คุณหมอสุดหล่อ ขอฉีดรักให้หน่อย

ตอนที่ 11 การเจอกันอีกครั้งโดยบังเอิญ



ตอนที่ 11 การเจอกันอีกครั้งโดยบังเอิญ

ตอนที่ 11 การเจอกันอีกครั้งโดยบังเอิญ

พิณเลิกงานก่อนครึ่งชั่วโมง เธอนั่งรถไฟฟ้าตรงไปที่ โรงแรมสายน้ำฟ้า

พอเข้าไปในโรงแรม สายตาก็เหลือบไปเห็นผู้ชายที่ไม่

ได้เจอมาสักพักแล้วคนนั้น ปรเมษฐ

เขาในตอนนี้ ต่างจากปกติเล็กน้อย

ไม่ได้ใส่เสื้อคลุมยาวสีขาวที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา แต่ กลับใส่ชุดสูทลายสก็อตสีเข้มที่ดูประณีตๆแทน

การตัดเย็บของชุดสูทดูก็รู้ว่าเป็นของดีไซน์เนอร์ต่าง ประเทศ รูปแบบของชุดปกคลุมร่างกายสูงโปร่งของเขา ได้อย่างพอเหมาะพอสม ดูแล้วสง่างาม พออยู่บนตัวของ เขาดูแล้วเรียบหรูมาก

เขานั่งไขว่ห้างด้วยท่าทางสบายๆอยู่บนโซฟา สายตา ทอดยาวออกไปมองวิวของเมืองที่ผู้คนคึกคักข้างนอก นอกหน้าต่าง แววตานิ่งขรึม

ดูเหมือนเขาจะรอใครอยู่
นิ้วมือเรียวยาว เคาะโต๊ะเป็นจังหวะๆ แสดงให้เห็นว่า ความอดทนในการรอของเขาเริ่มจะหมดลงแล้ว

ในขณะที่พิณกำลังจะหันสายตากลับ จู่ๆเขาก็เหลือบมา มองทางเธอเข้าพอดี

สายตาสองคู่จ้องมองกัน ท่าทางตกใจของพิณทำให้เขา รีบหันสายตากลับไป ถึงกับปกปิดแทบไม่ทัน

พิณรีบหาที่นั่งข้างหลังเขานั่งลงอย่างลุกลี้ลุกลน เธอสุด หายใจเข้าลึกๆ ให้อารมณ์ความรู้สึกตระหนกของตัวเอง ค่อยๆผ่อนคลายลง

แล้วค้นหาเอกสารข้อมูลในกระเป๋า กะที่จะโทรหาลูกค้า แต่ไม่ทันได้หยิบเอกสาร จู่ๆมือถือในกระเป๋าก็ดังขึ้น

พิณคิดว่าลูกค้าโทรกลับมา ก็รีบหยิบมือถือขึ้นมา พอดู หน้าจอของมือถือ เธอก็ตะลึงไปครู่หนึ่ง

หมายเลขที่ปรากฏบนมือถือเป็นหมายเลขที่ไม่รู้จัก ไม่ ได้ถูกบันทึกไว้ในรายชื่อของเธอ แต่ว่าหมายเลขพวก นั้นมันกลับเป็นหมายเลขที่ฝังอยู่ในหัวของเธอตลอด มา แม้ว่าจะสี่ปีแล้ว ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร กลับ ทำให้เธอยิ่งจดจำมากขึ้น
นี่คือเบอร์ของปรเมษฐ สี่ปีก่อนจนถึงตอนนี้ เป็นเบอร์นี้ ไม่มีเปลี่ยน

แต่ว่า ทำไมเขาถึงมีเบอร์ที่ติดต่อของเธอล่ะ? ตั้งแต่ออก มาจากเมือง Sเธอก็เปลี่ยนเบอร์ตั้งนานแล้ว

พิณหันหัวกลับไปมองที่เขา เขาก็ยังกำลังมองเธอด้วย สายตานิ่งสงบ มือถือยังคงแนบอยู่ที่หู

พิณกำลังสับสนว่าควรจะรับสายดีหรือเปล่า

“กะจะคุยงานกันโดยที่นั่งแบบนี้เหรอ?”

ปรเมษฐพูดเข้ามาในสายด้วยน้ำเสียงต่ำไม่หนักไม่เบา

“เอ่อ?” พิณนิ่งไปนิดหน่อย

“หรือว่าจะคุยกันทางโทรศัพท์?”

พิณในเวลานั้นก็ได้สติกลับมา แล้วก็รีบเปิดเอกสาร ข้อมูลของลูกค้า ยิ่งทำให้เธออึ้งไปกว่าเดิม

เธอทุบเบาๆที่หัวของตัวเองด้วยความหงุดหงิด ในตอนนี้ เธอเริ่มรู้สึกผิดที่ไม่ได้เช็คข้อมูลของลูกค้าก่อน
“คุณพิณ แม้แต่ข้อมูลของลูกค้าคุณก็ไม่ได้ทำความ เข้าใจมาก่อนเลยเหรอ?” แสดงให้เห็นว่าเขาไม่พอใจใน การทํางานของเธออย่างมาก

“ขออภัยด้วยค่ะ” พิณรีบขอโทษทันที

เพราะว่าต้องเลิกงานก่อนครึ่งชั่วโมง ดังนั้นงานในมือก็ เลยเร่งรัดมาก ตอนบ่ายหลังจากที่ได้รับเอกสารข้อมูล จากผู้อำนวยการก็ไม่ได้เปิดดูเลยสักนิด จากนั้นก็รีบมาที่ นี่ทันที

“คุณหมอเมษฐ ฉันจะรีบไปทันทีค่ะ”

หลังจากพิณพูดจบ ก็วางสายลง แล้วก็รีบหอบเอา เอกสารเดินไปยังโต๊ะของปรเมษฐอย่างช่วยไม่ได้

เธอยืนอยู่ที่ข้างหน้าโต๊ะของปรเมษฐ

“สวัสดีค่ะ คุณหมอเมษฐ

เธอทักทายปรเมษฐอย่างสำรวม “ขออภัยด้วยค่ะ ฉันคิด ไม่ถึงว่าจะเป็นคุณ”

ปรเมษฐที่นั่งไขว่ห้างนิ่งๆอยู่ตรงนั้น สายตามองมายัง ใบหน้าของพิณด้วยสีหน้านิ่งสงบ แล้วพูดขึ้น “ผมก็เพิ่งจะทราบเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว”

พิณยิ้มเล็กน้อย แล้วเอาเอกสารที่อยู่ในมือยื่นไปที่ข้าง หน้าของปรเมษฐ แล้วเธอก็เข้าสู่คำถามทันที คุณหมอ เมษฐต้องการอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะสําหรับการ ออกแบบบ้านของคุณ? คุณดูสักหน่อย พวกนี้เป็นรูปแบบ ที่ได้ออกแบบไว้แล้วทั้งหมดค่ะ ถ้าเกิดคุณชอบอะไรเป็น พิเศษก็บอกฉันได้ค่ะ”

ปรเมษฐหันสายตามองลง ไม่ได้มองข้อมูลที่เธอให้มา “ผมหิวแล้ว อยากกินข้าวก่อน”

พิณอึ้งไปเสี้ยววินาที แล้วยิ้มขึ้น เก็บเอกสารในมือกลับ “ขอโทษด้วยค่ะ ที่ฉันเสียมารยาท”

ปกติแล้วเธอไม่ได้เป็นแบบนี้ เวลาเธอคุยงานกับลูกค้า ก็แค่ทักทายไม่กี่ประโยค พูดสิ่งที่ลูกค้าฟังแล้วชอบใจ แล้วค่อยเข้าสู้คำถาม แต่กับปรเมษฐไม่เหมือนกัน เธอ อยากที่จะรีบถามแล้วรีบจบการเจรจางานครั้งนี้

“waiter!”

ปรเมษฐเรียกพนักงาน “สั่งอาหาร”

ไม่นาน พนักงานก็หยิบเมนูอาหารมาให้ทั้งสอง พิณรับ เมนูมาแต่ไม่ได้สั่ง ปรเมษฐก็สั่งอย่างไม่เกรงใจ
“เนื้อหมักไวน์แดง บาร์บีคิว มันฝรั่งผัด ซุปดอกกะหล่ำ สไตล์ฝรั่งเศส แล้วก็ของหวานแอปเปิ้ลต้มไวน์แดง แค่นี้”

เขาสั่งอาหารเสร็จแล้วก็ให้พนักงานเก็บเมนูอาหารไป แต่ตั้งต้นจนสั่งเสร็จ ไม่ได้ถามความเห็นพิณแม้แต่น้อย

“คุณเมษฐ สั่งเยอะขนาดนี้ พวกเราสองคนจะกินหมดเห รอคะ?” ในที่สุด พิณก็พูดค้านขึ้น เนื่องด้วยนิสัยประหยัด ของเธอ

ปรเมษฐไม่ได้สนใจสิ่งที่เธอพูด

พิณทำได้แค่เงียบไป

ไม่นาน อาหารมาเสิร์ฟ กลิ่นหอมที่อบอวลไปรอบๆ ทำให้พิณรู้สึกหิวไม่น้อย เธอหยิบตะเกียบไม้ขึ้นกำลังจะ เริ่มกิน แต่พอเห็นปรเมษฐที่นั่งอยู่ตรงข้ามมีท่าทางนิ่งเฉย ไม่ได้จะลงมือกิน เธออดไม่ได้ที่จะถามเขา “คุณไม่หิว แล้วเหรอ? ทำไมถึงไม่กินล่ะ?”

“ตอนนี้ไม่อยากกิน คุณกินเถอะ”

เขาตอบอย่างนิ่งๆมาหนึ่งประโยค สายตามองไปนอก หน้าต่าง แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ