออ้างเพื่อที่จะพาเธอออก มาจากสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเท่านั้นเอง แต่…ซ ย่าหว่านอานกำลังคิดถามซ่ง โย่วมั่นที่ดึงแขนเธอเข้าไปใน ลิฟท์ “เธอจะพาฉันไปที่ไหน
“ไปกินมื้อดึก!” ซึ่งโย่วมั่นพูดแล้วก็กดลิฟท์ไปที่ชั้นลาด
จอดรถ
“มื้อดึก?”
“ทำไม? ไม่กิน? ถ้างั้น…สปา
สปา นอนได้…อย่าหว่านอานพยักหน้า “ตกลง
ทั้งสองไปสปาคลับที่พวกเธอมักไปกันบ่อยๆ หลังจาก อาบน้ำแช่ตัวจนสะอาดสะอาด ทั้งสองก็ไปนวดกดจุด ร่างกาย และจิตใจจึงค่อยๆ รู้สึกผ่อนคลายลง
ไม่นานนัก ย่าหว่านอานก็หลับไป แต่ยังโย่วมั่นยังไม่ หลับ จากนั้นเริ่มส่งเสียงเรียกซย่าหว่านอาน เรียกจนกระทั่งสุดท้ายแล้วพบว่าเธอหลับเสียจนไม่ได้สติไม่รู้สึกรู้สาไม่สนใจ อะไรรอบตัวแล้ว จึงลุกขึ้นอย่างเหลืออดแล้วตีไปหนึ่งป้ายที่ซ ย่าหว่านอาน ปลุกเธอให้ตื่นจากฝัน จากนั้นพูดอย่างรวดเร็วว่า “หว่านอาน มาถึงขั้นนี้แล้วยังจะมีกะจิตกะใจหลับลงอีกเหรอ”
อย่าหว่านอ่านขยี้ตาด้วยอารมณงัวเงี่ยงุนงง กระซิบถาม อย่างไม่พอใจว่า “เป็นอะไรล่ะ
“เธอพูดมาสิ”
เซียหวานอานไม่มีเสียงแล้ว
ซ่ง โย่วมั่นผุดขึ้นอีกครั้งด้วยอารมณ์โกรธ “เธออย่ามาพูด กับฉัน ผู้หญิงคนนั้นที่เธอเห็นในวันนี้ ลึกๆ แล้วในใจของเธอก็ ไม่คิดหาหนทาง?”
ซย่าหว่านอานรู้ว่า…ผู้หญิงคนนั้น….ซึ่งโย่วมั่นหมายถึงฉัน ซูเจียน…เธอไม่พูดอะไร แต่ดวงตากลับเบิกโพลง
“ฉันถามเธอ เธอได้ไม่เจอเขานานแค่ไหนแล้ว เขารู้ไหม ว่าเขามีครอบครัว มีภรรยาหนึ่งคน? หว่าน-อานที่แท้เธอไม่ เคยคิดถึงภายภาคหน้าเลยเหรอ เธอคงไม่คิดที่จะใช้ชีวิตร่วม กับเขาด้วยสถานการณ์เช่นตอนนี้ไปตลอดชีวิตหรอกนะ เอาล่ะ เอาเป็นว่าเธอคิด แล้วเขาล่ะ? ถ้าหากเขาไปพบเจอกับคนที่ตัว เขาชื่นชอบล่ะ จำเป็นจะต้องหย่ากับเธอ เธอจะทำยังไง” ซึ่งโย่ว มั่นพูดไปยาวมาก แต่เห็นว่าอย่าหว่านอานไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จึงเอ่ยขึ้นว่า “หว่านอาน? หว่านอาน? อย่าหว่านอานนี้เธอ กำลังฟังที่ฉันพูดอยู่หรือเปล่า?”
“กำลังฟังอยู่…” อย่าหว่านอนขยับปากตอบ “งั้นที่ฉันพูดเมื่อกี้…เธอคิดว่าไง?”
“อืม…” ซย่าหว่านอานไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง “ฉันคิดว่า เรื่องในวันนี้ เธอเก็บเป็นความลับ อย่าบอกกับพ่อแม่ของฉัน กับพ่อแม่ของเธอ ไม่อย่างงั้นพวกท่านจะเป็นกังวล
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ