จุติใหม่มหาเทพ เทียน

บทที่20 แมงป่อง



บทที่20 แมงป่อง

บนดาดฟ้าของตึกสูง30ชั้น เมื่อยืนอยู่บนที่แห่งนี้ สามารถ มองเห็นส่วนต่างๆของเมืองปักกิ่งได้แทบทั้งเมือง

เวลานี้มีหญิงสาวสวมชุดรัดรูป ใบหน้าของเธอถูกปกปิดไว้

ด้วยหน้ากากสีดำทั้งหมด เหลือเพียงช่องว่างเอาไว้ ให้มองเห็น ได้เพียงดวงตาอันเย็นชาคู่หนึ่ง “ เป้าหมายจะไปถึงจุดสังหารในอีก5นาที! ” เสียงจากเครื่อง

มือสื่อสารดังขึ้นข้างหูเธอ

รับทราบ! ” เสียงเฉยชาดังออกมาจากริมฝีปากของเธอ

ครั้งนี้มันก็เหมือนกับทุกครั้ง หน้าที่ของเธอมีเพียงกำจัดเป้า หมายที่องค์กรสั่งมาเท่านั้น ตลอดระยะเวลา 7 ปี งานที่เธอได้รับ มอบหมายมาไม่เคยพลาดแม้แต่ครั้งเดียว

ด้วยเคล็ดวิชาลับที่เธอฝึกฝนอย่างหนักมาตั้งแต่เด็ก ทำให้ เธอกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่อายุเพียง 22ปี และหลังจากนั้น เพียง4ปี ตอนนี้เธอได้เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงแล้ว

เธอมีชื่อว่า โมซินหยาน โค้ดเนมส์ของเธอคือแมงป่อง า นัก ฆ่ามืออาชีพแห่งองค์กรยมทูตปีกทมิฬ

เป้าหมายในครั้งนี้คือผู้บัญชาการคนสำคัญของฝ่ายทหาร จากข้อมูลที่ได้รับมา อีกฝ่ายตอนนี้อยู่ในช่วงกลับมาปฏิบัติ ภารกิจลับที่บ้านเกิด
” ทิศทางลม… โอเค ” เธอพูดออกมาเบาๆ

ปืนสไนเปอร์ ไรเฟิลของเธอ ถูกสร้างขึ้นเป็นพิเศษ สำหรับ สังหารผู้เชี่ยวชาญระดับสูงโดยเฉพาะ ตอนนี้มันได้เล็งตรงไปยัง จุดที่เป้าหมายจะต้องปรากฏตัวออกมาอย่างแม่นยำ ที่เหลือก็แค่ รอให้เธอเหนี่ยวไกออกไป

การจะใช้งานอาวุธสังหารชนิดนี้ได้ ต้องใช้ทักษะการควบคุม ระดับสูง เพราะมันมีแรงปะทุหนักหน่วงรุนแรงมากตอนที่ลั่นไก ออกไป ทั้งองค์กรมีเพียงเธอเท่านั้นที่ใช้งานมันได้

ในขณะที่เธอกำลังเฝ้ารอให้ถึงเวลานั้น…

ตุบ!

!!

เสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นข้างตัวเธอ

พริบ!

เธอคว้ามีดที่อยู่ด้านหลังออกมา อยู่ในทวงท่าพร้อมต่อสู้ทันที สายตาที่แฝงรังสีสังหารมองตรงไปยังที่มาของเสียง

เด็ก…

เธอเห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่มีใบหน้าสิ้นหวัง กำลังยืนอยู่ นอกรั้วกั้นบนชั้นดาดฟ้า เหมือนกำลังจะพยายามกระโดดลงไป ด้านล่าง
” เป็นไปไม่ได้ ” ตอนนี้เธอตกใจมาก แต่เธอไม่ได้ตกใจเรื่อง ที่เด็กหญิงจะฆ่าตัวตาย แต่เป็นเรื่องที่เธอไม่รู้สึกตัวเลย ตอนที่ เด็กคนนี้เดินเข้ามา

หากอีกฝ่ายเป็นศัตรู เธอคงได้ตายไปแบบโง่งม โดยที่ไม่รู้ว่า เป็นฝีมือใครแล้ว เธอมองไปที่นาฬิกาที่สวมอยู่

ยังพอมีเวลาอีก3นาที…ฉันไม่สามารถให้เธอมาฆ่าตัวตาย ตรงนี้ได้หรอกนะ ไม่งั้นมันจะเกิดความวุ่นวายขึ้น ตอนนั้นคง หลบหนีได้ยากมาก

“หนูจ๊ะ…มาทำอะไรตรงนี้ หลบเข้ามาด้านในก่อนมันอันตราย ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พยายามขยับเข้าไปใกล้เด็กหญิง ทีละนิด

ฟุบ!

แต่มันได้สายเกินไป เด็กหญิงได้กระโดดลงไปแล้ว

แย่แล้ว..

เธอตัดสินใจพุ่งตัวตามออกไปโดยไม่ทันคิด

หมับ!

เธอสามารถคว้าตัวเด็กหญิงเอาไว้ได้ แต่พวกเธอสองคนก็ ต้องห้อยตัวอยู่บนตึกสูง30ชั้น แบบน่าหวาดเสียว

เธอพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ตอนนี้เหลือแค่ต้องพยายามดึงตัวกลับขึ้นไป

‘เสร็จกัน! นี่มันจะครบ3นาทีแล้ว

ตอนนี้มีทางเดียวเธอต้องรีบปล่อยมือจากเด็กหญิงคนนี้ แล้ว รีบดีดตัวขึ้นไปบนดาดฟ้า ถึงจะทัน ตัวเธอไม่เคยทําพลาดมา ก่อน เธอไม่อาจให้ชื่อเสียงของเธอต้องมาด่างพร้อยได้

ยังไงเด็กคนนี้ก็อยากตายอยู่แล้ว ก็แค่ปล่อยให้เธอตายไป

ขณะที่เธอกำลังจะทำในสิ่งที่คิดไว้ ก็ได้หันไปเห็นแววตาสิ้น หวังของเด็กน้อย ที่ตอนนี้มันเปล่งประกายออกมาเพียงเสี้ยว พริบตาหนึ่งก่อนที่จะหมดสติไป

แววตาแบบนี้อีกแล้ว เป้าหมายของเธอทุกคนก่อนที่จะตายก็ จะมีแววตาแบบนี้ ประกายแห่งความหวังที่ต้องการมีชีวิตอยู่

เปรี้ยง!

กระสุนสังหารเข้าเป้าหมายอย่างแม่นยำ…

เมื่อมองเป้าหมายที่ล้มลงไป ท่ามกลางบอดี้การ์ดนับสิบคน ครั้งนี้ภารกิจของเธอก็สำเร็จไปอีกครั้ง

“โธ่…นี่ฉันกำลังทำบ้าอะไรอยู่ ” เธอพูดออกมาด้วยความ

สับสน ด้านข้างตัวเธอมีเด็กหญิงนอนหมดสติอยู่

เมื่อครู่นี้ เธอตัดสินใจช่วยเด็กหญิงขึ้นมาด้วย ทำให้เวลามัน เกินไป1นาที โชคดีที่เธอยังสามารถทำภารกิจได้สำเร็จแบบฉิวเฉียด

“ดูไปแล้ว…เธอน่าจะมีอายุเพียง6-7ขวบเท่านั้น ” โม่ชินห ยานมองไปยังใบหน้าเล็กๆน่ารักของเด็กหญิง ที่แม้ตอนนี้เธอจะ หมดสติไปแล้ว แต่ยังมีน้ำตาไหลซึมออกมาเรื่อยๆ

” เด็กคนนี้…ไปเจอเรื่องราวอะไรมา ถึงกลายเป็นแบบนี้ ” เธอ พูดขึ้นด้วยความสงสาร

สุดท้ายแล้วเธอก็ตัดสินใจพาเด็กหญิง กลับไปด้วยกัน เพราะ มองเห็นภาพตัวเองในอดีตซ้อนทับกับเด็กคนนี้ แถมยังรู้สึกคา ใจเรื่องที่เด็กคนนี้สามารถเข้าประชิดตัวเธอได้ง่ายๆ

ใครเล่าจะคาดคิดว่านักฆ่าชั้นแนวหน้าแบบแมงป่องดำ จะ เลือกช่วยชีวิตเด็กหญิงคนหนึ่งเอาไว้ ทั้งยังตัดสินใจลาออกจาก การเป็นนักฆ่า เพื่อเลี้ยงดูเด็กหญิงเหมือนกับเป็นลูกสาวตัวเอง

เวลาห้าปีผ่านไป

ภายในบ้านแห่งหนึ่งที่ห่างไกลจากตัวเมือง โม่ชินหยานกำลัง นั่งมองไปยังร่างที่หลับไหลอยู่บนเตียงนอนด้วยสาวตาเศร้า สร้อย

เด็กหญิงตัวเล็กๆที่เธอนำกลับมาอยู่ด้วยกัน ตอนนี้ได้เติบโต ขึ้นมาก ในวันนั้นหลังจากเด็กหญิงได้สติขึ้นมา เธอกลับสูญเสีย ความทรงจำทั้งหมด จำไม่ได้แม้แต่ชื่อของตัวเอง เธอเป็นเหมือนตุ๊กตาที่ไร้ความรู้สึก…

มีเพียงอย่างเดียวที่เด็กหญิงคนนั้นให้ความสนใจ ก็คือตัวโม่ซินหยานเท่านั้น จึงทำให้แทบจะไม่ยอมห่างแม้แต่เพียงซักก้าว เดียว ราวกับเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอ

* ปิงหยู…แม่จะต้องช่วยลูกให้ได้ ” ไม่ซินหยานพูดขึ้นด้วยน้ำ

เสียงจริงจัง เธอห่มผ้าให้ลูกสาว แล้วเดินออกมาตรงลานหน้า บ้าน เมื่อมองไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวยามค่ำคืน ความ

คิดของเธอก็ค่อยๆนึกย้อนกลับไปในอดีต

โม่ปิงหยู คือชื่อที่เธอตั้งให้กับเด็กหญิง หลังจากที่รู้ว่าเด็ก หญิงสูญเสียความทรงจำไป ทั้งยังมองเห็นเธอเป็นสิ่งเดียวที่มี ความหมายต่อชีวิต ดังนั้นเธอจึงรับเด็กหญิงเป็นลูกบุญธรรม

มันอาจเป็นเพราะความรู้สึกบางอย่างในตัวเธอที่ตื่นขึ้น เธอ ถึงได้ตัดสินใจไปแบบนั้น ตัวเธอไม่รู้ว่าการเป็นแม่ที่ดีต้องเป็น อย่างไร เพราะเธอก็ไม่เคยเจอแม่ของตัวเองมาก่อน

เธอในวัยเด็กเป็นเพียงเด็กจรจัดถูกทอดทิ้ง ต้องดิ้นรนไปวันๆ ก่อนจะถูกองค์กรรับตัวมาฝึกฝนให้เป็นนักฆ่า

ด้วยผลงานมากมายของเธอ ที่จริงเธอสามารถเลือกเป็นอิสระ ได้นานแล้ว แต่เพราะต้องการตอบแทนบุญคุณจึงเลือกทำงาน เป็นนักฆ่าต่อไป

แต่เมื่อได้ใช้ชีวิตอยู่กับเด็กคนนี้ เธอก็อยากเป็นแม่ที่ดี เมื่อ นึกถึงแววตาสิ้นหวังของเด็กหญิงที่เธอได้เห็นตอนเจอกันครั้ง แรก
เธออยากให้เด็กคนนี้ได้รับความรัก แบบที่ตัวเธอเคยโหยหา ในอดีต

เพื่อสิ่งนี้เธอจึงได้ถอนตัวจากองค์กรเพื่อมีเวลาดูแลโม่ปิงหยู ได้เต็มที่ มันต้องใช้เวลาถึงสามปีจึงจะทำให้ลูกสาวของเธอ แสดงอารมณ์ความรู้สึกได้เหมือนเด็กปกติ

เมื่อสองเดือนก่อน ลูกสาวของเธอกลับมีอาการบางอย่างผิด

ปกติไป

ร่างกายของเธอเริ่มค่อยๆสูญเสียความรู้สึก เริ่มจากขาทั้งสอง ข้าง จนตอนนี้เธอไม่สามารถควบคุมร่างกายท่อนล่างได้แล้ว

หากเป็นแบบนี้ต่อไปลูกสาวเธอจะตายลงอย่างช้าๆ

ไม่ว่าจะหาวิธีการรักษาจากหมอที่มีชื่อเสียงซักกี่คนก็ไม่ได้ผล จนสุดท้ายเธอถึงต้องกลับไปที่องค์กรอีกครั้ง

ซึ่งเธอก็ได้รับวิธีรักษามา แต่มันก็ต้องแลกกับการทำงานชิ้น

หนึ่งให้องค์กร

เพื่อปิงหยู…ตระกลูลี่แห่งเมืองเทียนจินจะต้องถูกลบออกไป

สิ้นเสียงของโม่ชินหยาน รังสีสังหารที่ถูกเก็บซ่อนไว้นาน กว่า5ปีก็ระเบิดออกมา พลังปราณอันดุดันของเธอ มันได้ก่อตัว เป็นรูปร่างของแมงป่องสีดำขนาดใหญ่เบื้องหลังเธอ ตอนนี้ไม่ซินหยานได้เข้าสู่ขั้นปรมาจารย์แล้ว….
ตอนแปดโมงเช้า

หลังจากที่ส่งจ้าวหยูเหมยไปโรงเรียน ตอนนี้ข้าวเทียนก็ได้ เดินทางไปยังตระกลูตามที่นัดหมายไว้

วันนี้หลังจากรักษาคุณปู่ลี่เรียบร้อยแล้ว เขามีความคิดที่จะให้ ตระกูลลี่เป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจในการขายเม็ดยาหยวนต้นของ เขา

” ในที่สุดนายก็มาได้ซักที ” เฟยเมื่อเห็นจ้าวเทียนเดินเข้ามา ก็ร้องทักขึ้น ใต้ตาเธอมีรอยคล้ำคล้ายหมีแพนด้า เมื่อคืนเธอ เครียดจนนอนไม่หลับทั้งคืน เพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องอาการบาด เจ็บของปู่เธอ

“ฉันบอกเธอแล้วไง…ว่าไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง ” จ้าวเทียนพูด ขึ้นด้วยรอยยิ้มมั่นใจ เขารู้สึกขบขันเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าของ ลี่เฟย

หลังจากที่ตามเฟยเข้ามายังห้องด้านใน ซึ่งตอนนี้มันได้รับ การคุ้มกันอย่างแน่นหนา ท่านปูตอนนี้กำลังนั่งจิบชาอยู่อย่าง สงบ ที่ด้านหลังของท่าน เขาได้เห็นสมาชิกครอบครัวตระกูล เกือบ20คนยืนอยู่ด้วยสีหน้าดังกล

เหยาเหยากับ หวูเฉินเมื่อเห็นจ้าวเทียนก็ส่งยิ้มทักทายมา ให้

ส่วนคนอื่นๆ ที่เขาไม่รู้จักก็ได้มองกลับมาด้วยความคิดที่แตก ต่างกันไป หลักจากที่ได้ทักทายทำความรู้จักกันเรียบร้อยแล้ว ท่านปลี่ก็ได้ให้คนอื่นๆที่เหลือออกไปทั้งหมด
” ก่อนอื่น…มีเรื่องบางอย่างที่ต้องบอกเธอก่อนนะ ” ท่าน พูดขึ้นอย่างจริงจัง

” เรื่องอะไรเหรอคับ ” จ้าวเทียนถามด้วยความสงสัย เหตุใด ถึงไม่เริ่มลงมือรักษาก่อนแล้วค่อยคุยกันทีหลัง

” ตอนนี้ข่าวที่ว่ากำลังจะได้รับการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญ ลึกลับ มันได้ถูกส่งไปถึงศัตรูเก่าของแล้ว ซึ่งคิดว่าทางนั้น ต้องมีการเคลื่อนไหวบางอย่างแน่นอน โชคดีที่พวกมันยังไม่รู้ถึง ตัวตนของเธอ”

“แต่ถ้าวันนี้เธอสามารถรักษาได้สำเร็จ…ตัวตนของเธอจะ ถูกเปิดเผยทันที เพราะข่าวที่เธอเดินทางมาตระกูลวันนี้น่าจะไป ถึงหูพวกมันแล้ว โดยคนทรยศในตระกูลของปู่เอง”

“ถ้าเธอเลือกที่จะไม่รักษาวันนี้อีกฝ่ายคงไม่กล้าทำอะไร เชี่ยวชาญอย่างเธอแน่นอน ” ท่านปู่อธิบายด้วยความจริงใจ ท่านไม่อยากให้จ้าวเทียนต้องเดือดร้อนไปด้วย

“ปูอยากให้เธอลองคิดทบทวนดูก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ