จักรพรรดิเซียนตกสวรรค์

บทที่ 15 สายตาดี



บทที่ 15 สายตาดี

หลินหยุนมองเพียงแวบเดียวก็รู้ความคิดในใจของเถ้าแก่ แต่ว่า เรื่องเงินสำหรับหลินหยุนแล้วก็เป็นแค่ตัวเลข ยิ่งไปกว่านั้นในชื่อ ทรงไม่ใช่ว่าพึ่งจะให้เงินเขามาห้าล้านเหรอ?

“ห่อให้ผมเถอะครับ” หลินหยุนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

“ได้ครับ!” ในพริบตาเดียวเถ้าแก่ก็ยิ้มหน้าบาน ดวงตาที่แต่ เดิมก็เล็กอยู่แล้ว ตอนนี้หาแทบไม่เจอ

หลินหยุนจ่ายเงิน แล้วรับพระพุทธรูปมาจากมือเถ้าแก่ เขาตั้ง ท่าจะเดินจากไป

ในตอนนั้นเอง ชายชราที่สวมชุดกังฟูสีเทาในร้านก็พูดกับเขา

ด้วยน้ำเสียงสงสัยว่า “เจ้าน้องชาย พระพุทธรูปองค์นั้นเห็นได้ชัด

ว่าเป็นของปลอม มูลค่าไม่เกินห้าร้อย ทำไมเจ้าถึงต้องยอมจ่าย

แพงกว่าถึงสิบเท่าเพื่อซื้อองค์นี้ด้วย?” หลินหยุนมองชายชราคนนั้น เขารู้สึกว่าดวงตาของชายชรา เฉียบแหลมมากและถามเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็นเฉยๆ

แต่ว่าหลินหยุนก็ไม่ได้บอกความจริงแก่เขา ยังไงซะพวกเขาก็ ไม่สนิทกัน

“ผมมองแล้วสบายตา เพราะงั้นก็ซื้อเลยครับ” ชายชราหัวเราะพร้อมกับส่ายหัว เขาเอ่ยขึ้นว่า “เจ้าต้องไม่ได้ซื้อไปเรื่อยเปื่อยแน่ ข้าสังเกตเห็นตั้งแต่เจ้าเข้ามาในร้าน หลัง จากที่เข้ามาแล้วเจ้าไม่ดูอะไรเลย แต่เดินตรงไปที่หน้าพระพุทธ รูป แล้วก็มองจ้องอยู่ที่พระพุทธรูปนั่นเป็นเวลานาน

“อีกอย่างหนึ่งปกติคนซื้อของก็ต้องต่อรองราคา แต่เจ้ากลับ เช่าพระองค์นี้ทันที นี่น่ะไม่สอดคล้องกับสามัญสำนึกปกติเลย แม้แต่น้อย”

“ข้าคิดว่าพระพุทธรูปองค์นี้จะต้องไม่ธรรมดาแน่!”

หลินหยุนรู้สึกนับถือชายชราผู้นี้นิดหน่อย ช่างสังเกตลึกซึ้ง แต่ หลินกลับไม่อยากพูดอะไร เขาจึงแค่ยิ้มอ่อนๆพร้อมพูดว่า “ลา ก่อนครับ”

“เจ้าน้องชายอย่าพึ่งไป!” ชายชรารีบร้องห้าม

หลินหยุนหยุดและมองไปที่ชายชรา สีหน้าของเขาเย็นชาเล็ก น้อย เขาเกลียดการถูกคนดื้อดึงตึงขั้นมาก

ชายชราจู่ๆก็คำนับลง แล้วพูดขึ้นว่า “เจ้าน้องชายอย่าพึ่ง โกรธไป ข้าชื่อเฉียนหัวชิง เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของ ศูนย์กลางสมบัติเมือง ข้ารู้สึกว่าพระพุทธรูปองค์นี้ไม่ธรรมดา แต่ กลับดูไม่ออกเลยว่ามันพิเศษยังไง ขอให้เจ้าอย่าลังเลที่จะชี้แนะ

เถ้าแก่อ้วนได้ยินการแนะนำตัวของชายชรา แล้วถึงกับอุทาน ออกมาทันที “ท่านคืออาจารย์เฉียนหัวซิง! ไอหยา เสียมารยาท เสียมารยาทจริงๆ”

“ข้าน่ะดูรายการเก่าของท่านบ่อยมากเลยนะ นับถือในความรู้ความสามารถของท่านเป็นที่สุด ได้ฟังท่านอธิบายทุกครั้ง ข้าว่า ได้รับประโยชน์มากเลยล่ะ!!

เฉียนหัวชิงหัวเราะเหอๆ แล้วมีท่าทางภูมิใจเล็กน้อย “เถ้าแก่

พูดชมเกินไปแล้ว” พูดจบ เฉียนหัวชิงก็มองหลินหยุน แล้วโค้งคำนับอีกครั้ง ขอ ให้เจ้าชี้แนะด้วย!”

จากแววตาของเฉียนหัวชิงแล้ว หลินหยุนมองเห็นความ พากเพียรและกระหายความรู้ของเขา หลินหยุนเพียงแค่อาศัย การดึงดูดจากความผันผวนของพลังวิญญาณเท่านั้น ถึงค้นพบ ว่าพลังวิญญาณของพระพุทธรูปองค์นี้นั้นแตกต่าง

ถ้าหากเป็นเรื่องความรู้ล่ะก็ หลินหยุนเฉียนหัวซึ่งไม่ได้

“ในเมื่อคุณอยากรู้ งั้นผมก็จะบอกครับ” พูดจบ หลินหยุน เปิดกล่องออก เขาหยิบพระพุทธรูปองค์นั้นขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ อีกครั้ง

หลินหยุนหยิบมีดเล่มเล็กบนโต๊ะขึ้น แล้วขูดเบาๆไปบนองค์

พระพุทธรูป

สีแบบกระจก ใส่ขององค์พระพุทธรูปกลายเป็นสีของหยกขาว ในพริบตา

หลินหยุนขูดเร็วขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานนักพระพุทธรูปองค์นั้นก็ กลายเป็นพระพุทธรูปหยกขาวดูแปลกตา

“นี่…นี่มันคือหยกขาวพม่าที่ดีที่สุด!” เฉียนหัวชิงพูดออกมาอย่างตื่นเต้น

หน้าของเถ้าแก่อ้วนกลายเป็นสีเขียวไปหมด

หยกขาวพม่าก้อนใหญ่ขนาดนี้ มูลค่าหลายแสนหยวน แถม ถูกสลักออกมาเป็นพระพุทธรูป มูลค่ายิ่งสูงไปอีกเป็นเท่าตัว มูลค่าของพระพุทธรูปองค์นี้ อย่างน้อยก็ต้องหลายล้าน

ในตอนแรกเขาคิดว่าตัวเองเจอหลินหยุนที่เป็นพวกเสียเงินไป โดยเปล่าประโยชน์ แต่คิดไม่ถึงว่าเขาต่างหากถึงจะเป็นพวก เสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์

จู่ๆเถ้าแก่ก็ก้าวมาข้างหน้า ใช้มือสองข้างป้องพระพุทธรูปไว้ และจ้องมองหลินหยุนอย่างระแวดระวัง

“ไม่ปล่อยเช่าแล้ว ข้าจะจ่ายเงินคืนให้สองเท่าเลย แต่ถ้าไม่ ปล่อยเช่าแล้ว!”

เฉียงหัวชิงพูดอย่างโมโหว่า “มีอย่างที่ไหนกัน! การซื้อ-ขาย ของเก่าต้องอาศัยความสามารถของตนเอง ก็เหมือนกับการเล่น หมากรุก แพ้แล้วต้องไม่เสียใจ เสียดายที่เปิดร้านขายของเก่ามา ตั้งหลายปี ช่างทำให้คนในวงการของเก่าอับอายขายขี้หน้า จริงๆ!”

เถ้าแก่ในเวลานั้นไม่สนใจอีกแล้วอาจารย์เฉียนอะไรนั่น เขา ร้องตะโกนเสียงดังราวคนบ้าว่า “อับอายก็อับอายไปเถอะ ต่อให้ ข้าเปิดร้านขายของเก่าทั้งชีวิต ก็เอาพระพุทธรูปองค์นี้คืนมาไม่ ได้หรอก พวกคุณจะพูดยังไงก็ช่าง แต่พระพุทธรูปองค์นี้ข้าไม่ ขาย!”
เฉียนหัวซึ่งมองไปยังหลินหยุน สีหน้าเป็นเชิงขอโทษ “เจ้าน้อง ชาย เรื่องนี้เป็นเพราะข้าเอง เจ้าแจ้งตำรวจเลยตอนนี้ ข้าจะเป็น พยานให้เจ้าเอง เจ้าวางใจได้ การสูญเสียทั้งหมดข้าจะชดใช้ให้ เอง!”

หลินหยุนส่ายหน้า “ไม่ต้องลำบากขนาดนั้นหรอกครับ

หลินหยุนมองเถ้าแก่อย่างเย็นชา ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียง เรียบๆว่า “หลบไป

ทันใดนั้นเถ้าแก่อ้วนก็สั่นสะท้านไปทั้งร่าง หลินหยุนเป็นแค่ เด็กหนุ่มคนหนึ่งแท้ๆ แต่กลับทำให้เขารู้สึกไม่กล้าที่จะมองตรงๆ

แต่เพราะความหมกมุ่นกับเงินนั่น เถ้าแก่อ้วนพูดอย่าไม่เกรง กลัวว่า “ไม่หลบ! ตายฆ่าก็ไม่หลบ นี่มันของในร้านข้า เจ้าอย่า คิดจะมาเอาไปนะ!”

หลินหยุนขี้เกียจพูดจาไร้สาระกับเถ้าแก่ เขาใช้มือข้างหนึ่งจับ

คอเสื้อของเถ้าแก่อ้วน แล้วเหวี่ยงเขาลงกับพื้น

เถ้าแก่อ้วนตกใจมาก เขาไม่คิดว่าหลินหยุนที่ดูผอมแห้งแรง น้อย จะมีพละกำลังมากถึงขนาดนี้

ให้เขาแจ้งตำรวจน่ะเขาไม่กล้าหรอก ตอนนี้แม้แต่หลอกลวง ซึ่งๆหน้ายังทำไม่ได้เลย

เถ้าแก่อ้วนทำได้แค่ร้องไห้เสียงดังพร้อมกับชี้หน้าหลินหยุนว่า แย่งของเขา หวังว่าจะเรียกร้องความสนใจจากคนหมู่มาก แต่ว่า เมื่อกี้มีคนที่กำลังสัญจรมารวมตัวกัน เฉียนหัวขิงก็ออกหน้าเป็นพยานแทนหลินหยุน จากนี้น่ะ สิ่งที่เถ้าแก่อ้วนจะได้รับ ไม่ใช่ความเห็นใจ แต่เป็นการถูกทอดทิ้ง

ถ้ายังทำแบบนี้ต่อไปล่ะก็ ร้านนี้ของเขาก็ไม่ต้องเปิดแล้ว “ก็ได้ ข้ายอมแล้ว พวกเจ้าไปเถอะ!” เถ้าแก่อ้วนพูดอย่างหมด หนทาง

หลินหยุนกับเฉียนหัวซิงเดินจากออกมา ตอนที่กำลังเดินอยู่ บนถนน เฉียนหัวชิงพูดขึ้นว่า “เจ้าน้องชาย เรื่องเมื่อกี้นี้เป็น ความผิดของข้าเอง ข้าไม่คิดว่าเถ้าแก่ร้านขายของเก่านั้นจะเป็น คนไร้ยางอายแบบนี้

“ไม่เป็นไรครับ ยังไงก็ไม่ได้สูญเสียอะไรไปไม่ใช่เหรอครับ?” หลินหยุนถาม

“เจ้าน้องชาย ข้าดูว่าเจ้าสายตาดีทีเดียว คงจะเคยศึกษาเกี่ยว กับการซ่อ-ขายของเก่าสินะ ตอนนี้ในมือข้าน่ะมีของอยู่อย่าง หนึ่ง ที่ทำให้ข้ารู้สึกลังเลตัดสินใจไม่ได้ ข้าอยากให้เจ้าช่วยข้า ไปดูสักหน่อยนะ ไม่รู้เจ้าช่วยข้าสักหน่อยได้หรือเปล่า?” เฉียน หัวชิง ใช้สายตาวิงวอน

ที่หลินหยุนเช่าพระพุทธรูปองค์นี้ จริงๆไม่ได้สนใจเรื่องเงินเลย แต่เป็นเพราะชีทิพย์ของพระพุทธรูปองค์นี้

วิชากลืนสวรรค์ที่หลินหยุนได้ฝึกบำเพ็ญมา สามารถกลืนกิน ทิพย์บนพระพุทธรูปองค์นี้ได้ นี่ต่างหากเหตุผลที่เขาเช่าองค์นี้มา

เฉียนหัวชิงบอกว่าที่บ้านของเขามีของสิ่งหนึ่งที่ทำให้ข้ารู้สึกลังเลตัดสินใจไม่ได้ หลินหยุนก็เลยเกิดสนใจขึ้นในพริบตา ถ้า หากเป็นของที่แผงไว้ด้วยทิพย์แบบนี้อีกล่ะก็ แบบนั้นเขาก็จะขอ ต่อรองซื้อมันจากเฉียนหัวชิง

“ยังไงผมก็ไม่ได้มีธุระ ผมจะไปดูกับคุณก็ได้ครับ!” หลินหยุน

เอ่ย

“งั้นก็ยอดเยี่ยมไปเลย!” เฉียนหัวชิงดีใจมาก

ทั้งสองคนนั่งรถแท็กซี่มาถึงบ้านของเฉียนหัวชิง

บ้านของเขาเป็นบ้านสามห้องนอนหนึ่งห้องโถง หลังจากเปิด ประตูไป ก็มีเด็กสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่งสวมกระโปรงสั้นสีแดง และมัดผมหางม้าสองข้างนอนดูทีวีอยู่บนโซฟา

“คุณปู่ ทำไมวันนี้คุณกลับมาเร็วจังเลยคะ? ไม่ได้ไปออก กำลังกายเหรอ?” เด็กสาวไม่ได้หันมาดูก็ถามขึ้น

“เป้ยเป้ย รีบลุกขึ้นซะบ้านเรามีแขกมา!” เฉียนหัวชิงกำชับ แล้วยิ้มพร้อมพูดกับหลินหยุนว่า “น้องหลิน เชิญเข้ามาก่อน!

ระหว่างทางมา เฉียนหัวชิงถามชื่อสกุลของหลินหยุน หลินหยุ

นบอกเขาว่าตัวเองชื่อหลินชางฉอง

“อ้าว! คุณปู่ ทำไมคุณถึงได้พาคนแปลกหน้าเข้าบ้านว แบบนี้คะ!” เฉียนเป้ยเป้ยมองหลินหยุน ด้วยความตกใจกลัว เธอรีบจัดเรียงเสื้อผ้าของตัวเอง

“น้องหลินไม่ใช่คนแปลกหน้านะ เป็นเพื่อนใหม่ที่ผูกมิตร ด้วย อีกอย่างเขาก็ศึกษาเรื่องของเก่า”
เฉียนเป้ยเป้ยจัดกระโปรงที่ไม่ได้ยุ่งเหยิงแต่แรกของเธอ แล้ว เอียงศีรษะมองหลินหยุนอย่างดูถูก จากนั้นก็หัวเราะเยาะ “ดูๆไป เขาแก่กว่าหนูแค่ปีสองปีเองนะคะ จะไปศึกษาอะไรได้?”

“เจ้าอย่าดูถูกน้องหลินนะ ได้เห็นความเก่งกาจของเขาด้วย ตาของเอง ที่เชิญเขามาวันนี้ ก็เพื่อต้องการให้เขาช่วยดู ล่ะ” เฉียนหัวชิงพูดยกย่องหลินหยุน

เฉียนเป้ยเป้ยยิ่งไม่เชื่อหนักกว่าเก่า “ซิ! แล้วหนูจะรอดูว่าเขา จะเก่งกาจแค่ไหนกัน!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ