งานแต่งงานแสนหวานและความรัก

ตอนที่ 6



ตอนที่ 6

ตอนที่6

เช้าวันต่อมาปาเก็บกระเป๋าเตรียมตัวย้ายเข้าไปอยู่ใน

คฤหาสน์กับธามนิธิ

แต่เมื่อเธอกำลังจะเปิดประตูออกไปกลับพบว่าประตู โดน

ล็อคจากภายนอกเปิดยังไงก็เปิดไม่ออก

ปาณีผลักประตูอย่างสุดกำลังปังปังปัง

“เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ!เปิดประตู!

มีเสียงของฝนสิริดังมาจากนอกห้องว่า “เธอคิดได้เมื่อไหร่

ฉันก็จะปล่อยเธอออกมาเมื่อนั้นแหละ

ปากหมัดไว้แน่นพูดด้วยความผิดหวังว่า “แม่!หนูเป็น ลูกแม่นะแม่จะทำกับหนูแบบนี้ไม่ได้

“ปาณีแม่ทำเพื่อหวังดีกับลูกนะงานแต่งงานนี้ดีกับลูก แน่นอนขอแค่ลูกยอมเชื่อฟังแม่ก็จะเปิดประตูให้

หลังพูดจบเธอก็เดินออกไปเลยโดยไม่สนใจคำขอร้อง

ของปา

ปาณีรู้สึกใจหาย

เธอไม่เคยคิดเลยว่าพ่อแม่ของเธอจะปฏิบัติกับเธอแบบนี้
ตั้งแต่เล็กจนโตพ่อแม่ก็จะบอกให้เธอยอมน้องมาโดย ตลอดไม่ว่าจะของกินหรือของเล่นต้องให้น้องเลือกก่อนเสมอ แต่ความสัมพันธ์ของสองพี่น้องนี้ดีมาตลอดปาณีจึงไม่คิด

อะไรจนถึงตอนนี้เธอถึงเข้าใจว่าตัวเองอยู่ในครอบครัวที่หัว โบราณรักลูกชายมากกว่าลูกสาว

เธอพึงประตูอย่างไร้เรี่ยวแรง

ฝนสิริตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้วว่าจะขังเธอไว้ในห้องไม่ เพียงแต่ยังเท่านั้นแม้แต่ข้าวปลาอาหารยังไม่ให้เธอกินอีกปาณี ก็ไม่อยากหน้าด้านไปขอแม่เธอฝืนทนความหิวนอนนิ่งอยู่บน เตียงทั้งวัน

เสียงท้องร้องดังจ๊อกๆเธอกุมท้องตัวเองไว้อย่างหมด เรี่ยวแรงสมองเธอเริ่มเบลอหน้าผากเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ ปาณีม้วนตัวอยู่ในผ้าห่ม

ไม่รู้ทำไมตอนนี้เธอกลับคิดถึงเวกัส

คิดถึงคนที่ตัวเองชอบคบกับเพื่อนสนิทของตัวเองหัวใจ

ของเธอเจ็บปวดสุดๆ

ตาของเธอเริ่มฝ้าฟางจนหมดสติไป……….

ไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหนพอเธอตื่นมาอีกทีพบว่าตัว เองนอนอยู่บนเตียงใหญ่ที่หนานุ่มเธอมองฝ้าเพดานที่ดูดีกว่า ห้องตัวเองอย่างใจลอย
ที่นี่ที่ไหน?

เธอพยุงตัวลุกขึ้นนั่งมีความปวดหัวเล็กน้อยเธอหิวจนแทบ

ไม่มีกำลัง

เธอมองไปรอบๆไม่รู้เลยจริงๆว่าตัวเองอยู่ที่ไหน

ทันใดนั้นประตูห้องก็ถูกเปิดออก

พอเห็นคนที่เดินเข้ามาปาณีก็อึ้งไปพักใหญ่ คุณอา!”

คนที่เดินเข้ามาคือธามนิธิ

ธามนิธิกำลังเคลื่อนรถเข็นตัวเองเข้ามาไวยาตย์เดินตาม

มาติดๆ

หลังจากเห็นปาณีตื่นแล้วคิ้วอันเข้มขมวดของธามนิธิก ตายลงเขาเคลื่อนรถเข็นตัวเองมาหยุดอยู่ตรงหน้าปาลีไวยา ตย์ยื่นผ้าเช็ดตัวอุ่นมาให้เขาจากนั้นเขาก็ช่วยเช็ดมือของปา อย่างระมัดระวัง

ปาณสัมผัสได้ถึงความร้อนของผ้าเช็ดตัวบนฝ่ามือทำให้ เธออุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก

เธอพูดว่า “คุณอาอาไปรับหนูมาที่นี่หรอคะ? ขอบคุณนะ

ธามนิธิพูดเสียง โหดว่า “เธอไม่สบายทำไมไม่ไปหาหมอ?”

ปาณีนั่งนิ่งเธอไม่สามารถพูดออกไปได้ว่าตัวเองโดนแม่ ขังไว้ในห้องเลยไปหาหมอไม่ได้เธอทำตัวเหมือนไม่สนใจแล้วพูดว่า “แค่เป็นหวัดเฉยๆไม่เป็นไรหรอกค่ะเดี๋ยวก็หาย

“คนที่คิดแบบเธอจนทำให้กลายเป็นโรคร้ายแรงเยอะ แยะเธอก็อายุ18แล้วหัดดูแลตัวเองสักบ้าง “ยามนิธิไม่พอใจ คำตอบของเธออย่างเห็นได้ชัดสายตาที่มองปาณีเต็มไปด้วย ความไม่เห็นด้วย

ปาณีหัวเราะออกมา

เธอรู้ว่าสามนิธิดเพราะเป็นห่วงเธอจึงอ้อนเขาว่า “ค่ะ

เข้าใจแล้วค่ะขอบคุณมากๆนะคะ”

ขณะที่กำลังพูดอยู่ท้องของเธอก็ส่งเสียงดังจ๊อกๆ

เธอหน้าแดงสุดๆไม่กล้าสบสายตาสามนิธิ

ธามนิธิไม่ได้ว่าอะไรหันไปพูดกับไวยาตย์ว่าไปทำอะไร

มาให้เธอกินหน่อย

“ครับ”

ไวยาตย์เดินออกจากห้องไปพร้อมกับปิดประตูลง

เขาไม่คิดว่าธามนิธิจะใส่ใจเด็กคนนี้ขนาดนี้

ตามเดิมตกลงกันไว้ว่าสองสามวันนี้จะให้เด็กคนนี้ย้าย เข้ามาแต่กลับไม่เจอวี่แววของเธอเลยเขากลัวว่าเด็กคนนี้จะหนี ไปแล้วทําให้สามนิธิเสียใจจึงไปตามที่บ้าน

แต่สุดท้ายก็เห็นปานนอนเป็นไข้อยู่ในห้อง

หลังจากธามนิยได้ยินว่าปาณีไม่สบายเขาร้อนใจมากเขาจะดูแลเธอเองโดยไม่สนเลยว่าตัวเองเคลื่อนตัวไม่สะดวก

นี่เป็นครั้งแรกที่ไวยาตย์เห็นยามนิธิเป็นห่วงผู้หญิงคนหนึ่ง

ขนาดนี้

แม้แต่นดินก็ยังไม่เคยได้รับการดูแลอย่างนี้เลย

ไม่คิดว่าเวลาที่คุณธามนิธิเป็นห่วงภรรยาจะเป็นเช่นนี้

ไวยาอยยิ้มกับตัวเองถอนหายใจแล้วอดคิดไม่ได้เลยว่า เด็กคนนี้ช่างโชคดีจริงๆ

หลังจากทานอาหารที่ไวยาตย์ส่งขึ้นมาให้แล้วปาณีลูบ ท้องตัวเองเบาๆ พร้อมกับกล่าวขอบคุณ

ธามนิธิหัวเราะออกมา เธอเป็นภรรยาของฉันเพราะฉะนั้น

ไม่ต้องเกรงใจ”

“อ๋อค่ะ”ปาณีหน้าแดงก่ำเพราะความเขินอาย

นึกถึงตอนกินข้าวธามนิธิบอกว่าไวยาตย์เป็นคนไปพาเธอ ออกมาจากบ้านเธอจึงถามว่า “คุณไวยาตย์คะคุณเจอแม่ของ ฉันไหมคะ?”

แม่จะตกลงให้ฉันออกมาได้ยังไงกัน?

ไวยาตย์นึกถึงความทรงจำที่ไม่ดีนักพูดด้วยความลำบาก ใจว่า “แม่คุณบอกว่าจะแจ้งตำรวจ

ปาณีรู้ว่าแม่ของเธอคงทำให้เขาลำบากใจไม่ใช่น้อยจึงก้มหน้าขอโทษเขา “ขอโทษด้วยนะคะที่สร้างความลำบากใจ

ให้กับคุณ

ไวยา สายหัว

เขาเห็นท่าทีของแม่ที่ไม่มีความใส่ใจปาณีเลยแม่แต่น้อย อดไม่ได้ที่จะถามว่า “คนๆนั้นเป็นแม่ของคุณจริงหรอครับ?

ปาณีนิ่งไปดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

เธอกผ้าห่มไว้แน่น โดยไม่พูดอะไรเลยสักคำเธอไม่รู้ว่าจะ ตอบคําถามนี้ยังไง

ไวยาตย์เลยพูดว่า”ถ้าอย่างนั้นคุณพักผ่อนนะครับส่วน

เรื่องอื่นคุณธามนิธิจะจัดการเอง

เขาพูดเช่นนี้เพื่อเตือนสติปาณีเพื่อให้เธอรู้ว่าถ้าไม่มีคุณ ธามนิธิเธอจะทำอะไรไม่ได้เลยคุณธามนิธิเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียว

ของเธอ

หลังจากที่พูดจบสามนิธิที่นั่งอยู่ข้างๆ พูดเสียงดังว่า “ออก

“คุณธามนิธิครับ?”

ไวยาตย์นิ่งไปชั่วขณะเขาเห็นสายตาที่เย็นชาของสามนิธิ เหมือนเขาจะทำให้สามนิธิโมโหซะแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ