ตอนที่ 3
ตอนที่3
หลังจากกลับจากบ้านคุณทัตตาปาณีนั่งรถออกไป
ชานเมืองเมืองชล
รถประจําทางจอดหน้าคฤหาสน์หลังหนึ่งปาลงจากร เดินเข้าไปในบ้านหลังนั้นอย่างคุ้นเคย
ที่นี่คือสถานที่ทำงานของเธอในช่วงปิดเทอมนี้เจ้าของ คฤหาสน์แห่งนี้เป็นชายพิการไม่สามารถเดินได้ว่ามาทำงาน ที่นี่จะ2เดือนแล้วแต่เคยเจอกับเจ้าของบ้านไม่เกิน3ครั้งตั้ง
วันนี้ก็เหมือนปกติที่ผ่านมาเธอเข้าไปในบ้านกำลังเตรียม จะเก็บกวาดกลับได้ยินเสียงดังโครม…ดังมาจากการ เดินของบันได
ปาณีตกใจ
เงยหน้าขึ้นดูเห็นร่างชายหนุ่มนอนตัวงอยู่บนพื้นหล
ด้านของชายผู้นั้นมีรถเข็นผู้ป่วยที่เพิ่งคว้เมื่อ
ปารีบวิ่งขึ้นไปเพื่อจะประคองชายผู้นั้นมัน
แม้จะเคยเห็นหน้าไม่กี่ครั้งแต่เป็นระเบียบแน่นเข้ามาได้เล ว่าชายผู้นี้ต้องเป็นเจ้าของบ้าน
ใครจะไปคิดว่าขณะที่เธอจะเข้าไปช่วยเหลือชายคนนั้นก็พูดอย่างเย็นชาว่าไม่ต้องเข้ามา
เขาไม่ชอบคนอื่นมาแตะเนื้อต้องตัว
ปาณียืนอึ้งไปสักพักมือที่จะไปประคองค้างอยู่กลาง
อากาศ
“คุณอาเป็นอะไรไหมคะ?”
ชายคนนั้นเห็นความเป็นห่วงในสายตาของปาณีเขา พยายามใช้มือต้นกับพื้นเพื่อจะขึ้นไปนั่งบนรถเข็นแต่เนื่องจาก สองขาของเขาไม่มีแรงจึงล้มไปนอนกับพื้นอีกครั้ง
เขาต่อยขาของตัวเองอย่างแรง ในสายตานั้นเต็มไปด้วย ความรังเกียจ
ปาณีไม่สามารถทนมองอีกต่อไปได้เข้าไปประคองชายผู้ นั้นนั่งบนรถเข็นแม้เขาจะห้ามก็ตาม
ธามนิธิรู้สึกแค่ว่ามีกลิ่นหอมอ่อนๆ แตะจมูกมืออันอ่อนนุ่ม ของหญิงสาวแตะลงบนบ่าของเขาประคองเขาขึ้นไปนั่งบนรถ เป็นอย่างยากลำบากเขาอยากจะอาละวาดแต่เมื่อเห็นรอยยิ้ม อันไร้เดียงสาบนใบหน้าหญิงสาวแล้วความโกธรนั้นก็หายไป
“คุณอาเจ็บตรงไหนไหมคะ?” ธามนิธิใส่หน้าแต่ไม่ได้พูดอะไร
ปาณีเห็นใบหน้าที่วังเวงนั้นรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก เธอจึงเล่าเรื่องตลกให้ฟังหวังว่าเขาจะมีความสุขบ้าง
ธามนิธิเม้มมุมปากแม้เขาจะไม่ได้หัวเราะออกมาแต่ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอบอุ่น
ไวยาตย์เห็นภาพนี้ในขณะที่เขามาถึงที่นี่พอดี
ภาพที่เห็นทำให้เขาอึ้งมาก
หลังจากที่คุณสามนิธิประสบอุบัติเหตุเขาก็ไม่เคยเห็นคุณ ธามนิธิที่อบอุ่นแบบนี้อีกเลย
“คุณไวยาตย์”
ปาะเห็นไวยาตย์ยืนอยู่กลัวว่าไวยาตย์จะคิดว่าตัวเอง กำลังอุ้งานมัวแต่โม้อยู่จึงรีบไปทำความสะอาดบ้านต่อเพราะ ปกติไวยาตย์เป็นคนจ่ายเงินเดือนให้เธอ
ไวยาตย์เดินไปยืนอยู่หน้ารามนิธิแล้วพูดว่า “คุณธามนิธิ คุณมีสุวรรณ์ไปต่างประเทศแล้วครับ”
นลินมีสุวรรณ์เป็นคู่หมั้นของธามนิธิหลังจากที่รู้ว่าถามนิธิ เกิดอุบัติเหตุเธอก็ไม่เคยมาหาเขาอีกเลย
ตอนนี้ใกล้ถึงวันงานแต่งงานของทั้งสองแล้วกลับได้ยิน ข่าวว่านลินไปเรียนต่อที่ต่างประเทศแล้วไวยาตย์ไม่เคยคิดเลย ว่านหินจะเป็นคนแบบนี้
เขากลัวว่าถามนิธิจะเสียใจมองดูเขาด้วยความเป็นห่วง
แต่ยามนิธิกลับยิ้มเบาๆพูดว่า “ไวยาตย์ฉันในตอนนี้น่า
กลัวมากเลยหรอ?”
ยามนิธิในตอนนี้สองขาไม่มีความรู้สึกใดๆต้องเพิ่งรถเข็น เวลาไหนมาไหนท่านประธานที่เคยทำให้เมืองชลธีสั่นสะเทือน บัดนี้กลายเป็นคนพิการไปแล้วอีกทั้งครึ่งชีวิตที่เหลือยังต้องให้ คนอื่นมาดูแลอีก
ไวยาตย์รู้สึกหนักหน่วงใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
หลังจากที่ไวยาตย์กลับไปแล้ว ในบ้านเหลือเพียงปาณีกับ
ธามนิธิสองคน
ปาณีทําความสะอาดบ้านไปด้วยแต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่าเธอ จะยืมเงินกับคุณธามนิธิอย่างไร?
เมื่อคิดเช่นนั้นสายตาของเธอก็ได้จ้องไปยังชายที่นั่งนิ่งอยู่
บนรถเข็น
ผ่านไปแล้วครึ่งวันชายคนนี้ยังนั่งอยู่ข้างหน้าต่างมองวิว นอกหน้าต่างบานนั้นด้วยสีหน้าที่ได้ความรู้สึกและไม่พูดอะไร
เลย
ปาณีรู้สึกอึดอัดจึงเดินเข้าไปหาเขา
คำพูดที่จะขอยืมเงินกับคุณธามนิธิติดอยู่ปลายริมฝีปาก
แต่เธอกลับพูดไม่ออก
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนชายคนนั้นรู้สึกได้ว่าปา เดินเข้ามาใกล้จึงพูดว่า “มีธุระอะไร?”
ปารู้สึกตื่นเต้นมากยิ่งขึ้นเมื่อโดนถามเธอกขายเสื้อของตัวเองไว้แน่นพูดด้วยเสียงที่สั่นเครือว่า “คะ….คุณอาหนู ขอยืมเงินกับคุณหน่อยได้ไหมคะ?”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ