บทที่ 2 การนอนหลับ
ผู้หญิงดีใจมาก “จริงเหรอ?”
เซี่ยหยูเวยรีบเอ่ยหว่านล้อมอย่างรวดเร็ว “พี่สาว อย่าไปฟัง คำพูดเพ้อเจ้อของเขา เขาไม่รู้ทักษะทางการแพทย์เลยสักนิด!”
พูดจบ เธอก็ใช้สีหน้ารังเกียจและโกรธเกรี้ยวมองหลินหยุน “นายจะก่อเรื่องพอรึยัง!
หลินหยุนไม่ได้สนใจเธอ แต่เดินไปหาเด็กทีละก้าว
ใบหน้าของหลินหยุนสงบนิ่ง ดวงตาของเขาล้ำลึกราวกับ ดวงดาว เขาสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวที่ส่งมาจากตัวเด็ก เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่ไม่สะอาดนั้นกำลังรู้สึกได้ถึงอันตราย “หลินหยุน นายจะทำอะไร?” เซี่ยหยูเวยกล่าวด้วยความโกรธ
ผู้หญิงคนนั้นเองก็กังวลอยู่บ้างเช่นกัน
แต่ฝีเท้าของหลินหยุนยังไม่หยุดลง เขาตะโกนใส่เด็กอย่าง โมโห “ยังไม่ไสหัวไปอีก!
แม้ว่าเสียงของหลินหยุนจะไม่ดังนัก แต่เซี่ยหยูเวยกลับรู้สึก ราวกับฟ้าผ่าตอนกลางวันแสกๆ น้ำเสียงนั้นดังก้องอยู่ในใจของ เธอทันที
จู่ๆเธอก็รู้สึกว่า ตัวตนของหลินหยุน ในขณะนี้ช่างยิ่งใหญ่ สูงส่ง จนเธอไม่กล้าแม้จะมองโดยตรง
กลุ่มมวลสีดำบนศีรษะของเด็กตกใจจนหนีไปทันที
แม้ว่าพลังบำเพ็ญเพียรของหลินหยุนจะสูญเสียไป แต่กลิ่น อายของมหากษัตริย์ชางฉองนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่ภูตผีปีศาจจะ สามารถต้านทานได้
“นี่คุณทำอะไรน่ะ? ถ้าเด็กตกใจขึ้นมาจะทำยังไง!” ผู้หญิงคน นั้นเอ่ยตำหนิ
“แม่…”
อย่างไรก็ตาม เด็กที่แต่เดิมกำลังนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย จู่ๆ กลับส่งเสียงเรียกอย่างอ่อนแรงขึ้น
“ลูก ลูกตื่นแล้ว!” หญิงสาวดีใจจนแทบร้องไห้
“แม่ ผมอยู่ที่ไหน?” เด็กคนนั้นแต่เดิมไม่ได้ล้มป่วย แต่ถูกผี เข้าครอบงำ ตอนนี้ผีร้ายไปแล้ว ย่อมต้องฟื้นได้สติมาเป็น ธรรมดา
“ลูกไม่สบาย แม่พาลูกมาโรงพยาบาลเพื่อพบแพทย์” ผู้หญิง คนนั้นพูดเสียงนุ่ม
“แม่ ผมรู้สึกดีมากนี่ แค่หิวนิดหน่อย!” เด็กน้อยพูดด้วยเสียง ใสซื่อ
หลินหยุนเอ่ย “ถึงแม้ว่าผมจะไล่สิ่งไม่สะอาดบนตัวเขาออกไป แล้ว แต่เขาก็ยังเด็กเกินไป ยังต้องพักฟื้นอีกสองสามวัน
หญิงสาวรีบหันมาขอบคุณหลินหยุนอย่างรวดเร็ว “ขอบคุณอาจารย์มากค่ะ อาจารย์เป็นหมอเทพจริงๆ!!
“ลูกแม่ แม่จะพาไปกินข้าว!” ผู้หญิงคนนั้นอุ้มเด็กไว้ในอ้อม
แขนและจากไป เซี่ยหยูเวยจ้องมองไปที่หลินหยุน ใบหน้าของเธอเย็นชา “ถือว่านายโชคดีไป แต่ถ้านายยังกล้ามายุ่งกับการรักษาคนไข้
ของฉันอีก อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจก็แล้วกัน!”
หลินหยุนเหลือบมองไปที่เธออย่างเฉยเมย “บางทีฉันอาจช่วย เธอกำจัดอุบัติเหตุทางการแพทย์ที่ร้ายแรงไปแล้วก็ได้นี่?”
เซี่ยหยูเวยหัวเราะเยาะ “หมายความของนายก็คือฉันควรจะ ขอบคุณนายงั้นหรือ?”
“ไม่เป็นไร!” สีหน้าของหลินหยุนไร้ความรู้สึก
ใบหน้าของเซี่ยหยูเวยเปลี่ยนเป็นดูยาก เธอก็ไม่มีอารมณ์ที่จะ
นั่งต่อไปอีก และปิดประตูลงทันที
“กลับบ้าน!”
ตามความทรงจำในชาติก่อนของหลินหยุน ตระกูลเซียอาศัย อยู่ที่ชุมชนส่วน เป็นบ้านที่มีสี่ห้องนอนและหนึ่งห้องนั่งเล่น
เซี่ยเจี้ยน โก่อาศัยการสืบทอดวิชามาจากตระกูล เปิดคลินิก ตระกูลเซียขึ้น ถึงจะไม่ได้ร่ำรวยสูงส่ง แต่ก็ถือว่ามีกินมีใช้ไม่ ติดขัด
“พ่อ แม่ ฉันกลับมาแล้ว!
เซี่ยหยูเวยแขวนกระเป๋าของเธอไว้ที่ไม้แขวนเสื้อตรงประตู จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นสวมรองเท้าแตะสีเบจแล้วเดินเข้าไป ราวกับว่าหลินหยุนไม่ได้มีตัวตนอยู่ด้านหลัง
“เสี่ยวเวยกลับมาแล้ว รีบมาพักผ่อนกันเร็วเข้า!” เซี่ยเจี้ยนโก๋ ที่นั่งอยู่บนโซฟากำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ กล่าวด้วยรอยยิ้ม
เซี่ยหยู่เวยเดินเข้าไปนั่งบนโซฟาและหยิบส้มมาปอกเปลือก สำหรับหลินหยุน เซี่ยเจี้ยน โก๋ทำราวกับมองไม่เห็น
จิตใจของหลินหยุนสงบนิ่ง 800 ปีเพื่อบำเพ็ญเซียนอมตะของ
เขา ยังโหดร้ายยิ่งกว่านี้มากนัก
ชาติก่อนเขาเคยกังวลเกี่ยวกับทัศนคติของเซี่ยเจี้ยน โก๋ แต่ ชาตินี้สําหรับเขาแล้ว ช่างไม่สำคัญเลยสักนิด
“เสี่ยวหยุนกลับมาแล้ว ลำบากแล้ว รีบมานั่งลง!” โจวเป็น
ออกมาจากห้องครัวและเอ่ยทักทายอย่างอบอุ่น
“ไม่ลำบาก!” หลินหยุนยิ้มน้อยๆ ชาติก่อนโจวเป็นปฏิบัติต่อ เขาอย่างจริงใจ ราบกับมารดาที่เปี่ยมด้วยความรัก
เพื่อเขา ถึงกับไม่แคร์ที่จะต้องเลิกรากับเซี่ยเจียน โก๋ ในใจของ หลินหยุน โจวเป็นยังอยู่สูงกว่าบิดามารดาที่แท้จริงของตนเสีย อีก เป็นหนึ่งในคนที่เขาเคารพนับถือมากที่สุด
หลินหยุนเดินเข้าไป และนั่งลงข้างโจวเฟิน เขามองบุคคลที่ ชาติก่อนเคารพนับถือมากที่สุดอย่างระมัดระวัง
ในชาติก่อนเขาทำให้หัวใจของโจวเป็นแตกสลาย ในช่วง เวลาก่อนที่จะฆ่าตัวตาย ก็ยังคงต้องให้โจวเฟินมาเป็นห่วงเขา
แม้ว่าต่อมาเขาจะบำเพ็ญจนถึงขั้นจิตปฐม และกลับมายังโลก แต่ตอนนั้นก็เป็นเวลาผ่านไปกว่าสองร้อยปีแล้ว คนบนโลกได้ เปลี่ยนแปลงไป ทุกคนล้วนกลายเป็นเพียงธุลีดิน
ไม่คาดคิดว่าหลังจาก 800 ปีผ่านไป หลินหยุนจะมีโอกาสได้ พบญาติผู้นี้อีกครั้ง ต่อให้หัวใจของหลินหยุนจะแข็งแกร่งราวกับ หินแค่ไหน แต่เขาก็ยังอดตื้นตันไม่ได้
โจวเป็นปอกส้มให้หลินหยุนแล้วใส่ลงในมือเขา “กินส้มสัก หน่อย”
“ขอบคุณครับน้าเฟิน!” หลินหยุนยิ้มจาง ๆ
“เด็กคนนี้นี่ เรียกแม่ ทำไมยังเรียกน้าเป็นอยู่อีก!” โจวเป็น หัวเราะ ใบหน้าเต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดู
หลินหยุนลูบหัวตนเอง ก่อนจะเอ่ยอย่างลำบากใจ “เรียกมา สิบปี ชินไปแล้ว เพียงชั่วครู่แก้ไขไม่ได้!
อันที่จริง หลินหยุนและเซี่ยหยูเวยได้แต่งงานกันเมื่อครึ่งปีก่อน และตอนนี้เขาถือเป็นลูกเขยของตระกูลเซีย
“เอาเถอะ ดึกแล้ว ไปพักผ่อนกันเถอะ! วันหยุดฤดูร้อนทั้งที พรุ่งนี้พวกเธอสองคนยังต้องไปที่คลินิกอยู่! เสี่ยเจี้ยนโกวาง หนังสือพิมพ์ลง ก่อนจะเอ่ยเสียงเข้มงวด
โจวเฟินพูดด้วยรอยยิ้ม “พวกเธอแต่งงานกันมาได้ครึ่งปีแล้วรีบกันสักหน่อย เมื่อไหร่จะมีเด็กน้อยตัวอ้วนให้ฉัน?”
เซี่ยหยูเวยหน้าแดงและเอ่ย “ฉันกลับห้องแล้ว
หลินหยุนมีรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าของเขา เพียงแต่รอยยิ้ม นั้นค่อนข้างเย็นชาอยู่บ้าง
“ผมก็กลับห้องก่อนนะครับ
หลังจากเข้าไปในห้องนอน เซี่ยหยู่เลยก็เปลี่ยนเป็นชุดนอน สายเดี่ยวสีชมพู
ต้องยอมรับว่า เซี่ยหยูเวยสวยมากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ ของรูปร่างหรือหน้าตา ก็สามารถเรียกได้ว่าเป็นเทพธิดา อีกทั้ง เธอยังเป็นดาวประจำมหาวิทยาลัยการแพทย์หลินโจวอีกด้วย
ชาติก่อนหลินหยุนเมื่ออยู่ต่อหน้าเซี่ยหยูเวย ล้วนรู้สึกมี
ปมด้อยจนไม่กล้าจะเงยหน้ามาตลอด แต่งงานมากี่ปี แต่ใน ความเป็นจริงเซี่ยหยูเวยกลับไม่เคยยอมให้หลินหยุนได้แตะต้อง เธอสักครั้ง พื้นข้างๆเตียงใหญ่คือเตียงที่หลินหยุนนอนหลับมาเป็นเวลา
หลายปีแล้ว
แต่ในชาตินี้ถ้า ถ้าหลินหยุนต้องการ เซี่ยหยูเวยก็ไม่มีทาง
ต้านทาน
แต่น่าเสียดายที่หลินหยุนไม่มีความสนใจในตัวเธออีกต่อไป แล้ว
เมื่อมองไปที่เซี่ยหยูเวย ตัวตนของผู้หญิงอีกคนก็ปรากฏใน สายตาของหลินหยุน
เป็นหญิงสาวที่สวมเสื้อคลุมเต่าสีขาวแต่กลับดูดียิ่งกว่าผล งานชิ้นเอกของดีไซเนอร์ปารีสแฟชั่นวีคคนไหนๆทั้งนั้น
อีกทั้งยังเป็นคนรักของเขา นางฟ้าเย่เย
“ในช่วงเวลาที่จิตใกล้จะดับสลาย เขาเห็นเย่เยวพุ่งเข้ามาหา เขา และดับสลายไป
“ในเมื่อเขาสามารถมาเกินใหม่ได้อย่างนั้นเย่เยวจะสามารถ
เกิดใหม่ได้ด้วยหรือไม่?”
“ช่างเถอะ ต่อให้เยเยวมาเกินใหม่ อาศัยกำลังของเขาตอนนี้ ก็ไร้หนทางจะหาเธอเจอ!”
“บนโลกไม่ได้เรียบง่ายขนาดนั้น ในนี้เองก็มีผู้มีพรสวรรค์น่า ซึ่งอยู่มากมาย เขาจะต้องรีบฟื้นฟูความแข็งแกร่งให้เร็วที่สุด ถึง ค่อยสามารถปกป้องตัวเองได้ ไม่อย่างนั้นเพียงแค่กระสุนนัด เดียวก็ปลิดชีวิตตนได้แล้ว!!
“อีกสามปี พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเขาจะตามหาเขา ศัตรูของพวก เขา เป็นถึงยักษ์ใหญ่ของโลก!
เวลากระชั้นชิดอย่างยิ่ง หลินหยุนรีบลัดความคิดวุ่นวายออก
ไป และเริ่มฝึกตน
แดนทั้งแปดของการบำเพ็ญเซียน: ฝึกพลัง ยาทอง จิตปฐม ดั่งเทพ สู่ธรรมะ มหายาน กษัตริย์เซียน และจอมเทพ
เมื่อเข้าสู่แดนฝึกพลัง กำปั้นจะแข็งแกร่งราวกับหมื่นชั่ง พลัง ชีวิตยืนยาวไปอีกหนึ่งร้อยปี
ถ้าไปถึงแดนจิตปฐม ก็จะสามารถข้ามผ่านท้องฟ้าได้
เพียงแต่เราควรเลือกพลังวิชาแบบไหน?
ชาติก่อนเขาถูกอาจารย์พากลับไปที่สำนักต้าเต๋า เพื่อฝึกฝนวิ ชาต้าเต๋ หลินหยุนมีพรสวรรค์อันน่าทึ่ง และมีโชคชะตา มากมายนับไม่ถ้วน ส่งผลให้เพียงแค่หกร้อยปีเขาก็กลายเป็น กษัตริย์เซียน
แต่ในอีกหนึ่งร้อยปีถัดมา หลินหยุนก็ไม่สามารถก้าวหน้าต่อ ไปได้อีก ต่อมา หลินหยุนได้รวบรวมจุดแกร่งของร้อยสำนัก และเขียน
“วิชากลืนสวรรค์”ขึ้น เมื่อเขียนเสร็จ ดวงอาทิตย์ก็ส่องสว่าง เกิด
เป็นนิมิตขึ้น
หลังจากนั้น การบำเพ็ญเพียรของหลินหยุนก็ก้าวกระโดดขึ้น อีกครั้ง และข้ามผ่านด่านเคราะห์ของผู้บำเพ็ญเซียนไปได้
แต่น่าเสียดายที่ความก้าวหน้าในการบำเพ็ญเพียรของหลิน หยุ่นนั้นเร็วเกินไป ชาติก่อนมีเรื่องน่าเสียดายอยู่มากมาย จน สุดท้ายไม่อาจข้ามผ่านภัยอัสนีไปได้
“ในชาตินี้ เขาจะต้องฝึกฝนไปทีละขั้น ๆ ให้ทุกแดนล้วน สมบูรณ์แบบ และข้ามผ่านภัยอัสนี้ไปให้ได้
“แม้ว่า “วิชากลืนสวรรค์” จะทรงพลัง แต่ทิพย์ของโลกนั้นอ่อนแอ ฝึกตนขึ้นมาความก้าวหน้าจะต้องช้อย่างแน่นอน
“แต่เพื่อที่จะสามารถก้าวเดินบนเส้นทางการบำเพ็ญเซียนได้ ไกลยิ่งขึ้น นี่คือทางเลือกที่ดีที่สุด!
หลังจากตัดสินใจได้แล้ว หลินหยุนก็เริ่มฝึก “วิชากลืนสวรรค์” ทันที เขาสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของทิพย์บนโลก
ในชาติก่อนเขาใช้เวลาถึงสามวันเพื่อสัมผัสถึงทิพย์ แต่ว่า ครั้งนี้ เขากลับใช้เวลาเพียงสามวินาที
วิชากลืนสวรรค์สามารถกลืนกินทิพย์ทั้งหมด ยิ่งทิพย์ แข็งแกร่งมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งได้ผลดีขึ้นเท่านั้น เป็นวิชาที่ แข็งกร้าวอย่างยิ่ง
ผ่านการฝึกฝนทั้งคืน แม้ว่าทิพย์บนโลกจะไม่ดีนัก แต่การ เก็บเกี่ยวของหลินหยุนก็ยังคงมีให้เห็น
“อีกสามวัน เขาจะสามารถเข้าสู่ระยะปฐมภูมิตอนแรก!!
“นายออกไปซะ ฉันจะเปลี่ยนเสื้อ!” เซี่ยหยูเวยพิงตัวอยู่ที่หัว เตียงอย่างเกียจคร้าน และมองไปที่หลินหยุนด้วยความรังเกียจ ขณะเอ่ย
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ