บทที่ 10 เอาวิกผมคืนมา
ไม่นานนัก…ก็ถึงหุบผากษัตริย์
“บอกแล้วว่าอย่าดูหมิ่นคำสาปฟาโรห์ก็ไม่เชื่อ…แฮ่ก ๆ โอย…ทําไมชีวิตเดี้ยนต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ กระเทยรับไม่ ได้…”
เขาวางร่างเพื่อนสาวลง ก้มลงมองฝ่าเท้าที่แดงเถือกแล้ว ถอนหายใจ
“ทำไงดี…เท้าเธอพองแน่ลิซ่า…เป็นเรื่องแล้วไหมล่ะ”
“เธอไปตามหาผมของฉันก่อน…ซี้ด..ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวฉัน ใช้น้ำล้างเท้าไปก่อน” พิมลภัสว์หยิบขวดน้ำดื่มออกจากระ เป๋าถือแล้วเทราดฝ่าเท้าทีละนิด เพราะเหลืออยู่ขวดเดียว ความเจ็บปวดหรือจะสู้ความกลัว
หล่อนไม่ได้กลัวคำสาปของฟาโรห์ แต่กลัวว่าปาณวัตร จะมาเห็นเข้า หลังจากเอาตัวรอดมาได้หลายครั้ง
“รออยู่ที่นี่นะ…ฉันจะรีบไปหาที่รถ จะเตะอีตาโชเฟอร์สัก ป้าบหนึ่ง”
หญิงสาวพยักหน้า แล้วก้มลงเทน้ำราดเท้าต่อ น้ำตาหยด แหมะเพราะความแสบร้อน หวังว่ามันคงจะไม่เป็นแผล พุพองจนต้องลอกหนังเท้าออกมาหรอกนะ
สาธุ…ขอให้เจนนิเฟอร์หาวิกผมเจอด้วยเถอะ…อาเมน….
ปาณวัตรลงจากรถ กวาดสายตามองหา ดร.ลิซ่า เป็น อันดับแรก เขาไม่รู้ว่าเธอนั่งรถกอล์ฟคันไหน แต่เดาว่าน่า จะมาถึงก่อนอยู่หลายนาที
เขาอยากจะเดินชมสุสานของฟาโรห์ตุตันคาเมนเต็มทน ตอนนั่งรถมาก็อ่านหนังสือคร่าว ๆ เพื่อประดับความรู้เวลา ไกด์นําเที่ยวพาชมจะได้ไม่งง แต่เขาอยากจะฟังน้ำเสียง ไพเราะของ ดร. ฟันเหยินคนนั้นมากกว่า
อ้อ…นั่น…เจนนิเฟอร์
ดูเหมือนเธอกำลังก้มลงหาอะไรบางอย่างในรถกอล์ฟ เขายิ้มอย่างสมหวังและเดินเข้าไปหาหล่อนทันที
“หาอะไรครับเจน?”
“ว้าย!…” เจนนิเฟอร์สะดุ้ง หล่อนเสียเวลาเดินดูทะเบียน รถหลายคัน กว่าจะหารถคันนี้เจอ แต่วิกผมของพิมลภัสว์ นั้นหายไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่มันน่าจะตกอยู่บนรถแท้ๆ ๆ
“ปละ เปล่าค่ะ” เธอหันไปยิ้มหวานให้คุณหมอหนุ่ม กลิ่น นํ้าลายดังเอ็อก! เมื่อเขาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดบนสอง เม็ดเพราะความร้อน จนเห็นแผงอกขาว ๆ และเหงื่อที่เกาะ พราว
โอ…พระเจ้า…หนุ่มเอเชียนี่ก็น่ากินไม่แพ้ใคร รสชาติจะ เหมือนผัดกระเพราที่พิมลภัสว์เคยทำให้กินจนหล่อนต้อง ร้องซี้ดมาแล้วหรือเปล่านะ…
“ดร.ลิซ่าล่ะครับ…ผมนึกว่าอยู่กับคุณ
“เอ่อ…คือ เมื่อกี้ก็เห็นเดินอยู่แถว ๆ นี้นะคะ หายไปไหน ไวจริง ๆ” หล่อนแกล้งบ่น แอบเหลือบมองเข้าไปในรถอีก ครั้ง เผื่อเมื่อสักครู่นี้คำสาปฟาโรห์จะบังตา
“เจอแล้ว!”
ทั้งสองคนร้องขึ้นพร้อมกัน เจนนิเฟอร์นั้นเห็นวิกผมอยู่ข้างเบาะที่นั่งคนขับ เดาว่าเขาคงจะเก็บไว้ให้ ส่วนปาณ วัตรนั้นมองเห็น ดร.ลิซ่า ยืนอยู่ในเงาร่ม มือข้างหนึ่งถือ รองเท้า อีกข้างถือขวดน้ำท่าท่ายักแย่ยักยน
“ดร.ลิซ่า!” เขาร้องอย่างยินดี สาวเท้าเข้าไปหาหญิงสาว อย่างรวดเร็ว
พิมลภัสว์หน้าเหวอ เมื่อจู่ ๆ ก็เห็นปาณวัตร เธอคิดว่าเขา น่าจะเข้าไปชมสุสานของฟาโรห์ตุตันคาเมนกับคณะทัวร์ แล้ว หลังจากนั่งรอเจนนิเฟอร์อยู่หลายนาที น้ำในขวดก็ หมดแล้ว จึงค่อย ๆ ย่องออกมาจากเนินทราย ไม่คิดว่าเขา จะอยู่ตรงนี้และเดินดื่ม ๆ เข้ามาหาเสียด้วย
ตายแล้ว…ตายแน่ ๆ เขาเดินมาทางนี้แล้ว…
นั่น! เจนนิเฟอร์….โอ ไม่นะ
หล่อนทำปากจู๋ เมื่อเจนนิเฟอร์ยกวิกผมขึ้นโบกไปมาบน อากาศด้วยสีหน้าดีใจสุดขีดที่หามันพบ
“เก็บ ลง เดี๋ยว นี้!” หญิงสาวทำปากเป็นคำพูดโดยไม่เปล่ง เสียง และเห็นเพื่อนสาวเทียมตอบกลับมาด้วยวิธีเดียวกัน แถมยังทำท่าทางลำบากใจประกอบด้วย
“โธ่! จะ ให้ เก็บ ตรง ไหน… กระเป๋า ก็ ไม่ มี
“เก็บ ลง ไป!” หญิงสาว
“มีอะไรหรือครับดอกเตอร์?” ปาณวัตรหันกลับไปมองตาม สายตาของหญิงสาว สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
“ตายแล้ว!” เจนนิเฟอร์อ้าปากค้าง ก่อนจะจัดการยัดวิกผม ของพิมลภัสว์ลงตรงจุดที่นึกได้เร็วที่สุด
“อะ..ไอ้เจมส์!” พิมลภัสว์เบิกตากว้าง เมื่อเห็นเส้นผมสุด รักสุดหวงเข้าไปอยู่ใต้กระโปรงของเจนนิเฟอร์ ตรงจุด ยุทธศาสตร์พอดี แล้วก็ยิ้มแหยๆ ให้ปาณวัตร
“มะ…ไม่มีอะไรค่ะ” หญิงสาวกระชับผ้าคลุมผมให้แน่นขึ้น ยืนเขย่งเท้าสลับกันไปมา คุณหมอหนุ่มไม่รอช้า นั่งลงแล้ว จับขาหญิงสาวพลิกดูทันที
“ผมเห็นพวกคุณ…. วิ่งอยู่บนถนน เกิดอะไรขึ้นครับ?” เขา เงยหน้าขึ้นมาถาม
“คือ…คือว่า…” พิมลภัสว์นั่งลง และยอมให้เขาดึงเขา เหยียดออก ก่อนที่ชายหนุ่มจะเปิดกระเป๋าหยิบเอาขวดน้ำ ออกมาเทล้างเท้า และเปิดฝาโลชั่น
“ฉันทาเองก็ได้ค่ะ” หญิงสาวรีบร้องบอก เมื่อเห็นเขาบีบ โลชั่นใส่ฝ่ามือ
“ไม่เป็นไรครับ…ต้องรีบทาไม่งั้นจะเป็นแผลพุพอง” เขา ลูบไล้โลชั่นที่ฝ่าเท้าของหล่อนทั้งสองข้าง แล้วหันไปหา เจนนิเฟอร์ที่วิ่งมานั่งอยู่ใกล้ ๆ
“ต้องรอให้โลชั่นแห้งก่อนนะครับ แต่ตรงนี้ร้อนมาก ผมว่า เราเข้าไปหน้าสุสานดีกว่า คุณเจนช่วยพยุงดอกเตอร์ด้วย นะครับ ขี่หลังผมไป
เจนนิเฟอร์พยุงร่างพิมลภัสว์ให้ลุกขึ้นด้วยความทุลักทุเล เพราะไหนจะกลัววิกผมร่วงลงจากกระโปรง ไหนจะกลัว เท้าที่เพิ่งทาโลชั่นของหญิงสาวสัมผัสกับดินให้เปรอะ เปื้อน
“กอดคอไว้ลิซ่า!” เธอจับแขนทั้งสองข้างของเพื่อนสาว ให้โอบรอบคอของชายหนุ่มไว้ แล้วจัดการแยกขาของ พิมภัสว์ให้ถ่างออก เพื่อที่จะได้ขึ้นขี่หลังของคุณหมอหนุ่มได้ถนัด ๆ ลืมไปว่าหญิงสาวนั้นสวมกระโปรงพลิ้ว
ไหว
“ว้าย!” ดอกเตอร์สาวร้องลั่น เมื่อถูกมือแข็งแรงของเจน นิเฟอร์จับต้นขาของเธอถ่างออกจากกันราวกับมันเป็นน่อง ไก่ไม่ใช่ขาของคน แล้วใช้มือดันก้นของเธอขึ้นหลังปาณ วัตร
“โอ๊ะ!” ปาณวัตรอุทาน ก่อนจะเสียการทรงตัว หน้าทิ่ม ขมาลงบนพื้นทราย พร้อม ๆ กับร่างของพิมลภัสว์หล่นตุ้บ
“คุณ! เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?
“Sorry, Sorry จริง ๆ ค่ะ เจนขอโทษ เจนไม่ได้ตั้งใจ” เจน นิเฟอร์เข้ามาประคองชายหนุ่ม ซึ่งกำลังใช้มือคลำสำรวจ ศีรษะที่ถูกกระแทก “ว้าย! เลือดออก เลือดหัวออกค่ะ!”
“ไม่เป็นไรครับ…คงจะถูกฟันหน้าของดอกเตอร์กระแทก เอา ผมว่าเรารีบไปกันดีกว่า” เขาไม่นำพาต่อความเจ็บของ ตัวเอง หันไปอุ้มดอกเตอร์สาวขึ้นพาดบ่า แล้วเดินไปยัง ทางเข้าสุสาน วางหล่อนลงบนเก้าอี้ของเจ้าหน้าที่จัดการล้างเท้าและทาโลชั่นให้ใหม่อีกครั้ง
“อากาศร้อนนะครับ ผมว่าถอดผ้าคลุมผมออกดีกว่า จะได้ สบายตัว” เขาแนะนำ เพราะตอนนี้หญิงสาวหน้าซีด เหงื่อ ซึมออกมาจากไรผมไหลลงมาตามล่าคอเต็มไปหมด
“ร้อนก็ต้องทนค่ะ ลิซ่าเค้าแพ้ฝุ่น” เจนนิเฟอร์รีบใช้ กระดาษทิชชูซับเหงื่อให้เพื่อนสาว แล้วหันไปหาชายหนุ่ม “คุณสิคะ…โดนฟันกระแทกเป็นอะไรหรือเปล่า?
“ไม่เป็นไรครับ” ชายหนุ่มรีบบอก เมื่อเจนนิเฟอร์ ทําท่าผวาเข้ามาหาเขาด้วยความเป็นห่วง “ผมฉีดยากัน บาดทะยักแล้ว” เขาเงยหน้าไปสบตาพิมลภัสว์ซึ่งกำลัง มองลงมาด้วยความซาบซึ้ง
ปาณวัตรชะงักกึก…เมื่อเห็นแววตาที่หวานฉ่าเต็มไปด้วย ความรู้สึกของหญิงสาว
อา…คุณหมอของพิม ช่างเป็นเจ้าชายที่แสนดีอะไรอย่าง นี้ ตอนที่เขากำลังปฐมพยาบาลให้เธอนั้น เขาจะได้ยิน เสียงหัวใจของเธอเต้นไหมนะ มันดังจนแทบจะทะลุออก มานอกอกอยู่แล้ว
และตอนนี้…ราวกับโลกกำลังหยุดหมุน เมื่อเขาสบตา ขึ้นมาหวานฉ่าอย่างที่ผู้หญิงแบบพิมลภัสว์ไม่มีทางจะได้ เห็น เขาคงเป็นห่วงเราบ้างแหละน่า…เมื่อครู่นี้เขายังอุ้ม เอ่อ..น่าจะเรียกว่าแบกถึงจะถูก จะอะไรก็ช่างเถอะ เขาไม่ ได้เข้าไปในสสานพร้อมคณะทัวร์ก็เพราะต้องการพบเธอ นี่ คงเป็นนิมิตหมายที่ดีในการพัฒนาความสัมพันธ์
หญิงสาวยิ้มหวาน มองเห็นกลีบดอกไม้ละลานตาไปหมด เปิดเผยความในใจด้วยสายตาให้เขารับรู้
“ดร.ลิซ่า!” ชายหนุ่มเลื่อนมือขึ้นไปสัมผัสแก้มของเธอเบา ๆ ดวงตาจับจ้องอยู่ที่ริมฝีปากอิ่มแน่วแน่
“คะ” พิมภัสวรับคำเสียงหวานดั่งละเมอ โอ…บรรยากาศ แบบนี้…เขาคงคิดจะจูบเราแน่ ๆ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ