จุติใหม่มหาเทพ เทียน

บทที่7 ความเสียใจของลุงซุย



บทที่7 ความเสียใจของลุงซุย

ภายในอพาร์เม้นท์

จ้าวเทียนได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้น้องสาวฟัง โดยมีการ ปรับเปลี่ยนเนื้อหาเกี่ยวกับที่มาของความเก่งกาจของตน ว่าได้ รับการสั่งสอนมาจากชายชราคนหนึ่งที่เห็นในพรสวรรค์ของเขา แต่ท่านได้สั่งห้ามเขา ไม่ให้ประกาศให้คนอื่นรู้ เพราะท่านชอบ ความเงียบสงบ

“ เรื่องทั้งหมดก็เป็นแบบนี้แหละ…เสียวเหมยน้องมีอะไรสงสัย อีกไหม ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

พี่เทียนหมายถึง…พี่ได้เรียนรู้วิชาเซียนจากชายชราท่านหนึ่ง แล้วใช้วิชาเหล่านั้นไปรักษาของพี่เฟย จนได้ของขวัญเป็นอ พาร์เม้นท์ห้องนี้มา ”

” หนูเข้าใจถูกใช่ไหม…” จ้าวหยูเหมยพูดขึ้นด้วยสีหน้าว่าง เปล่า

น้องเข้าใจถูกแล้ว ” เขาตอบด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน

จ้าวหยูเหมยลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินมากอดพี่ชายที่หน้า สงสารของเธอ ด้วยสีหน้าที่เศร้าโศก เธอพยายามกลั้นน้ำตาเอา ไว้พร้อมกับพูดว่า
“ พี่ไม่ต้องกลัวหนูจะดูแลพี่เอง ไม่ว่าจะเป็นยังไง พี่ก็คือพี่ ชายคนเดียวของหนู หนูจะไม่ทิ้งพี่ไปไหนแน่นอน ” เธอเอามือ ลูบไปที่แผ่นหลังของจ้าวเทียนเบาๆ เหมือนปลอบประโลม พี่ ชายของเธอคงทนความเสียใจไม่ไหวจนเป็นบ้าไปแล้ว เธอต้อง ปกป้อง ชายเอาไว้

ลมหายใจของจ้าวเทียนเริ่มหนักขึ้น เขารู้สึกเหมือนศักดิ์ศรี ความเป็นพี่ชายของเขาพังทลาย นี่น้องสาวคิดว่าฉันเป็นบ้าไป แล้วใช่ไหม

ขอยอมรับว่า ในอดีต เขาอาจจะเป็นพี่ชายที่ไม่ได้เรื่องและ พึ่งพาไม่ได้ แต่ตอนนี้มันได้เปลี่ยนไปแล้ว ตัวเขาไม่อ่อนแอเช่น ในอดีตอีกแล้ว

ตอนนี้เขาผู้เคยเป็นถึง องค์มหาเทพผู้ยิ่งใหญ่แห่งแดนสวรรค์ ถูกน้องสาวตนเองปฏิบัติราวกับเป็นคนบ้า แค่คิดก็อับอายจน ต้องแทรกแผ่นดินหนีแล้ว

โป๊กก!

” โอ้ย…พี่หนูทำไมเนี่ย ” จ้าวหยูเหมยร้องขึ้นด้วยความเจ็บ ปวด เธอเอามือทั้งสองกุมหัวเอาไว้ มองไปทางพี่ชายด้วยสีหน้า น้อยใจ หรือแม้แต่พี่ชายที่เป็นแบบนี้ไปแล้ว ก็ยังรังแกเธอ

“เสี่ยวเหมย น้องหยุดคิดอะไรเหลวไหลเลยนะ พี่ไม่ใช่คนบ้า! ” จ้าวเทียนกัดฟันพูดขึ้น

ดูนี่…พี่จะแสดงอะไรให้ดู !” เขายกฝ่ามือขึ้นหันไปทางแก้ว ของน้องสาว ที่อยู่ห่างไป เมตร

รูป หมับ!

แก้วน้ำ ใบนั้นถูกพลังบางอย่าง ทำให้ลอยเข้ามาอยู่ในมือของ จ้าวเทียนทันที เมื่อมองไปทางสีหน้าตกตะลึงของน้องสาว เขาก็ มีรอยยิ้มเล็กๆ แล้วโชว์ออฟต่อทันที

แกรก!

แก้วน้ำ ในมือของจ้าวเทียน ถูกพลังปราณบดขยี้จนแตกสลาย กลายเป็นฝุ่น ถูกสายลมพัดหายไปจนหมด

เป็นไงบ้าง…น้องเชื่อพี่แล้วใช่ไหม ” จ้าวเทียนพูดขึ้นอย่าง

ถือดี เขามองเศษฝุ่นที่ปลิวไปตามลม วิชานี่มันยอดเยี่ยมจริงๆ

เพียงแค่ระดับรวมลมปราณก็ทำให้ แก้วกลายเป็นฝุ่นได้

หากเป็นวิชาอื่นบนโลกมนุษย์ แก้วใบนั้นคงแค่แตกเป็นชิ้น เล็กๆเท่านั้น ไม่ได้สลายไปจนหมด

ทำไมเงียบ…

จ้าวเทียนค่อยๆหันกลับไปมองน้องสาว ที่ตอนนี้ กำลังเศร้า เสียใจเป็นอย่างมาก น้ำตาหยดเล็กๆไหลลงจากหางตาไม่หยุด ปากของเธอเบะขี้นกำลังจะร้องไห้ออกมา
” แง แง แก้วใบนั้น…..พ่อให้เป็นของขวัญวันเกิดหนู ” เธอ ปล่อยโฮ ออกมาทันที

พี่…พี่ขอโทษ ” เขาพึ่งนึกออกแก้วใบนั้นเป็นของขวัญจาก พ่อที่เสียไป น้องสาวเขาชอบมันที่สุด แล้วเขาพึ่งบดขยี้มันเป็น ฝุ่นต่อหน้าเธออีกด้วย

นี่ฉันทำอะไรลงไป…

ตลอดการปกครองแดนสวรรค์มากกว่าแสนปี นี่เป็นครั้งแรก ที่มหาเทพเทียนผู้ยิ่งใหญ่ ได้ก้มหัวขอโทษเด็กสาวคนหนึ่ง

ผ่านไป1ชั่วโมง

หลังจากที่ปลอบใจจนน้องสาวของเขาสงบลง จ้าวเทียนก็ได้ ให้สัญญากับเธอ ว่าพรุ่งนี้จะไปดูเธอเล่นเปียโน ในงาน นิทรรศการดนตรี ที่โรงเรียน ซึ่งเขาก็คิดจะไปจัดการเรื่องค่า เทอมของน้องสาวให้เรียบร้อย

โรงเรียนที่น้องสาวของเขาเรียนอยู่นั้น เป็นโรงเรียนของคุณ หนูตระกูลผู้ดี ซึ่งตั้งแต่ที่บ้านเขาล้มละลาย ก็ได้ค้างค่าเทอมมา สามเดือนแล้ว

หากไม่ใช่เพราะน้องสาวของเขาเป็นเด็กที่เรียนเก่งมาก ทั้ง ยังมีความสามารถด้านดนตรีสูง ก็คงจะโดนไล่ออกไปนานแล้ว

แกรกๆๆ
โทรศัพท์ของจ้าวเทียนที่วางอยู่บนโต๊ะ สั่นสะเทือนอย่างแรง เมื่อมองไปยังชื่อของผู้ที่โทรเข้ามา สีหน้าจ้าวเทียนก็เปลี่ยนเป็น ซับซ้อนทันที

มันเป็นเบอร์ของ ลุงซุยเฟยหลง ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆของอดีตคู่ หมั้นของเขา

เขากดรับสาย คุยอยู่ประมาณ1นาทีแล้วจึงกดวางสายไป จ้าวหยูเหมยที่เห็นสีหน้าของพี่ชายเปลี่ยนไป ตั้งแต่กดรับสาย โทรศัพท์จึงถามขึ้น

” เกิดอะไรขึ้นเหรอค่ะพี่ ” เธอถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

เขาเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วจึงตอบว่า

ลุงซุยเฟยหลง…กำลังจะมาหาพวกเรา ”

หลังจากที่ได้ยินคำตอบของพี่ชาย เธอก็เข้าใจสาเหตุ ที่มีหน้า ของพี่ชายเปลี่ยนไปทันที เธอจึงกุมมือพี่ชายเอาไว้ด้วยความ ห่วงใย แล้วพูดขึ้น ” พี่ไม่ต้องกังวลนะ คุณลุงซุยรักเราสองคน มาก ไม่มีทางทำร้ายพี่แน่นอน ”

เฮ้ออ

เมื่อได้ยินคำพูดของน้องสาว เขาจึงถอนหายใจออกมายาวๆ ก็เพราะว่าลุงซุยรักเขามาก จนเหมือนกับเป็นลูกชายคนหนึ่งนั่น แหละ ที่ทำให้เขาลำบากใจที่สุด

ยิ่งลุงซุยดีต่อเขาเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งแก้แค้นซุยหลิงอดีตคู่หมั้น ของเขาได้ยากขึ้นเท่านั้น
บุญคุณกับความแค้นของพ่อลูกตระกูลซุยเกี่ยวพันกับเขา ยุ่งเหยิงไปหมด

ผ่านไปไม่นาน…

ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูดังขึ้น จ้าวหยูเหมยมองไปยังพี่ชายที่นั่งซึม อยู่บนโต๊ะรับแขก เธอจึงตัดสินใจเป็นคนเดินไปเปิดประตูให้ เอง

ชายหญิงสามคนเดินตามจ้าวหยูเหมย เข้ามาในห้อง…

จ้าวเทียนรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย ที่ไม่เจอซุยหลิงในนั้น

* สวัสดีครับ…ลุงซุย ” เขาก้มหัวทักทายไปที่ชายวัยกลาง คนในชุดทหาร รูปร่างของเขาสูงใหญ่ใบหน้าคมเข้มองอาจ สมชายชาตรี สมกับที่ผ่านศึกสงครามมานับไม่ถ้วน แต่ตอนนี้ ลุงซุยต้องใช้ไม้เท้าอันหนึ่งในการช่วยพยุงตัว เพราะอาการบาด เจ็บ

สาเหตุเนื่องมาจากได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการลอบโจมตี ของผู้ก่อการร้ายในสนามรบ จนต้องอยู่ในอาการโคม่าไปถึง ครึ่งปี

บางทีหากไม่ใช่เพราะอาการบาดเจ็บของลุงซุย ครอบครัว เขาอาจจะไม่ต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ เขายังจำได้ว่า ในวันที่พ่อ เขาต้องการค่ารักษา ในการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจเป็นจํานวนเงิน 5ล้านหยวน
แต่เพราะกิจการของพ่อเขาทั้งหมดในตอนนั้นล้มละลาย บวก กับเป็นหนี้อีกมากมายทำให้ไม่มีผู้ใดยื่นมือช่วย

ในตอนนั้น เขาเคยไปคุกเข่าขอร้องซุยหลิง เพื่อขอยืมเงินมา รักษาพ่อ แต่ก็ถูกเยาะเย้ยกลับมาอย่างเย็นชา อีกทั้งจางลงใน ตอนนั้น ก็ได้เข้าไปคุยบางอย่างกับภรรยาของลุงซุย จนสุดท้าย เขาโดนไล่ออกมาเหมือนหมาตัวหนึ่ง

ในวันนั้นเขากับน้องสาวต้องทนยืนดูพ่อจากไปอย่างช้าๆทั้ง น้ำตา โดยที่ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เลย ตอนนั้นเขารู้สึก แค้นในความอ่อนแอของตัวเองมาก ทั้งยังโกรธเกลียดซุยหลิง กับไอสารเลวจางถงจนแทบบ้า

“เสี่ยวเทียน…ลุงขอโทษ ” ลุงซุยได้เดินเข้ามากอดจ้าวเทียน ไว้ด้วยความสํานึกผิด น้ำตาแห่งความเสียใจของท่าน หยดลง บนบ่าของจ้าวเทียนจนเปียกชุ่ม

* หากไม่ใช่เพราะลุงไม่อยู่…พ่อของหลานก็คงไม่ตาย” เสียง ร่ำไห้ของลูกผู้ชายที่เข้มแข็งคนหนึ่ง สั่นสะเทือนจิตใจของจ้าว เทียนเป็นอย่างมาก แม้แต่คนอื่นที่อยู่ในห้องก็ยังตกใจ เพราะ ไม่เคยเห็นบุรุษเหล็กคนนี้เสียน้ำตาขนาดนี้มาก่อน

ลุงซุยในความทรงจำของจ้าวเทียนนั้น เป็นเหมือนยอดมนุษย์ ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ไม่เคยมีสิ่งใดทำให้เกรงกลัวได้มาก่อน แต่ตอนนี้ยอดมนุษย์คนนั้นกลับ…

กลับไปอยู่กับลุงเถอะ….ลุงสัญญาจะดูแลปกป้องพวกหลาน ให้ดีที่สุด เหตุการณ์แบบนั้นจะไม่เกิดขึ้นอีก” เขาถอยออกมายืนอยู่ตรงหน้าหน้าจ้าวเทียน แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงใจ

หลานจะได้กลับไปเรียนมหาลัยอีกครั้ง หรือถ้าหลานอยาก จะทำงาน ก็เข้าไปทำในบริษัทของลุงก็ได้ “

จ้าวเทียนมองไปที่แววตาอันจริงใจของลุงซุย แล้วถามขึ้นด้วย เสียงเฉยชา

แล้วเรื่องสัญญาหมั้นละครับ ”

สีหน้าของลุงซุยเปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยวทันที นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ เขารู้สึกผิดต่อครอบครัวของจ้าวเทียนมากๆ เขากับพ่อแม่ของ จ้าวเทียนสาบานเป็นพี่น้องกัน

เมื่อปีก่อนเขาก็รับปากแม่ของจ้าวเทียนว่าจะดูแลลูกทั้งสอง คนให้ดี รวมถึงสัญญาเรื่องการแต่งงาน เพื่อเกี่ยวดอง ทั้ง2ครอบครัวด้วย

แต่เมื่อเขาฟื้นจากอาการโคม่ากลับมาที่บ้าน ก็ได้รู้ข่าวการ ตายของพี่น้อง แถมหลานทั้งสองคนยังใช้ชีวิตอยู่อย่างทุกข์ทน

คืนนั้นเขาทะเลาะกับภรรยาใหญ่โตทันที ส่วนนังลูกเนรคุณ นั่นเหมือนรู้ตัวก่อน จึงย้ายไปอยู่กับตระกูลจาง ตั้งแต่ก่อนที่เขา จะกลับมา

“เรื่องนั้นลุงสัญญา…ว่าจะมีคำตอบที่พอใจให้กับหลานอย่าง แน่นอน” ลุงซุยตอบขึ้นด้วยเสียงมั่นใจ เขาได้คิดหาทางไว้แล้ว สัญญาหมั้นทั้งสองครอบครัวต้องไม่ถูกยกเลิก ไม่งั้นเขาคงไม่ อาจสู้หน้าแม่ของจ้าวเทียนตอนที่กลับมาได้
ลุงครับ…เรื่องบ้านผมคงจะอยู่ที่นี่ครับ พอดีผมทำธุรกิจกับ ตระกูลลี่อยู่ ห้องนี้ท่านก็ยกให้เป็นของขวัญ ” จ้าวเทียน ตัดสินใจโกหกไป เพราะเขาไม่อยากจะไปอยู่ที่บ้านลุงซุย แต่ก็ ไม่กล้าปฏิเสธตรงๆ เพราะลุงซุยก็ถือเป็นคนที่เขาเคารพรักมา ตั้งแต่เด็ก

“เดี๋ยวนะ…ตระกูลลี่กับท่านปูลี่ หรือหลานหมายถึงท่านผู้เฒ่า ลิตงไห่ !”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ