จอมใจท่านอ๋องโหด

รําพึง คนึงหา



รําพึง คนึงหา

หลังจากกลับมายังวังหลวงหยางจีนเฟยหลง หรือ หยางจิ้น องแคว้นหนาน ก็ส่งคนออกตามข่าวหา “ท่านหมอปีศาจ” แต่ก็ คลาดกันตลอด ล่าสุดได้ข่าวว่านางอยู่ที่แคว้นหมิง และในขณะ เดียวกันก็ได้เก็บผ้าผูกผมของหญิงสาวที่พบเจอในหุบเขาปีศาจ ไว้ในอกเสื้อตลอดเวลา เมื่อมีเวลาว่างก็จะเอาออกมาดู เพื่อ รำลึกถึงวันที่พบเจอนาง “ทำไมข้าถึงคิดถึงนางเยี่ยงนี้นะบ้า จริง” แต่ก็ยังเอาผ้าผูกผมมานั่งดูแล้วทำหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ ยิ้ม “เจ้า คือใคร” สุดท้ายก็เก็บผ้าผูกผมผืนนั้นไว้ในอกเช่นเดิม

เมื่อไปเพิ่งมาถึงก็รายงานว่า “คนที่อาศัยอยู่ด้านในหุบเขา ปีศาจได้มีแค่ 2 คน คนแรก เฒ่าปีศาจ คนที่สอง หมอปีศาจ เท่านั้นท่านอ๋อง”

หยางจิ้นอ๋อง “…..” “ข้าว่าวันนั้นขาเจอนางแล้ว แต่ถ้าไม่นึก ว่าเป็นนาง หมอปีศาจ” ไปเพิ่งได้ยินเช่นนั้น หันมองหน้านาย ตนเอง คิดในใจว่า “แล้วที่ท่านเพ้อทุกวันๆ คงไม่ใช่เพราะท่าน หมอปีศาจหรอกนะ เกิดอะไรขึ้นในหุบเขาวันนั้นกันแน่นะ เหมือนจะเดาสายตาไปเพิ่งออก “เจ้าอยากไปประจำทางเหนือ ชายแดน เลือกมา” เสียงเย็นๆจากหยางจิ้นอ๋อง ไปเพิ่งได้ยิน เช่นนั้นก็รีบเก็บสายตาและรีบนำพาตนเองออกจากห้องนั้นไป

พอตกเย็นอาการของฮ่องเต้แคว้นเหลียน ก็กำเริบในทุกๆ 7วัน ท่านหมอเทวดาบอกว่า มันจะลดลงไปจนเป็นเงินทุกวัน

“ข้าจะเดินทางไปแคว้นฉิน เพื่อไปรักษาคนคนนิ่ง เรื่องของ เจ้าข้าจะพยายามหาหนทางรักษาเจ้าละกัน” ว่าแล้วท่านหมอ เดี๋ยวก็เดินทางไปแคว้นฉัน

“ท่าน ท่านเป็นอย่างไรบ้าง ขากำลังตามหาตัวหมอปีศาจ อยู่” “น้องข้า ตามที่นางไม่ยอมรักษาฮ่องเต้แคว้นหนานมิใช่ ไม่ใช่ว่าไม่ยอมรักษาเชื้อพระวงศ์หรอก แค่กๆๆ ขายังมีหวัง กรี จิ้นเฟยน้องข้า ข้ารู้ว่าข้าคงอยู่ได้อีกไม่นาน ข้าหวง ก็แต่ ประชาชน เจ้าคิดว่าใครควรได้หน้าที่นี้” ฮ่องเต้แคว้นเหลียน หอบหายใจเหนื่อย มีอาการอ่อนล้า

เรื่องที่ฮ่องเต้และท่านอ๋องพูดคุยกันนั้น ฮ่องเฮาทรงได้ยินทุก คำพูด ได้แต่ยืนนิ่งฟังจากนั้นก็ทำการเคาะประตูขออนุญาตนำ น้ำแกงบำรุงเข้ามาให้ฮ่องเต้

“ฮ่องเฮา” “เรียกธรรมดา ก็ได้คนกันเองทำไมต้องพูดห่างเหิน กันนัก ท่าน อาการดีขึ้นไหมเพคะ น้องต้มน้ำแกงมาให้เพคะ”

“อืม เจ้าก็แต่งงานได้แล้ว เจ้าหก ท่านแม่ห่วงเจ้านัก ดูข้างมีพี่ สะใภ้เจ้าดูแลอย่างดีมีขาดตกบกพร่อง”

หยางจิ้นอ๋อง ” “ผู้หญิงรำคาญ”

“น้องหญิงดูเอาเถิด น้องหายังทำตัวเป็นเด็กไปได้ ปีนี้เจ้าอายุ ปาเข้าไปจะ 22 อยู่แล้วนะ” ฮ่องเฮาทรงปิดปากแย้มพระสรวจ ส่ายหน้าให้สองพี่น้องที่คนนิ่งบ่นอีกคนทำหน้าเหมือนกินยาขม
“เจ้าไปเยี่ยมท่านแม่บ้างนะ” สุดท้ายก็ไม่วายบอกน้องชายไป หา องค์ไทเฮา

“ไปก็พูดเรื่องเดียวกันกับท่าน” สิ้นเสียงหยางจิ้นอ๋องไม่นานก็ มีเสียงที่หน้าประตูห้องบรรทมฮ่องเต้ดังขึ้น

“ก็ถ้าเจ้าแต่งงานซะที ข้ายังจะพูดเรื่องนี้อยู่” ไทเฮามาถึง ได้ยินบุตรชายตนพูดเช่นนั้นก็อดไม่ได้ที่จะไม่พูดอะไรเลย

ทุกคนตั้งท่าตะทำความเคารพ แต่ไทเฮาก็ห้ามไว้ “ไม่ต้อง มากพิธีหรอก” ว่าแล้วก็ใช้มือทุบบุตรชายตนแบบไม่จริงจัง “แม่ ไม่รอแล้ว แม่จะหาคนที่เหมาะสมสักคน แล้วให้พี่เจ้า พระราชทานงานสมรสเลยแล้วกัน”

“ไม่ต้องทำแบบนั้นหรอก ข้า…….. คนที่ต้องใจแล้ว ” เมื่อพูด ออกไปก็ทำเอาคนทั้งห้องตกใจ คนที่ได้สติคนแรกคือ ไทเฮา

“นางเป็นใคร มาจากตระกูลไหน ดีจริงๆๆ

“จริงรี มีหลักฐานหรือไม่ ฮ่องเต็มองน้องชายอย่างสงสัย ใน ใจคิดว่าคงพูดแบบขอไปที่ใกไทเฮาดีใจเท่านั้น

“เอ้อ นั้น ไม่ใช่มาหลอกแม่นะ ไทเฮาจึงนึกขึ้นมาได้

หยางนอ๋องยกมือขึ้นล้วงเข้าไปในอกเสื้อ หยิบผ้าผูกผมออก มา ที่ปลายผ้าปักคำไว้หนึ่งคำ “อึ้ง ” ส่งให้ไทเฮา

ไทเฮาเห็นบุตรชายล้วงเอาบางสิ่งออกมาจากอกเสื้ออย่าง หวงแหนก็ดีใจ จนน้ำตาซึมที่หางตา ดีใจที่บุตรชายคนที่มีนิสัย เย็นชา มีบางในดวงใจซะที
“ข้ายังไม่รู้ว่านางเป็นใครมาจากตระกูลไหน ตอนนี้ยังไม่รู้ ด้วยว่านางอยู่ที่ใด” พอพูดออกมาเช่นนี้แต่คนในห้องหาสนใจ สิ่งใดไม่ จับผ้าผูกผมพลิกไปพลิกมาก็เห็นที่ปลายผ้ามีชื่อ “อึ้ง”

“แค่ได้รู้ว่าเจ้ามีนางในดวงใจก็ดีแล้ว นางคงมีชื่อว่า อิงแน่ๆ อยากเจอตัวจริงของนาง คนที่ทำให้ใจเจ้ามนุษย์น้ำแข็งของข้า ละลายได้เป็นเช่นไร

ทันทีที่ผ้าถึงมือผู้เป็นพี่ชาย หยางจีนฮ่องก็คว้าหมับกลับมายัด เข้าไว้ในอกเสื้อ ทำเอาทุกคนตกตะลึก และพากันหัวเราะเสียงดัง ในใจทุกคนคิดเหมือนกันว่า “นี่ขนาดยังไม่เจอตัว ใครบางคนก็ แอบกินน้ำส้มเข้าไปทั้งไปแล้ว”

เหมือนจะรู้ความคิดทุกคน “ข้าขอตัวลาท่านแม่” กล่าวจบก็ เดินออกไป ไปเพิ่งเดินตามออกไป ทุกคนมองตามหลังแล้วหัน มามองหน้ากันยิ้มๆ

“เจ้าได้ความเช่นไรบ้าง” องค์ชายสามแคว้นหนานสอบถาม คนสนิท

“คุณหนูอิงอิง เดินทางไปแคว้นหนึ่งอย่างปลอดภัยและที่ สำคัญยังไม่รู้สึกพึงใจผู้ใด แต่มีคนที่ขอเป็นคนข้างกายคนนึงจะ ยะค่ะ”

“อืม คนข้างกายเป็นใคร” ถามออกไปเพราะเขาไม่อยากให้ ใครเข้าใกล้นาง เพราะนางเป็นของเขา

“เป็นอดีตรองแม่ทัพพยัคฆ์ของแคว้นหมิง พะยะค่ะ” กล่าวจบ แอบขยับตัวถอยห่างไปสามก้าวได้
องค์ชายสามหลินหลง นั่งหน้าตึง บรรยากาศเหมือนฝนจะ ตกในห้องหนังสือ เขาไม่ต้องการให้ชายใดเข้าใกล้นางแม้เพียง ครึ่งก้าวก็ไม่ได้

ฮัตติ้วๆๆ “ใครนินทาขานะ” เหม่ยอิงกล่าว

“มีคนคิดถึงท่านนะสิ ขอรับ” อาเฉียงกล่าวติดหยอกล้อเจ้า นายเล็กน้อย

“ก็คงเข้าไปทำเรื่องไว้เยอะน่า ฮ่าๆๆๆ” จากนั้นก็โยนเรื่อง นี้ทิ้งไป

เหมยอิงไม่รู้เลยว่าได้ทำให้ชายหนุ่มสูงศักดิ์ 2 คน คนึงหาตน บ้างคนยังไม่รู้จักก็ตกหลุมรักเข้าซะแล้ว ส่วนอีกคนทั้งที่โดน ปฏิเสธแต่ก็ไม่ยอมตัดใจ สุดท้ายนางจะเลือกใคร ไม่มีใครให้ คำตอบได้ นอกจากเหมยอิง คนเดียวซึ่งตอนนี้กำลังเพลิดเพลิน กับการรักษาคน และชมวิวทิวทัศน์สวย ในรถม้าโดยมีอาเฉียง เป็นคนขับ ที่ต้องใช้รถม้าเพราะต้องเดินทางสองคน และก็เริ่มมี ของ กขึ้น ก่อนจากเมืองหลวงแคว้นหมิงนางจะให้อาเจียงดูแล กิจการที่แคว้นหมิง แต่อาเฉียงคุกเข่าเป็นตายไม่ยอมจะติดตาม นาง นางจึงมอบหมายให้ เสงี่ยดูแลแทนจนกว่านางจะหาคนได้

นางเดินทางมาเรื่อยก็เข้าเขตชายแดนแคว้นหนึ่งกับแคว้นฉัน ก็ได้ยินว่ามีคนคนนิ่งรักษาคนอยู่แต่บอกว่ารักษาไม่ได้ให้ทำใจ นางจึงให้อาเฉียงเข้าไปสอบถาม ได้ความว่านางบอกเป็นหมอ ปีศาจรักษาได้ทุกโรค แต่ของคนคนนี้มาช้าเกินไปจึงเกินเยียวยา

เหม่ยอิงได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มเยาะภายใต้หน้ากาก “ไปดูกัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ