ฉันอยากอยู่ในเพื่อนบ้านของคุณจริงๆ

ตอนที่ 1 ผมไม่แต่งกับคุณ (1)



ตอนที่ 1 ผมไม่แต่งกับคุณ (1)

ภาคที่ 1

การได้พบกับหันจึงเหนียน ในวันนั้น ก้นบึงในของหัวใจ ย่าหว่านอานอันมีเพียงคำสามคำ “ชั่วชีวิต

เขาคือคนในสายตาของเธอ รับรู้ได้เลยว่าเขาคือคนที่เธอ ต้องการมาตลอดชีวิต

อุ่นไอข้างใจคุณ – เยี่ยเฟยเยี่ย

ภายในห้องทำงานที่โล่งสว่างกว้างขวางและใหญ่โต อย่า หว่านอานจ้องมองไปยังหันจึงเหนียนผู้ซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ด้านหน้าของเธอครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าเขามองมาที่ตนเอง แต่ยัง ไม่มีทีท่าจะวางมือจากงาน จึงเป็นฝ่ายรุกพูดขึ้นว่า “ฉัน…ฉัน มาพบคุณ มีเรื่องที่จะต้องคุยกับคุณ”

ปลายนิ้วมือที่เคาะลงบนแป้นคีย์บอร์ดของหันจึงเหนียน หยุดลง แต่เขาก็ไม่มองเธอ น้ำเสียงที่เอ่ยออกมานั้นฟังดูเรียบ เฉยและเย็นชา “ว่ามา”

ความห่างเหินและเย็นชาเช่นนี้ของเขา ทำให้อย่าหว่าน อานไม่กล้าจะเอ่ยปากพูดอีกต่อไป เธอนิ่งเงียบไม่พูดไม่จาอยู่ นาน เมื่อเห็นหันจึงเหนียนเงยหน้ามองมาที่เธอด้วยความงงงัน สิ่งนี้จึงเป็นสิ่งที่ปลุกให้เธอกล้าที่จะพูดต่อไปอีก “ฉัน…ฉัน อยากจะบอกว่า ฉันแต่งงานกับคุณได้นะ”
หันจึงเหนียนนิ่งอึ้งไป แต่ก็แค่เพียงชั่วพริบตาเดียว เขาก็ กลับมาเงียบเฉยและเย็นชาดังเดิม

“ผมไม่แต่งกับคุณ”

คำพูดเพียงห้าคำที่เรียบง่าย ทำให้ปลายนิ้วมือของอย่า หว่านอานกชายเสื้อแน่น โดยไม่รู้ตัวประหนึ่งว่ากลัวว่าเขาจะ มองอะไรบางอย่างออก เธอไม่ลังเลใจรีบพูดไปว่า “ฉันรู้…ฉันรู้ ว่าคุณไม่ได้ชอบฉัน แล้วก็ไม่อยากแต่งงานกับฉัน…แต่พวกเขา ต้องการให้เราเกี่ยวดองกัน

พอย่าหว่านอ่านพูดถึงตรงนี้ เธอก็ไม่รู้ว่าควรจะพูด อย่างไรต่ออีก เธอสับสนว้าวุ่นอยู่ครู่ใหญ่ แต่ถึงอย่างไรก็จะไม่ ยอมแพ้เช่นนี้ จึงเอ่ยปากพูดขึ้นอีก โดยเปลี่ยนวิธีการพูดเสีย ใหม่ “คุณวางใจเถอะ…พวกเราทำธุรกิจร่วมกัน” หลังจากที่เรา แต่งงานกันแล้วฉันสัญญาว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของคุณ และสิ่งที่คุณต้องการความร่วมมือ ฉันให้พ่อของฉันช่วย สนับสนุนส่งเสริมให้ลุล่วงได้…ฉัน ฉันไม่ได้ชอบคุณ ที่ฉันทำ แบบนี้ไม่ได้มีความหมายอื่น ก็คือ ก็คือเพื่อ เพื่อทำให้พ่อของ ฉันสบายใจ…ดังนั้น…คุณ…คุณลอง…”

คำพูดสุดท้ายของซย่าหว่านอานยังไม่ทันได้พูดจนจบ หัน จึงเหนียนก็เอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นบาดใจ “ผมต้องเข้า ประชุมแล้ว เชิญคุณตามสบาย

เขาพูดพลางลุกขึ้นยืนแล้วหยิบเอกสารฉบับหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะ
อย่าหว่านอานอ้าปากจะพูด เธอยังคงคิดที่จะพูดอะไรอีก สักหน่อยเพื่อโน้มน้าวใจหันจึงเหนียน เพียงแต่คำพูดสุดท้ายที่ จะพูดออกมาแม้คำๆ เดียวก็ยังพูดไม่ออก หันจึงเหนียนทำ ราวกับว่าเธอไม่มีตัวตน ทิ้งเธอเอาไว้เพียงลำพังแล้วเดินจาก ไปพร้อมกับปิดประตูห้องทำงานที่ทั้งหนักและหนาลง อย่า หว่านอานจึงละสายตาจากทางเดินที่หันจึงเหนียนเดินจากไป…

เธอมองดูรอบๆ ห้องทำงานของเขารอบหนึ่ง สุดท้าย สายตาของเธอก็หยุดลงตรงด้านหน้าโต๊ะทำงานของเขา เธอ มองตรงที่ๆ เขาเพิ่งนั่งก่อนหน้านี้ สีหน้าของเธอแสดงออกมา ถึงความอ่อนโยน แต่ทว่าเพียงไม่นานก็ถูกความรู้สึกเย็นชา และโศกเศร้าปกคลุมอย่างรวดเร็ว เธอรู้ว่าเขาไม่ชอบเธอ จะ ไม่แต่งงานกับเธอ แต่เธอไม่ล้มเลิกความคิดที่จะลองเด็ดขาด

หลังจากนั้นสองชั่วโมงหันจึงเหนียนประชุมเสร็จแล้วจึง กลับมาที่ห้องทำงานอีกครั้ง เขาเดินไปยังโต๊ะทำงานพลางพูด คุยกับเลขาที่เดินตามอยู่ด้านหลัง

จนกระทั่งเมื่อเขานั่งลงบนเก้าอี้ สิ่งที่เขาต้องการพูด ทั้งหมดก็จบลง และในที่สุดเลขาก็เอ่ยพูดในสิ่งที่ตนเอง ต้องการจะพูด “ผู้จัดการใหญ่หันคะ คุณซย่าออกไปแล้วค่ะเมื่อ สองชั่วโมงก่อนหน้านี้

เมื่อเผชิญกับประโยคนี้ สีหน้าของหันจึงเหนียนก็ไม่แสดง อาการใดๆ ทั้งสิ้น เลขาทำได้เพียงพูดต่อไป “ฉันบอกเธอว่าจะ ให้คนขับรถไปส่งเธอ แต่คุณซย่าปฏิเสธ”
หันจึงเหนียนยังคงมีสีหน้าที่ไม่สนใจ ราวกับว่าเลขาเป็น เพียงอากาศก็ไม่ปาน

“นี่เป็นเอกสารที่ทนายเฉิน ส่งมาให้คุณ” เลขาเอ่ยขึ้น เป็นครั้งที่สาม และยื่นเอกสารให้กับเขา

ในที่สุดหันจิงเหนียนก็มีปฏิกิริยาตอบสนอง เขาพยักหน้า เล็กน้อย แล้วก็รีบเปิดเอกสารอย่างฉับไว้ หลังจากที่ได้เห็น

เนื้อหาข้างในเอกสารแล้ว คิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากัน

“ผู้จัดการใหญ่หัน?” เลขาเห็นว่ามันจิ้งเหนียนดูนิ่งเฉยได้ ซึ่งปฏิกิริยาตอบสนอง จึงเอ่ยเรียกอีกครั้ง

หันจึงเหนียนได้สติ ชำเลืองมองไปที่เลขาหนึ่งครั้ง

“หากไม่มีอะไรแล้ว ฉันไปก่อนนะคะ”

หันจึงเหนียนเอ่ยตอบเพียงคำเดียวว่า “อืม” เขารอจน กระทั่งเลขาออกไปได้ระยะหนึ่งแล้ว จึงมองไปที่เอกสารที่ถืออยู่ ในมืออีกครั้ง

ขณะที่กำลังอ่านเอกสารอยู่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะ กระวนกระวายใจอยู่ไม่น้อย เขาโยนเอกสารฉบับนั้นเข้าไปใน ลิ้นชัก จากนั้นก็เปิดคอมพิวเตอร์ทุ่มเททำงาน ทว่าท่าทีที่เขา เคาะแป้นคีย์บอร์ดนั้นเผยให้เห็นว่าเขาไม่มีสมาธิที่จะจดจ่อกับ งาน

สภาวะเช่นนี้กินเวลายาวนานต่อเนื่องราวหนึ่งชั่วโมง เขา ดึงลิ้นชักออกมาอีกครั้ง หยิบเอกสารฉบับนั้นออกมา จากนั้นเขาก็เอนตัวพิงกับพนักเก้าอี้ เงยหน้ามองฝ้าเพดาน

เขานั่งเหม่อลอยอยู่เงียบๆ เป็นนานเพียงลำพัง และใน ที่สุดเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดโทรไปหาซย่า หว่านอาน

ไม่รู้ว่าเป็นความเข้าใจผิดของเขาหรือไม่ เสียงปลายสาย ของซย่าหว่านอานเป็นน้ำเสียงที่มีความแปลกใจและความ หวาดกลัวอยู่นิดหน่อย “ฮัลโหล

หันจึงเหนียนไม่พินิจพิเคราะห์น้ำเสียงของซย่าหว่านอาน นานนัก แล้วพูดประเด็ดสำคัญที่ตนเองต้องการจะพูดออกไป “ผมจะแต่งงานกับคุณ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ