ความช่วยเหลือ 3
เมื่อมาถึงอำเภอก็เข้าผู้ว่าการ เรื่องซื้อจวนร้างนั้น
“จวนนั้นสวยนะ พื้นที่กว้างขวาง เจ้าของไม่ขายแต่ก็ไม่มาอยู่
มันเป็นขององค์ชายสาม ข้าว่าเจ้าไปหาที่ใหม่เถอะ มีอีกสองที่ที่ คล้ายๆกัน จะดูไหม” “ไม่เป็นไร ขาชอบที่ตรงนั้น เดียวข้าจะหาวิธีเองเจ้าคะ” เหม่
ยอง คิดว่างานเลี้ยง ในวังคงต้องไปเสียแล้ว จึงเดินทางกลับจวน
ป้าหวังเพื่อขออนุญาตให้นำคนเข้าไปพักสัก 3-4 วัน
เมื่อเดินมาถึงจวนหวัง เด็กน้อยก็หยุดนิ่งไม่ยอมเดินตาม เข้าไป เหมยอิงจึงเอ่ยขึ้นว่า “ไม่เป็นไร มากับข้าจะกลัวสิ่งใด เด็กน้อยทําท่าลังเล แต่สุดท้ายก็ตามเข้าไป
เมื่อเข้าไป ก็วานคนรับใช้ให้ไปเชิญป้าหวังออกมาคุยที่โถง
ใหญ่ พอป้าหวังเข้ามา เหม่ยอิงก็วิ่งเข้าไปออดอ้อน เอ่ยขึ้นมาว่า “ท่านป้าาาาา ขอมีเรื่องรบกวนเจ้าคะ” ฮูหยินหวังด้วยที่ไม่มีบุตรสาวและเหมยอิงเป็นคนช่วยชีวิตจึง ยิ้มอย่างใจดีกล่าวว่า “มีเรื่องอันใดเล่า คือ ทำให้หลานสาวข้า
มาออดอ้อนเช่นนี้” พูดพลางยิ้มแก้มปริ
“คือ อิงอิง ได้ช่วยพวกเด็กไว้หลายคน ยังหาที่พักไม่ได้ อยาก ขอให้มาพักที่เรือนด้านหลังสุดห่างไกลสักหน่อยก็ได้ เพราะยังมี คนป่วยหนักด้วย หลานไม่กล้าทิ้งไว้ข้างนอกเจ้าคะ นะท่านป้านะนะเจ้าคะ” นางงัดเอาลูกอ้อนที่เคยใช้ได้ผลออกมา ทําเอา หยินหวังใจอ่อนยวบ เอามือลูบหัวเหม่ยงพลางกล่าวว่า เอา ตามที่เจ้าว่าเถอะกว่าให้เจ้าออกไปข้างนอกเรือนมิใช่ สายตามองดูเด็กน้อยที่ยืนนิ่งไม่ไหวติ่งแวบนึง แอบยิ้มเล็กน้อย เมื่อเหมยอิงได้ยินเช่นนั้นก็รีบสวมกอดป้าหวังของนางทันที
เมื่อได้พูดคุยแล้วฮูหยิน ให้คนพาเหม่ยอิงไปหาเด็กๆ พร้อมรถ ม้า 2 คัน เพื่อจะได้ให้คนป่วยเดินทางสบายหน่อย พอไปถึง เด็กๆมองรถม้าไม่กล้าขึ้นจนนางต้องขู่ว่า “ถ้าไม่ขึ้นจะพาไป เฉพาะพี่สาวใหญ่ของพวกเจ้า” เด็กๆได้ยินรีบวิ่งขึ้นรถมาทันใด
พอถึงจวนทั้งหมดเดินตามพ่อบ้านไปหลังจวน เหม่ยอิงจึงสั่ง ว่า “มีอะไรให้ไปตามข้าที่เรือน เข้าใจไหม ที่เหลือเรื่องอาหารข้า จะให้คนนำมาให้ คนที่ทํางานได้ให้ทำความสะอาดเรือนตนเอง หรือรอบเรือนก็พอไม่ต้องออกไปเผ่นผ่าน ข้าจะแวะมาวันละ 2 ครั้ง
เมื่อพูดคุยเสร็จก็เดินไปหาป้าหวัง “ท่านป่า ข้าต้องพบองค์ ชายสาม ต้องทำอย่างไรเจ้าคะ… ” ยังพูดไม่จบป้าหวังก็ทำท่า ตกใจ “เป็นสาวเป็นนางจะไปพบองค์ชายได้อย่างไรกัน อิงอิง เจ้า…. ” “ไม่ใช่อย่างที่ท่านคิดเสียหน่อย โถ่! ท่านป้าจะฆ่า ข้าเสีย แล้ว ขาแค่มีเรื่องต้องคุยกับองค์ชายเท่านั้นเจ้าคะ” เสียงป้าหวัง ถอนหายใจ เฮือกใหญ่ “อืม เช่นนั้นเดี๋ยวป้าจะเขียนเทียบไปแจ้ง ก่อน ถ้าพระองค์ประสงค์จะพบเจ้า ค่อยว่ากันอีกทีแล้วกัน” “ขอบคุณท่านป้าเจ้าคะ ” ฮูหยินหวังยิ้มอย่างเอ็นดูมองเหมยอิง
ฝั่งทางองค์ชายสาม เมื่อได้รับรายงานว่า เหม่ยอิงต้องการพบก็ยิ้มดีใจ นั่งทำตัวไม่ถูกรอเทียบจากฮูหยินหวังอย่างใจจดใจจ ว่าเมื่อไหร่จะมาถึง
หลีจึงมองผู้เป็นนายแบบไม่เชื่อสายตาว่าจะมีวันที่เป็นแบบนี้ อยู่รับใช้มาหลายปีไม่เคยพบเห็น ที่พบเห็นประจำคือ เย็นชา เยือกเย็น และเย็นยะเยือก แม้นว่าจะมีรูปงามสมชาย แต่ก็ไม่ เคยต้องตาหญิงคนใด แต่แรกพบแม่นางอึงอิง ที่ยังไม่รู้ตัวตนที่
ชัดเจนกลับ เฮ้อ! สักพักก็มี คนบ้านเดินเข้ามาบอกว่า “องค์ชายขอรับ มีคนจาก
จวนหวังมาขอเข้าพบ จะพบ ไม่ขอรับ” “ให้เข้ามา” เมื่อปรับสีหน้าท่าทางแล้วก็สั่งออกไป
เมื่อคนส่งเทียบเข้ามา ทำความเคารพเรียบร้อยก็ส่งเทียบให้ หลีจึงยื่นมือไปรับมาส่งให้องค์หลินหลง เมื่ออ่านเปิดอ่านเทียบ เสร็จ ก็นั่งนิ่ง ซึ่งทำให้คนส่งเทียบตัวสั่นเพราะกลัวว่าจะโดน ลูกหลง จนในที่สุด
“พรุ่งนี้…เราว่างให้นางมาพบข้ายามชื่อ”
เมื่อได้รับคำตอบคนส่งเทียบก็ทำความเคารพแล้วออกไป พอ พอประตูก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ในใจคิดว่า “ช่างน่ากลัวและ หนาวเหน็บจริงๆ คุณหนูอิงอิง จะมาพบเพื่อเหตุใดนะ ว่าแล้วก็ เดินทางกลับจานเพื่อส่งข่าว ให้เหม่ยอิง
รุ่งเช้าเหม่ยอิงออกกำลังกายทุกเช้าเป็นประจำเสร็จแล้วก็ เข้าไปอาบน้ำล้างตัว แล้วเดินไปหลังจวนหาพวกเด็กๆเพื่อดู อาการหญิงสาวด้วย ทั้งยังนั่งกินข้าวกับพวกเด็กๆทำเอาทุกคนกินข้าวไม่ลงด้วยซาบซึ้งใจที่นางฟ้าของพวกเขาไม่ได้รังเกียจตน ว่าต่ำต้อย สกปรก และไร้สกุลไร้บ้าน “อ้าว พวกเจ้าไม่กิน หลัง จากออกไปอยู่ที่พักที่ข้าหาไว้พวกเจ้าจะต้อง โดนใช้แรงงาน อย่างหนักเลยนะ เก็บแรงไว้เถอะ ฮ่าๆๆๆ” นางสนุกที่ได้หยอก ล้อพวกเด็กๆ สักพักมีคนมาตามนางจึงบอกกล่าวอีกเล็กน้อย แล้วจากไป
เมื่อเตรียมตัวเสร็จแล้วก็ขึ้นรถม้า โดยมีแม่นมของป้าหวัง ตามไปด้วยเพื่อไม่ดูไม่ดีในสายตาคน
ภายในห้องหนังสือองค์ชายสามเดินวนไปวนมา แล้วถามขึ้น ว่า “มาแล้วหรือไม่” หลีจิ้งจึงตอบแบบเดิมคือ “คง ใกล้แล้ว ขอรับ” เขาตอบแบบนี้มา 4 รอบแล้ว ในที่สุดพ่อบ้านก็เดินเข้า แจ้งว่า “คุณหนูอิงอิง มารอที่ห้องโถงแล้วขอรับองค์ชาย” “ไป กันเถอะ” ไม่รอช้าหลินหลงรีบเดินพรวดพลาดออกไปทันที ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มพึงพอใจเป็นที่สุด ถึงแม้นไม่รู้ว่านาง มาด้วยเรื่องอันใดก็ตาม
ระหว่างที่เหม่ยอิงกำลังลงจากรถม้าก็มี หญิงนางหนึ่งมองมา แล้วพูดขึ้นว่า “นางเป็นใคร ทําไมเข้าไปในจวนองค์ชายได้ ให้ คนไปสืบมา กล้าอย่าไร บังอาจนัก ฮ!”
แล้วจึงหันหลังเดินจากไป เพราะนางเคยพยายามหลายครั้ง แล้ว ไม่มีโอกาสได้เข้าไปเลยสักครา ได้แต่เจ็บแค้นข้างใน
ทางด้านเหม่ยอิงเมื่อเดินเข้าไปในจวนก็เดินชมสวนไปจนถึง ห้องโถงรับรอง จึงนั่งรออย่างสงบ นึกคำพูดว่าจะเอ่ยแบบใดองค์ชายถึงจะยอมขายจานร้างให้นาง
ขณะที่กำลังใจลอย หลินหลงก็เดินเข้ามาหางตามองนางอย่าง อดไม่ได้ โดยการกระทำดังกล่าวไม่รอดพ้นสายตาของหลีจิ้งและ แม่นมของฮูหยินหวัง แต่ไม่มีใครเอ่ยสิ่งใด
เมื่อทําการเคารพเสร็จ หลินหลงก็เอ่ยถามว่า “มีเรื่องอันได ถึงทำให้คุณหนูอิงอิง มาพบข้า”
“ขาขอไม่อ้อมค้อมนะเพคะ คือหม่อมฉันทราบมาว่าจวน ท้ายเมืองเป็นขององค์ชายไข่หรือไม่เพคะ”
“ใช่ ทําไม ”
“คือหม่อมฉันต้องการงานนั้นไม่ทราบว่าท่าน ขายให้หม่อม ฉันได้หรือไม่เพคะ”
! เสียงฝ่ามือตบโต๊ะทำเอาเหมยอิงตกใจ ยืนนิ่ง แต่คนอื่นๆ ทิ้งตัวลงคุกเข่าพร้อมกัน เหมยอิงหันไปมองไม่เข้าใจ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ