ตอนที่ 6 พบกันโดยบัญเอิญ
ในที่สุดนัชชาก็มีปฏิกิริยาตอบสนอง สองวันที่เกิดเรื่องขึ้นเธอ ทนไม่ไหวเลยแต่คนที่อยู่ข้างหน้าเธอไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย คุณจะไม่ปล่อยฉันไปใช่ไหม ? ” เธอถามด้วยเสียงสั่นเทา เตชิตเงียบ คุณยั่วผมก่อนนะ”
ที่คลับเฮาส์วันนั้น เธอขวางทางเดินของเขาไว้ และให้ ‘เซอร์ไพรส์’ อันใหญ่กับเขา ความทรงจำที่ไม่ดีทำให้หลายปีที่ ผ่านมาเขาหมดความสนใจในตัวผู้หญิง ตอนนี้เขามีอายุเพียง สามสิบสองปีเอง เขาไม่สามารถเพิกเฉยต่อแรงกระตุ้นจากหญิง สาวแบบนี้ไปได้ตลอด
นัชชาได้ยินก็อยากจะตบหน้าตัวเอง ถ้าเธอรู้ฐานะที่แท้จริง ของเตชิตเธอคงไม่กล้าที่จะยั่วยุเขา
น่าเสียดายที่โลกนี้ไม่มียารักษาอาการเสียใจ
เตชิตก้มมองไปที่ผู้หญิงตรงพื้นและใช้เวลาครุ่นคิดสักครู่ แล้ว ก็เดินไปอุ้มเธอขึ้นและวางบนเตียง เธอยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า เรียบร้อยดี เขาก็ไม่ลืมที่จะคลุมเธอไว้ด้วยผ้าห่ม “จัดการตัวเอง ให้เรียบร้อยซะ ฉันจะไปประชุม”
นัชชาเห็นเขากำลังจะเดินออกไป ในใจมีความโกรธปะทุขึ้น มา เธอเอื้อมมือไปจับเสื้อของเขาแล้วสบตากับเตชิตจากนั้นเธอ พูดขึ้นด้วยความกล้าหาญ “ถ้าฉันอยู่กับคุณ คุณจะช่วยฉันแก้แค้นตระกูลกูลฤทธิเดชใช่ไหม ?”
เตชิตขมวดคิ้ว คาดไม่ถึงว่าเธอจะเปลี่ยนใจ “ใช่ ”
“ตกลง แต่ฉันยังมีอีกหนึ่งคำขอ ” นัชชาพูดขึ้นด้วยความกล้า ทั้งหมดของเธอ “ปีนี้ฉันอายุ 24 ปี และมันพึ่งผ่านวันเกิดมาไม่ นาน ปีที่แล้วก็พึ่งจะเรียนจบมหาลัยที่เกี่ยวกับกฎหมาย ฉันเป็น นักเรียนทุน ฉันเข้าใจเกี่ยวกับพวกกฎหมาย คุณสามารถช่วยให้ ฉันทํางานด้านกฎหมายได้ไหม ? ”
ประโยคที่ผ่านมาทำให้เตชิตอดตะลึงไม่ได้ เขาคิดว่าเธอ อยากจะขอเงินหรือขอของสักอย่าง คิดไม่ถึงว่าเธอจะขอแบบนี้ ที่ยิ่งให้เขาคาดไม่ถึงก็คือ เธอจบการศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายมา ด้วย
ในฐานะคนที่ทำงานด้านกฎหมายมาก่อนเขาจ้องมองผู้หญิงที่ อยู่ข้างหน้าอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก “เธออยากทํางานด้านกฎ หมายจริงๆ ใช่ไหม ? ”
นัชชาพยักหน้าอย่างมั่นใจ “ใช่”
“แล้วทําไมเมื่อก่อนถึงสละ ?”
นัยน์ตาของนัชชาเศร้าลง “เพราะ… แต่งงาน ”
ตอนนั้นจรรยาขอให้เธอแต่งงานทันทีหลังเรียนจบ พวกเขาไม่ ได้ต้องการให้ลูกสะใภ้ปรากฏตัวออกสื่อ เพราะจะเป็นปัญหา ทางหน้าสําหรับพวกเขา
และเวลานั้นนัชชาก็รักดวิษมากพอที่จะยอมทำตามทุกอย่างแต่สำหรับเรื่องของกฎหมายแม้ว่าความชื่นชอบอยู่
ตอนเธอบังเอิญไปกับเตชิตแล้ว ในเมื่อเตชิตไม่ยอม ปล่อยไป โดนสุนัขหนึ่งครั้งกับสองครั้งมันจะความแตก ต่างยังไงเธอจะต้องผ่านมันไปได้ เพราะหย่าแล้วเธอยังพ่อแม่ต้องให้ดูแลอยู่
เตชิตไม่พูดอะไรหยิบบุหรี่ออกตาแหลมคมวิเคราะห์เธอผ่านควันสีขาว ทำให้นัชชารู้สึก อึดอัด
เขาออร่าทําให้คนหวาดกลัว แค่แบบนี้ทำให้คนรู้สึก เครียด
ผ่านไปพักใหญ่บุหรี่หมดครึ่งมวน เขาเดินกลับไปเตียง ใหม่และมองลงเธอเหมือนกับจักรพรรดิ ปากพ่นควันออก มา ทำให้นัชชาอึดอัด
วันสองมาไวโรจน์วิลล่า เอา
ด้วย”
ชายกมือขึ้นควันไป ผู้ชายคนหันหลัง
เธอนั่งกอดตัวเอง ตอนเธอสามารถควบคุมทุกอย่างได้ แล้ว เธอรู้ว่าตัวเองหรือผิด แต่เธอตอนนี้เธอไม่ได้ อีกต่อไป ต้องให้ที่สุด
หลังจากออกจากเตน์ทลอว์เฟิร์ม นัชชาก็ได้รับโทรศัพท์จาก จินต์ ขณะที่คุยโทรศัพท์กันเธอไม่ได้บอกอะไรมาก แค่บอกกับ เขาว่า เตชิตยอมรับเรื่องเรียบร้อยแล้ว
“เตชิต ?” จินต์พูดเสียงดัง “เธอไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหมเนี่ย ?”
“ไม่นะ ฉันพูดจริงๆ ”
“เขาเป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุดในวงการกฎหมายเลยนะ มหาเศรษฐีมากมาย คนที่มีเงินมากตั้งเท่าไหร่ต่อแถวมาขอให้ เขาช่วยฟ้องร้องคดีแต่ก็ไม่มีโอกาส แน่ใจนะว่าเธอจะไม่ถูก หลอก ? ” จินต์ถามอย่างไม่น่าเชื่อ เตชิต สองคำนี้มันเป็นต นานจริงๆ
“จินต์ เรื่องนี้มันซับซ้อนมากนะ ฉันเองก็อธิบายไม่ถูก แต่เขา รับเรื่องไปแล้วจริงๆ” ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเตชิต นัชชา ยังไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดีเลยตัดสินใจไม่พูดดีกว่า
จินต์รู้ว่าเรื่องนี้เธอไม่ได้ล้อเล่น ในที่สุดก็ยอมเชื่อที่เอบอก “งั้นคุณก็ไม่ต้องกังวลอะไรแล้วละ เพราะบนโลกนี้ยังไม่เคยมีคดี ไหนที่เตชิตว่าความแพ้มาก่อน
นัชชานึกถึงผู้ชายที่ใช้กำลังนั้น เธอก็ขมวดคิ้ว “จะเก่งขนาด
ไหนกันเชียว ?”
“คุณเรียนกฎหมายมายังจะถามฉันอีกเหรอ ? บนโลกนี้คน แบบไหนที่น่ากลัวที่สุด ถ้าไม่ใช่คนรวยและก็ไม่ใช่คนมีอำนาจ ละก็ยิ่งไม่ใช่ภูตผีปีศาจ แต่คนที่น่ากลัวที่สุดคือคนที่ถือกฎหมาย เป็นอาวุธ และกฎหมายสำหรับเตชิตแล้ว มันเหมือนทำขึ้นมาเพื่อเขาจริงๆ ”
นัชชาอ้าปากกำลังจะพูดแต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร เธอคุยกับ จินต์อีกสองสามค่าก็วางสาย เธอเดินมาถึงที่รถไฟใต้ดิน ตอนที่ รอรถไฟฟ้าสักแปปเธอก็เข้าเว็บเพจหาข้อมูลของเตชิต
ตั้งแต่ประถมจนถึงมัธยมก็ได้เรียนโรงเรียนที่ดีที่สุดใน ประเทศ พออายุ 22 ปี ก็ได้เข้าเรียนที่มหาลัยเคมบริจน์ คณะ นิติศาสตร์ พอเรียนจบกลับมาที่ประเทศบ้านเกิดก็ว่าความชนะ หลายคดี ได้รับการว่าจ้างเป็นอาจารย์ที่มหาลัยชั้นนําของ ประเทศ และยังเป็นหัวหน้าที่ปรึกษาด้านกฎหมายกว่าห้าร้อย บริษัททั่วโลก หลังจากนั้นก็ได้ก่อตั้งบริษัทกฎหมายขึ้นมากับ ธนัทเพื่อนของเขาทำให้มันเป็นบริษัทกฎหมายที่ดีที่สุดใน ประเทศ แต่มีข้อมูลเกี่ยวกับครอบครัวแล้วก็ชีวิตส่วนตัวของเข น้อยมาก แต่คงไม่มีใครมีเวลามากพอที่จะไปสอดส่องชีวิตของ ทนายใหญ่แบบนั้นหรอก
นัชชาปิดหน้าเว็บอย่างเงียบๆ นึกถึงคำพูดของเตชิต หวังว่า วันต่อไปที่จะมาถึงชีวิตของเธอมันจะไม่ต้องมีอุปสรรคอะไรมาก ไปกว่านี้
แม้ว่าเธอไม่อยากกลับไปนิเวศน์วิลล่าแต่ที่นั่นยังมีหนังสือ รับรองที่สำคัญที่ต้องไปเอาอยู่ เมื่อเดินออกมาจากรถไฟฟ้าเธอก็ ตัดสินใจเดินจากประตูใหญ่ของหมู่บ้านไปถึงประตูบ้านดวิษ ระหว่างทางเห็นรถ Mercedes Benz สีดำที่คุ้นตาอย่างมากขับผ่านไป และนั่นเป็นป้ายทะเบียนรถของด
นัชชาไม่อยากไปแอบมองและก็ไม่อยากสนใจด้วยแต่รถคัน นั้นกลับขยับเป็นจังหวะขึ้นมา……
นี่มันด้านหน้าวิลล่าเลยนะอดใจไม่ไหวขนาดนั้นเลยเหรอ นี่ มันกลางวันแสกๆ เลยนะ? นัชชาก้าวเท้าอยากเดินจากไปทันที หลังจากเห็นภาพ ทันใดนั้นเองในใจก็คิดถึงคำว่าหลักฐานที่ ทนายดร บอกว่าจําเป็นต้องใช้ เธอจึงแอบเดินเนียนไปซ่อนตัว อยู่หลังต้นไม้แถวๆ ที่รถจอดอยู่ หยิบโทรศัพท์ออกมาเตรียมเปิด กล้องเพื่อที่จะถ่ายรูปเอาไว้ เธอพยายามที่จะเข้าใกล้ขึ้นอีกเธอ เดินไปหยุดที่ตรงใกล้ๆพวกเขา แล้วคุกเข่าลง จนได้ยินเสียงที่ ดังชัดเจน
“ดวิษ… ” นี่เป็นเสียงเรียกของปณิตา
ถัดมาเป็นเสียงของดวิษที่กัดฟันถาม “ยังไม่พออีกเหรอ หือ ? ”
“ฉันรักคุณดาษ รักมากจริงๆ ”
“ผมก็รักคุณ”
ไม่ว่ามันจะเป็นแค่คำพูดลวกๆ หรือไม่แต่ว่าคำคำนี้ ทำให้นัก ชาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ตัวเธอแต่งงานกับเขามาหนึ่งปีก ว่า เธอไม่เคยได้ยินคำว่ารักออกมาจากปากของดาบเลยสักครั้ง
“เราเหมาะสมกันดีนะ คุณดูสิพวกเราเข้ากันได้ดีมาก…”
“ผมเคยบอกคุณแล้ว ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับนัชชา ไม่เหมือนคุณ คุณเหมือนเกิดมาเพื่อผม….”
สองคนนั้นพูดจากันอย่างน่าขยะแขยงได้แบบหน้าตาเฉย นัช ชาได้ยินแบบนั้นก็เหมือนหัวใจถูกกรีดจนเป็นแผลฉกรรจ์ เธอรัก คนๆนี้มาตั้งหลายปีแต่เขาไม่เคยเห็นเธออยู่ในสายตาเลยแม้แต่ ครั้งเดียว
ระหว่างที่คิดแบบนั้นกิจกกรมเข้าจังหวะแบบบ้าคลั่งของทั้ง สองคนก็ได้หยุดลง
หลังจบกิจกรรมทางเพศปณิตาก็ได้กระซิบถามดวิษเบาๆว่า “ดาษ ถ้าคุณไม่ได้รักนัชชา ทำไมคุณถึงได้แต่งงานกับเธอล่ะ ? “
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ