บทที่ 13 ขา ในความโง่ของคุณ
#####บทที่ 13 ขำในความโง่ของคุณ
บทที่ 13 ข่าในความโง่ของคุณ ฟานหมิงมองเห็นลู่เฉินด้วยสายตาไม่พอใจ
ครั้งที่แล้วเขาถูกเสี้ยจุนบีบบังคับให้ขอโทษเฉิน เขาจำมันได้ ขึ้นใจต่อให้ตายก็คงไม่สามารถลืมได้
“แน่นอนว่าผมมาทำงาน ส่วนเรื่องตามรังควานคุณ ผมว่า คุณคงคิดมากไปเอง”
ลู่เฉินไม่ได้สนใจแววตาของฟานหมิงแม้แต่น้อย เขามองมาที่ หลินจุนด้วยท่าทางที่ไม่รู้จะพูดอะไร
“คุณลาออกไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ” หลินจุนถามลู่เฉินด้วย ความไม่เชื่อใจ ภายในใจเธอคิดว่าลู่เฉินไม่เชื่อใจเธอและตาม รังควานเธอมา
“ครั้งที่แล้วผมแค่ลางานเฉยๆ” ลู่เฉินตอบสั้นๆ เขาไม่อยาก อธิบายให้ยืดยาวเพราะรู้ดีว่าถึงอธิบายไป หลินจุนก็ไม่เชื่อเขา อยู่ดี
หลินจุนกำลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมาก็มีเสียงโทรศัพท์ ดังขึ้นเป็นสายของลูกค้าโทรตามเธอไปเจรจาหลังวางสายเธอ หันไปพูดกับลู่เฉินว่า “หึ ทางที่ดีคุณอย่าตามรังควานฉันอีกเธอพูดจบแล้วเดินจากไป
ลู่เฉินยักไหล่ เขาจะเอาเวลาว่างที่ไหนไปตามรังควานหลิน จุนกัน
“ไอ้หนุ่มน้อย ตอนนี้บริษัทถูกซื้อไปเรียบร้อยแล้ว ผู้บริหาร เสี้ยไม่ใช่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อีกต่อไป รอให้ผมได้รับความเชื่อใจ จากผู้ถือหุ้นรายใหญ่เมื่อไหร่ คอยดูว่าผมจะจัดการกับคุณยังไง” ฟานหมิงพูดกับลู่เฉินเมื่อเห็นว่าเขากำลังจะเดินจากไป
เมื่อไม่กี่วันก่อนเขาได้ข่าวเรื่องที่บริษัทถูกบุคคลลึกลับกวาด ซื้อไปด้วย
ตามความสามารถของเขา เขาเชื่อว่าผู้ถือหุ้นรายใหม่นี้จะ ต้องเห็นความสามารถและเชื่อใจเขาอย่างแน่นอน
เมื่อถึงเวลาที่เขาได้รับความวางใจจากผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่ นี้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวเสี้ยนอีกต่อไป ถึงตอนนั้นเขาจะ จัดการเงินก็เป็นเรื่องง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยด้วยซ้ำ
ลู่เฉินได้ยินคำพูดของท่านหนึ่งจึงหันหลังไปมองเขาด้วยรอย ยิ้มแปลกๆ
“คุณหัวเราะอะไร? ” ฟานหมิงถามขึ้น เขาเกลียดการกระทำที่ ไม่เห็นหัวใครแบบนี้ของลู่เฉินมากที่สุด
“ผมขำ ในความโง่ของคุณ” ลู่เฉินยักคิ้วพูด
ที่แท้ฟานหมิงคอยประจบก็เพื่อที่จะจัดการกับตัวผม แต่กลับ ประกาศตนเป็นศัตรูแบบนี้ ถ้าไม่เรียกว่าโง่จะให้เรียกว่าอะไร
“หึ คอยดูเถอะ คุณอย่าดีใจจนเกินไป ประชุมวันศุกร์นี้ผู้ถือหุ้น ใหญ่รายใหม่จะมาร่วมประชุมด้วย เกรงว่าวันดีๆ ของคุณคง เหลือไม่เยอะแล้วล่ะ อ้อ จะบอกอะไรให้คุณนะ ลูกค้าคนที่ภรรยา คุณต้องไปพบนั้น ขึ้นชื่อว่าจอมเจ้าชูทีเดียว ถ้าเธอไม่ยอมขึ้น เตียงกับเขา รับรองว่าเขาไม่ยอมเซ็นต์สัญญาให้ภรรยาคุณ หรอก รอโดนสวมเขาให้สนุกแล้วกัน” ฟานหมิงพูดอย่างหยอก ล้อ
“ผมว่าคุณคงต้องผิดหวังเสียแล้วนะ ผมจะบอกความจริงให้ ฟัง วันนี้เขาไม่เพียงแต่ไม่กล้าแตะต้องเธอแม้แต่ปลายเล็บ ยัง ต้องขอร้องภรรยาผมให้ช่วยเซ็นต์สัญญาอีกด้วย ไม่เชื่อรอดูก็ แล้วกัน” ลู่เฉินยิ้มหน้าตายแล้วเดินออกจากบริษัทไป
หากลู่จงเป็นคนออกหน้าให้ยังไม่สามารถจัดการได้กระทั่งผู้ จัดการอสังหาริมทรัพย์ธรรมดาคนหนึ่ง เขาก็ไม่ควรคู่กับบ้าน ตระกูลลู่อีกต่อไป
หลินจุนหนอหลินจุน คุณไม่เชื่อว่าผมเป็นทายาทเศรษฐีใช้
ไหม
ตอนนี้ผมจะใช้การกระทำบอกคุณเองว่าผมไม่เพียงแต่เป็น ทายาทเศรษฐีแต่ยังเป็นทายาทเครือการค้าแห่งโจวที่ทุกคน เคารพนับถือด้วย ช่วยคุณน่ะเหรอ ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วย
ถ้าคุณรู้เข้าว่าผมคอยช่วยเหลือคุณมาโดยตลอด จะมีสีหน้ายังไงกันนะ?
ลู่เฉินคิดแล้วยิ้มในใจเขาเป็นโรคจิตไปแล้วใช่ไหมนี่ภรรยา ของเขาแท้ๆ ทำแบบนี้จะดีจริงเหรอ แม้ว่าช่วงนี้เธอมักจะหาเรื่อง บนเขาประจำก็ตาม
เขาส่ายหัวสะบัดความคิดนี้ออกไปจากหัวแล้วเดินตรงออกไป จากบริษัท
“ขอร้องให้หลินอี้จุนเซ็นต์สัญญาเหรอ คุณฝันกลางวันอยู่หรือ ไง?” ฟ่านหมิงยิ้มเยาะตามหลังเฉินไป ลูกค้ารายนั้นเอาใจยาก ขนาดไหนเขารู้ดีแก่ใจ เขาเคยเชิญชวนไปร้านอาบอบนวด (แบบ ที่มีผู้หญิงขายบริการ หลายต่อหลายครั้งแต่ไม่เป็นผลสำเร็จ
ตาเฒ่าลามกนี้หากไม่ได้ประโยชน์อะไรจากตัวหลินจุน จะ ยอมเซ็นต์ง่ายๆ ได้ยังไง?
ฟานหมิงหัวเราะแล้วจากไปพบลูกค้าของเขา
ณ ห้องอาหารตะวันตกพรีเมียมฮิลตัน หลิวไห่ซานดื่มเหล้าไป ไม่น้อย มือไม้เริ่มเป็นปลาหมึก
“คุณหลิน คุณเอาแต่กินอาหารไม่ดื่มเป็นเพื่อนผมเลย คุณไม่ ให้เกียรติผมงั้นเหรอ?” หลิวไห่ซานยื่นมือมาหวังวางที่ต้นขา หลินจุน แต่เธอไหวตัวทันหลบได้เสียก่อน สีหน้าเขาเปลี่ยน ทันที
“ผู้จัดการหลิวเข้าใจผิดแล้วค่ะ สองสามวันมานี้ดิฉันรู้สึกไม่ ค่อยสบาย ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์เท่านั้นเอง” หลินจุนรีบตอบด้วยรอยยิ้ม แต่ภายในใจโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ถ้า ไม่ใช่ไม่มีทางอื่นเลือก จ้างให้เธอก็ไม่มาพบหลิวไห่ซานคนนี้ หรอก
“คุณหลินครับ ถ้าเป็นแบบนี้ผมว่าเราคงไม่มีเรื่องอะไรต้องคุย กันแล้วนะ”
หลิวไห่ซานพูดข่มขู่เธอ “คุณน่าจะพอได้ยินมาบ้างว่าในย โจวมีเพียงบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจียของคุณผลิตสินค้านี้ แต่ เรื่องคุณภาพนั้นคงเอามาเปรียบเทียบกับบริษัทในเมืองอื่นไม่ได้ ผมขอพูดตามตรงนะว่าโรงงานอิเล็กทรอนิกส์ฉวนตูต้าลี่กำลัง เจรจาสินค้านี้กับทางเราอยู่เหมือนกัน ราคานำเสนอสินค้าของ พวกคุณทั้งสองพอๆ กัน แต่คุณภาพของคุณเป็นรอง ถ้าไม่มี ประโยชน์อื่น คุณคิดว่าผมจะซื้อสินค้าบริษัทคุณเพื่ออะไรกัน?”
เขาพูดวัตถุประสงค์ที่น่ารังเกียจแบบนี้ออกมาได้อย่างหน้าไม่ อาย
เขาพบเจอผู้หญิงมานับไม่ถ้วน แต่ไม่เคยเจอผู้หญิงที่งดงาม เพียบพร้อมแบบหลินอี้จุนเลย เขาเห็นเธอเพียงครั้งแรกก็รู้สึกคัน ไม้คันมือ ต้องเอาตัวเธอมาครอบครองให้ได้
หลินจุนขมวดคิ้วมองไปที่แก้วไวน์บนโต๊ะที่วางอยู่ตรงหน้า ด้วยความลังเล
เธอไม่คิดว่าหลิวไห่ซานจะเอาใจยากขนาดนี้
เมื่อเห็นท่าทีลังเลของหลินจุน หลิวไห่ซานยิ้มแล้วหรี่ตามอง สายตาจับจ้องไปที่เรือนร่างของเธอ
ผู้หญิงคนนี้มีกลิ่นอายความเป็นหญิงที่หอมหวานไปทั่วเรือน ร่างจริงๆ แค่มองก็รู้สึกได้ถึงความสดใหม่ชุ่มชื่นเหมือนลูกท้อ
ช่างคันไม้คันมือจริงๆ !
“คุณหลินครับ ผมเข้าใจดีว่าโปรเจคนี้สำคัญสำหรับคุณมาก คุณต้องการให้ผมเซ็นต์สัญญากับคุณไม่ใช่เรื่องยาก แค่คุณยอม ตามผมขึ้นไปคุยบนห้องสักหน่อย หลังจากเสร็จธุระผมจะเซ็นต์ สัญญาให้ทันที” หลิวไห่ซานได้โอกาสรีบพูดเสริม
เขาไม่เพียงแต่พูด แต่มือของเขาได้ยื่นไปวางบนขาอ่อนอัน ขาวผ่องของเธอแล้ว
จากสถานการณ์ในตอนนี้เขาคิดว่าคงใกล้ถึงเวลาแล้ว มั่นใจ ว่าหลินจุนไม่กล้าปฏิเสธเขาแน่
เพียะ!
หลินจุนได้สติก็ตบหน้าเขาโดยตรง
“ชาติชั่ว ขาดแคลนผู้หญิงหรือไง เห็นฉันเป็นอะไรงั้นเหรอ กับ แค่โปรเจคเล็กๆ แบบนี้คุณจะเซ็นต์สัญญากับใครก็ไปเลยนะ ฉัน จะไม่เอาแล้ว! ”
หลินจุนแม้จะให้ความสำคัญกับโปรเจคนี้มาก แต่เธอก็เป็น ผู้หญิงที่มีศักดิ์ศรีพอ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ลูกสาวเธอหายดีเป็นปกติแล้ว เธอ ไม่จําเป็นต้องคิดเรื่องยอมขายศักดิ์ศรีแลกเงินอีกต่อไป
หากเธอเป็นคนที่เห็นแก่เงิน ในตอนนั้นคงไม่สนใจต่อการ คัดค้านของครอบครัวและแต่งงานกับคนจนๆ แบบลู่เฉิน
“นี่คุณกล้าตบหน้าผมเหรอ? ” หลิวไห่ซานกำลังทำท่าจะสวน กลับหลังถูกตบเข้าอย่างจัง
ทันใดนั้นมือถือของเขาก็ดังขึ้น เมื่อเห็นว่าเป็นผู้จัดการจาก บริษัทติดต่อมา เขาทำได้เพียงสงบสติอารมณ์ไว้แล้วรับโทรศัพท์
“ครับ ผู้บริหารหวัง” หลิวไห่ซานรับสายด้วยน้ำเสียงปกติ
“ตอนนี้คุณกำลังเจรจาเรื่องตาไก่อิเล็กทริกกับผู้หญิงที่ชื่อหลิน อี๋จุนอยู่ใช่ไหม ? ” คนในสายโทรศัพท์พูดกับเขาอย่างเรียบเฉย
“ใช่ครับ” หลิวไห่ซานพยักหน้า ในใจรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ผู้ บริหารของเขาโทรมาถามเรื่องนี้ทำไมกัน เขารู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ ธรรมดาแน่
“นี่คุณไม่ได้กำลังทำให้เธอลำบากใจอยู่ใช่ไหม? ”
“หะ” ? หลิวไห่ซานตกใจ ผู้หญิงคนนี้คงไม่ได้รู้จักกับผู้ บริหารหวังใช่ไหม?
“บ้าเอ้ยแกรู้ไหมว่าเบื้องหลังเธอเป็นใคร เมื่อสักครู่ประธาน กรรมการกลุ่มแกรนด์ไฮแอท วินเยวี่ย โทรหาผมด้วยตัวเอง ให้ ผมอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น หลิวไห่ซานผมขอเตือนคุณนะรีบจัดการ เรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ต้องเสนอหน้ากลับมาที่นี่ อีก! ” ผู้บริหารหวังขึ้นเสียงดังจนคนข้างนอกได้ยินแล้ววางหูไป
ตอนนี้ในใจของหลิวไห่ซานสั่นสะท้าน เมื่อเขาหันกลับมาพบว่าหลินจุนกำลังจะเปิดประตูออกไปจากห้อง “เดี๋ยวก่อนครับคุณหลิน
หลิวไห่ซานไม่รอช้ารีบตามออกไปทันที
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ