บทที่ 6 ผม…เป็นผู้หญิงฮะ
หญิงสาวโล่งใจเมื่อเขาไม่ได้ถามเรื่องใกล้ตัวอีก หัวข้อ สนทนาส่วนใหญ่เป็นเรื่องสัพเพเหระเพื่อทำความรู้จักคุ้น เคยกันมากกว่า
หลังอาหารคาต้อนรับเพื่อนใหม่ ปาณวัตรก็ขันอาสาจะ เป็นคนล้างจานเอง ให้เจมส์เก็บกวาดทําความสะอาด
“คุณล้างจานคล่องจังนะครับ” พิมลภัสว์เอ่ยชม เมื่อเห็น เขาทำอย่างคล่องแคล่ว ผิดกับชุลภัสว์พี่ชายของเธอ ราย นั้นงานบ้านงานเรือนไม่เป็นสักอย่าง มาเยี่ยมมาเยือนที ไรเธอต้องทําข้าวปลาอาหารให้รับประทาน แถมด้วยการ ทําความสะอาดทุกอย่าง ไม่รู้ว่าเป็นโชคร้ายหรือโชคดีของ ภาวนาที่ได้สามีขี้เกียจแบบนั้น
“ตอนอยู่เมืองไทยก็ล้างบ่อย ๆ นะครับ รีดผ้าซักผ้าได้ทุก อย่าง” เขาตอบยิ้ม ๆ
“เหรอครับ ผมนึกว่ามีแม่บ้านทำให้ซะอีก เก่งจังนะครับ หญิงสาวอดชื่นชมไม่ได้
ทําให้ยัยตัวแสบน่ะครับ แฟนผมเอง” ปาณวัตรหัวเราะ หึๆ รีบบอกเจมส์ว่ามีแฟน เขาจะได้รอดพ้นจากการเป็นเป้าหมายของชายหนุ่ม การที่รีบป่าวประกาศว่ามีแฟน เป็นผู้หญิงจะทำให้พรหมจรรย์ของเขาปลอดภัยขึ้นมาอีก ในระดับหนึ่ง
พิมลภัสว์ชะงัก
“เธอเป็นคนน่ารักครับ ตัวเล็ก ๆ ทำกับข้าวก็อร่อย งาน บ้านงานเรือนก็คล่อง เสียแต่ไม่ค่อยจะชอบทำ ผมก็เลย ต้องช่วยเธอเป็นประจำ” เขารีบตอกย้ำ แล้วก็หน้าหมอง เมื่อความรู้สึกของเขาไม่ได้สดชื่นเหมือนอย่างที่พูดเลยสัก นิต
“อ้อ ครับ คุณนี่โชคดีจังนะครับ” หญิงสาวยิ้มบางๆ สงสาร เขาจับใจเมื่อเห็นสายตาหมองหม่นนั้น อยากจะมีเวทมนตร์ แปลงร่างเป็นพี่สะใภ้ซะเดี๋ยวนี้
เมื่อทำความสะอาดช่วยกันจนห้องกลับมาเอี่ยมอ่อง เหมือนเดิม ปาณวัตรก็ขอตัวขึ้นห้องเลย เขาดึงกระดุมเม็ด บนสุดออก ดีใจที่ได้ประกาศตัวว่ามีรสนิยมชอบผู้หญิง เจมส์จะได้ไม่มาเกาะแกะเขา
ชายหนุ่มจัดการเก็บข้าวของส่วนตัวไม่นานนัก เขาก็ล้มตัว ลงนอน คงจะเพราะความเหนื่อยล้าจากการเดินทางและดื่มแชมเปญมากไปหน่อย จึงทำให้คืนนี้เป็นคืน แรกที่นอนหลับได้สนิทโดยไม่ต้องทุรนทุรายเพราะเสียง ทะเลาะกันของเพื่อนบ้านและจากความร้าวรานของหัวใจ
รุ่งเช้า เขาก็ตื่นขึ้นอย่างสดชื่น ไม่ต้องตั้งนาฬิกาปลุก ตั้งแต่ดึกดื่นเหมือนบ้านเช่าหลังเก่า เพราะมหาวิทยาลัย นั้นอยู่ห่างออกไปไม่ถึงสองกิโลเมตร เดินไปเรียนได้อย่าง สบาย ๆ
พิมลภัสว์นั้นออกมาก่อนแล้ว หล่อนตั้งนาฬิกาปลุกตั้งแต่ ห้านาฬิกา เพื่อที่จะได้มีเวลาแต่งองค์ทรงเครื่องเป็นตัว ของตัวเองเสียที เมื่อคืนนี้กว่าจะได้นอนก็ต้องเสียเวลา แกะหนวด แกะผ้ารัดรอบอก ล็อกประตูห้องนอนให้แน่น หนา ด้วยกลัวว่าเขาจะมาเคาะห้องเพื่อถามนั่นถามนี่
หญิงสาวในตอนนี้เป็นแค่ ดร.นักวิชาการผู้คร่ำเคร่งใน ตำราคนหนึ่ง หลังจากลงทุนนั่นผมซะสั่นเต่อ หล่อนก็ ต้องซื้อผมตัวเองที่ให้ช่างตัดผมทำเป็นวิกมาสวม ถอด ฟันปลอมเอาไว้ที่ห้อง สวมแว่นตารูปทรงโบราณแทน คอนแทคเลนส์ มองเผิน ๆ เหมือนอาจารย์ป้า เพื่อป้องกัน มิให้ปาณวัตรจับได้หากต้องไปเจอในห้องสมุด หรือที่เขา ต้องเข้าเรียนในวิชาที่เธอต้องไปเป็นวิทยากร
เฮ้อ! ต้องปลอมตัวถึงสองเวอร์ชั่น เป็นได้ทั้งผู้ชายและ ยายเฉิ่ม ในโลกนี้จะมีใครรันทดเหมือนเธออีกไหม
“เป็นไงลิซ่า ได้ใช้ไอนั่นหรือเปล่า?” เจนนิเฟอร์ปรี่เข้ามา ถามด้วยความอยากรู้ เมื่อหล่อนหย่อนกันลงบนโต๊ะทำงาน
“น่าจะถามว่ารอดหรือเปล่ามากกว่า เกือบถูกจับได้แล้ว ไหมล่ะ”
แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดีใช่มะ อย่าลืมนะว่าเธอต้องไปล่อง เรือที่อียิปต์อีก ระวังอย่าให้เขาจับได้ล่ะ”
พิมลภัสว์พยักหน้า นั่นแหละที่กลัว ถ้าเขาบังเอิญไปเห็น ชื่อของคนร่วมทริปที่เป็นพิมลภัสว์ ดีน แพททิสสัน ไม่ใช่ เจมส์ แพคทิส ไม่ต้องคิดเลยว่าอะไรจะเกิดขึ้น
“อย่าให้แมทธิวเผลอพูดเรื่องของฉันก็แล้วกัน ไม่ต้องพูด เลยยิ่งดี”
“จ้า ๆ เพื่อนรัก แหม เขาก็หล่อดีนะ ถึงจะไม่เร้าใจเหมือน เลออนก็เถอะ ดูอ่อนโยนนากิ๊น น่ากิน” เจนนิเฟอร์ท่าปาก จั๊กจั๊ก
เย็นวันนั้นพิมภัสว์กับเพื่อนหนุ่มหัวใจสาวต้องไปเลือก ซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าอีกครั้ง เพราะอุณหภูมิที่ประเทศ อียิปต์ในช่วงฤดูใบไม้ผลิกำลังอบอุ่น แต่สําหรับคนที่ เคยชินกับความหนาวก็ถือว่าร้อนพอสมควร ที่สําคัญคือ ต้องเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะกับการปลอมตัวเป็นยายเฉิ่ม ดัง นั้นหญิงสาวจึงได้ทั้งเสื้อผ้าและอุปกรณ์ปลอมตัวกลับมา เพียบ
เจนนิเฟอร์จอดรถห่างหน้าบ้านเล็กน้อย มองเข้าไปในตัว บ้านที่ยังมืดสนิท
“ท่าทางเขาจะกลับดึกเหมือนกันนะนี่”
“ดีแล้ว ฉันจะได้มีเวลาเตรียมตัว เจอกันพรุ่งนี้นะ”
พิมลภัสวรีบถือของเข้าไปในบ้าน มองซ้ายมองขวาว่าไม่ เห็นคุณหมอหนุ่มแน่ ๆ ก็ถอดรองเท้า ก่อนจะขึ้นไปที่ห้อง แล้วจัดการติดหนวดปลอม พันผ้ารอบหน้าอก ปลอมตัว เป็นผู้ชายอีกครั้ง คราวนี้ใช้เวลานานกว่าตอนที่เพื่อนสาว มาช่วยครั้งแรก
ปิ๊ง…ป๋อง
ตายๆๆๆ เขากลับมาแล้วแน่ๆ หญิงสาวรีบติดหนวดปลอม ถอดวิกยัดใส่ไว้ในลิ้นชัก วิ่งหน้าตั้งลงมาที่ประตูบ้าน
“มาแล้วครับ แฮ่กๆ” หญิงสาวเปิดประตูออก แล้วปาณ วัตรก็โผล่หน้าเข้ามาพร้อมกับยื่นของบางอย่างมาตรงหน้า หล่อน
“สงสัยจะมีคนลืมรองเท้าส้นสูงไว้หน้าบ้านนะครับ เจมส์…”
พิมลภัสว์เบิกตากว้าง หัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม โอ๊ยๆ ๆๆ สะเพร่าจริงเชียว ถอดรองเท้าส้นสูงทิ้งไว้ได้ยังไง โธ่! เสร็จแน่ยัยพิมเอ๋ย…
“เอ่อ…คือ…คือว่า…” หญิงสาวพูดไม่ออก เวลาจวนตัวละ ก็นึกคําแก้ตัวไม่ทัน สมองตื้อไปหมด
“ผม…เข้าใจครับ…และจะไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของ คุณจริงๆ” ปาณวัตรวางรองเท้าไว้ที่มุมห้อง เห็นหน้าซีด เผือดของพิมลภัสว์แล้วก็สงสาร เจมส์คงไม่อยากให้ใคร รู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นเพศที่สาม แม้ภายนอกเขาจะดูเป็น สุภาพบุรุษทุกระเบียดนิ้ว แต่คงจะเคยชินกับการลุกขึ้นมาแต่งตัวเป็นผู้หญิงในเวลาที่อยู่คนเดียว พอมี คนมาอาศัยอยู่ด้วยก็เลยเผลอแสดงธาตุแท้ออกมา
มิน่า…เขาถึงดูค่อนข้างจะบอบบาง นี่ถ้าแต่งเป็นผู้หญิง เต็มยศคงจะไปประกวดมิสทิฟฟานี่ได้อย่างสบาย ๆ เลย
“คุณ…หมายความว่ายังไงครับ?” พิมลภัสว์ยังงง ตกลง เขายังไม่รู้ใช่ไหมว่าหล่อนเป็นผู้หญิง และเป็นคนที่เขา เกลียดคนนั้น
“ผมหมายถึง ผมไม่รังเกียจเอ่อ…ถ้าคุณอยากจะแต่งตัว เป็นผู้หญิงในบางครั้ง แต่ยังไงผมก็ไม่นิยมบริโภค…อยู่ดี”
หญิงสาวตกตะลึงรอบที่สอง โอ…นอกจากเขาจะมอง หล่อนเป็นผู้ชายแล้ว ตอนนี้ยังเห็นหล่อนเป็นกระเทยไปซะ อีก และดูท่าเขาจะกลัวกระเทยเอามาก ๆ ด้วย
“ไม่ใช่นะครับ…ผมไม่ใช่แบบนั้น! นั่น มัน…เอ่อ…ของ…ของ…แฟนผมเอง!”
“จริงหรือครับ?” ปาณวัตรตกใจ แล้วรีบก้มศีรษะลงเป็นการขอโทษ “โอ..ถ้าอย่างนั้นผมต้องขอโทษจริง ๆ ที่ เข้าใจผิดไป…คุณเจมส์คงไม่ถือโทษโกรธผมใช่ไหมครับ”
“ไม่ครับ..ไม่โกรธ” พิมลภัสวรีบตอบ “เธอแวะมาเยี่ยมนะ ครับ พรุ่งนี้จะขึ้นเครื่องไปอียิปต์
“อ้อ!” เขารับทราบ “ถ้าอย่างนั้นผมไม่รบกวนแล้วครับ”
ปาณวัตรรีบขอตัวเข้าห้อง หวังว่าแฟนของเจมส์คงไม่มา อยู่เป็นการถาวรหรอกนะ เขาไม่ชินกับการอยู่ร่วมบ้านกับผู้ หญิงอื่นที่ไม่ใช่ภาวนา แม้จะเป็นแฟนของใครก็ตาม
พิมลภัสว์ถอนหายใจโล่งอก อย่างน้อยรอดตัวไปในระดับ หนึ่ง เขาจะเชื่อหรือไม่ก็สุดแล้วแต่ ขอแค่อย่าจับได้เป็น พอ
หล่อนถือรองเท้าขึ้นไปบนห้อง ต่อไปนี้จะไม่หลงลืมอะไร อีก เฮ้อ…นี่ทุกเย็นจะต้องปลอมตัวเพื่อไปเปิดประตูบ้านให้ เขาเพียงเท่านั้นหรือไงนะ อย่างน้อยน่าจะได้ทานอาหาร เย็นร่วมกันสักมื้อ แบบนี้ก็เหมือนต่างคนต่างอยู่ ที่วาดฝันไว้ว่าจะได้มีโอกาสได้ใกล้ชิดสงสัยจะ
ไม่มีหวัง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ