ตอนที่ 12 คนเลวที่รีบไปฟ้องแม่
นัชชาสังเกตเห็นสีหน้าที่ไม่มีการแสดงอารมณ์ใดๆของเขา เมื่อกี้ที่เห็นอาจเป็นเพราะเธอตาลายแล้วคิดไปเอง
เตชิตรู้สึกตกเข้าเมื่อเข้าสู่ห้วงความคิดในบางความทรงจำ ของอดีต เขาไม่ตอบแต่กลับเปลี่ยนเรื่องคุย “พรุ่งนี้ส่งประวัติ ส่วนตัวของเธอมาให้ฉันทางอีเมลด้วย”
นัชชา “คุณจะเอาไปทำไมคะ
“ใช้ในการสมัครทํางาน
“คุณหางานให้ฉันเจอแล้วเหรอ ทำไมเร็วจัง” นัชชากลืนโจ๊ก ด้วยความเร็ว “งานอะไร ที่ไหน ประวัติทางบริษัทเป็นคนขอเหรอ แต่ฉันไม่เคยมีประสบการณ์การทำงานมาก่อน…
“ถ้าหากว่าเธอเคยมีประสบการณ์มาก่อน ฉันก็คงไม่ต้องออก หน้าเองแบบนี้หรอก”
คำพูดของเตชิตทำให้นัชชาหน้าเสียเพราะนี่ก็เป็นหนึ่งในเรื่อง ที่เธอขอร้องเขา เธอก็ไม่สบายใจที่ใช้อำนาจอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น
“เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายรึเปล่า”
เตชิตเห็นแววตาที่เปล่งประกายด้วยความอยากรู้ของหญิง สาว ทำให้เขาไม่อยากตอบแบบง่ายๆ อยากแกล้งเธอ “อยากรู้ เหรอ”
นัชชาพยักหนาด้วยความตื่นเต้น “อยากรู้ๆ”
“มานั่งนี่สิ”
ตบที่ต้นขาตัวเอง
ความตื่นเต้นกับสายตาที่อยากรู้เมื่อค่อยๆหายไป “อยู่ดีๆฉัน ก็ไม่ค่อยอยากรู้แล้ว แหะๆ
เขายกยิ้มมุมปากเพราะนี่เป็นสิ่งที่เขาต้องการ เตชิตก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ มองมาทางเธอแวบหนึ่ง แล้วหันหลัง เดินขึ้นบันไดไป
หลังจากที่กินข้าวเสร็จ นัชชาก็ทำการกรอกประวัติลงเอกสาร พร้อมกับแนบวิดีโอที่เธออัดเมื่อวาน ส่งให้กับเตชิต
พอคิดถึงงานอารมณ์ที่ไม่ดีเมื่อสองสามวันก่อนก็ทำให้รู้สึก
อารมณ์ดีขึ้นมาอย่างประหลาด แต่แล้วอารมณ์ก็ดีได้ไม่นาน
เพราะมีสายเข้า
สายเรียกเข้าจากแม่
นัชชาหยิบโทรศัพท์แล้วเดินไปหยุดตรงหน้าต่าง สูดหายใจ เข้าแล้วจึงกดรับสาย “ฮัลโหล ว่าไงคะแม่ ทำไมอยู่ดีๆถึงโทร มา”
ตามคาด ณัชชนม์คุณแม่ของเธอที่อยู่ในสายตอบกลับด้วย เสียงเรียบ “นัช ตอนนี้ลูกอยู่ไหน
ดวิษโทรมาบอกว่าลูกไม่กลับบ้านมาหลายวันแล้ว เกิดอะไรชิ้นงั้นเหรอ”
ไม่นึกว่าดวิษจะเป็นคนแบบนี้ เขากลับกล้าฟ้องก่อนทั้งๆที่เขา
เป็นคนผิด เขาคงคิดว่าเธอคงไม่บอกเรื่องนี้กับแม่แน่ๆ หลังจากที่ใช้ชีวิตร่วมกันมาร่วมปี ควินรู้ดีว่าเธอเป็นคนยังไง
ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยจริงใจกับเธอก็ตาม
“แม่ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเดี๋ยวพวกหนู จัดการกันเอง”
“ลูกก็บอกมาว่ามีปัญหาอะไรกัน” ณัชชนม์ไม่รู้ว่าเกิดอะไร ขึ้นแต่คิดแค่ว่านัชชายังเด็กเกินไป “นักลูก สามีภรรยาทะเลาะมี ปากเสียกันเป็นเรื่องปกติ เหมือนลิ้นกับฟันนั่นแหละแต่เดี๋ยวก็ดี กัน ดาษเขาอาจจะอยากคืนดีกับลูกแต่ไม่มีโอกาสเพราะลูกเล่น ไม่กลับบ้านแบบนี้ ลูกทำไม่ถูกนะ
นัชชาไม่ได้รู้สึกโกรธเพราะแม่ของเธอไม่รู้ความจริง แต่ก็อด ไม่ได้ที่จะรู้สึกน้อยใจ “แม่ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ แม่กับพ่อดูแลตัว เองให้ดีแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว”
“ตอนนี้รีบกลับบ้านเถอะนะ อย่ามัวเตร็ดเตร่อยู่ข้างนอก ลูก แต่งงานแล้วถ้าเกิดทางบ้านสามีรู้เรื่องมันจะไม่ดี” ณัชชนม์
นัชชารู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม เพราะทุกครั้งที่มีปัญหากันพวกเขา มักจะมองว่าปัญหาเกิดจากเธอ แต่คนในบ้านของฝั่งสามีกลับ เอาการที่เธอเป็นคนยอมคนง่ายๆมาเป็นจุดอ่อนในการทำร้าย เธอ
ยิ่งนึกถึงหน้าจรรยาก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเกลียด
หลังจากที่พูดให้แม่สบายใจเธอก็วางสายแล้วจึงกดหารายชื่อ ดวิษจากผู้ติดต่อที่ถูกบล็อกแล้วกดโทรออก ไม่นานปลายสาย รับ นัชชาหัวเราะเยาะก่อนหน้านี้เธอโทรหาเขาตั้งหลายสายแต่
ไม่รับ พอมาตอนนี้เธอขอหย่าเขากลับรับสายอย่างรวดเร็ว
“กว่าจะโทรกลับมาได้ แต่พอคิดดีดีคนเดียวที่ทำให้เธอกลับ มาได้ก็คือแม่ของเธอนี่แหละ
นัชชารู้สึกโมโห “ดาษ หน้านายนี่มันช่างด้านกว่าที่ฉันคิดไว้ เยอะนะ เกิดเรื่องเลวร้ายแบบนี้ขึ้นนายยังกล้าแบกหน้าไปฟ้อง แม่อีก เหลือเชื่อจริงๆ!
“แล้วไง เพราะฉันรู้ถึงยังไงเธอก็ไม่กล้าบอกแม่เธอ
“ใช่ ฉันไม่กล้า แต่รอวันที่เราอย่ากัน นายก็คอยดูว่าฉันจะ กล้าหรือไม่กล้า”ที่เธอไม่บอกอะไรตอนนี้เป็นเพราะนัชชาไม่ อยากให้ที่บ้านเป็นกังวล
ดวิ ฟังจากน้ำเสียงที่แน่วแน่ของเธอก็เกิดโมโหตบโต๊ะที่ห้อง ทำงานเสียงดังลั่น “นัชชา ฉันจะพูดอีกรอบว่าฉันไม่มีทางหย่ากับ เธอแน่นอน อย่าฝันหวานไปเลย! ”
“นี่ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะพูดเองเออเองได้” นัชชาไม่อยากพูดให้ มากความ “ตอนนี้คุณอยู่ไหน เรามีเรื่องต้องคุยกัน
ดวินมองไปรอบๆกำลังจะตอบว่า “บริษัท” แต่กลับเปลี่ยนใจตอบว่า “อยู่บ้าน” แทน
นัชชาจึงตัดสายทิ้ง ไม่อยากคุยกับเขาแม้แต่วินาทีเดียว
เธอเปลี่ยนชุดหยิบกระเป๋าแล้วกำลังจะเดินออกจากห้องนอน แต่ทันทีที่ประตูห้องถูกเปิดก็เห็นเตชิตเดินตรงมาทางนี้พอดี
เตชิตเห็นเธอเปลี่ยนเป็นชุดออกนอกบ้าน เขาจึงถามด้วยน้ำ
เสียงที่ไม่ค่อยสบอารมณ์ “เธอจะออกไปไหน
“ออกไปพบแม่ แม่บอกว่าธุระด่วนจะคุยด้วย” นัชชาไม่กล้า พูดความจริงเพราะครั้งก่อนแค่คุยทางโทรศัพท์เขาก็ไม่ค่อย พอใจแล้ว ถ้าครั้งนี้เขารู้ว่าเธอออกไปเจอดาษ เขาคงหาเรื่องรัง แกเธออีกแน่ๆ
เตชิตได้ยินดังนี้ ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ พูดแค่ว่า “แต่เธอยังไม่ หายดี”
“ไข้ก็ลดแล้ว ไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว มีเรื่องด่วนมากบอกให้ ไปหาตอนนี้เลย” นัชชารู้สึกร้อนใจ เพราะเธอรู้ดวิษเป็นคนยังไง ถ้าเกิดเธอไปสายเขาอาจจะไปหาแม่เธอถึงที่บ้านเลยก็ได้
“เธอต้องกลับบ้านก่อนสองทุ่ม หวังว่าฉันจะเห็นเธออยู่ในบ้าน ตอนสองทุ่มตรง”
“โอเค รู้แล้วค่ะ ฉันไปก่อนนะ”
เตชิตเห็นของเธอเดินลงบันไดอย่างเร่งรีบ หลังจากเปลี่ยน รองเท้าที่หน้าบ้านเสร็จก็รีบเปิดประตูแล้วเดินออกไปเลย
เขาเปิดประตูเดินเข้าห้องนอน ในห้องว่างเปล่า เขารู้สึก เหมือนขาดอะไรบางอย่างไป
นัชชาขึ้นรถแล้วเดินทางมาถึงนิเวศน์วิลล่า ในหัวคิดถึงแต่ เรื่องที่ดวิษพูดกับแม่ไปเรื่อย พอเปิดประตูก็เห็นดวิษนั่งอย่าง สบายใจอยู่บนโซฟา ทำให้เธออารมณ์ขึ้น
“ดาษ คุณทําแบบนี้ไปเพื่ออะไร” นัชชายืนอารมณ์เสียอยู่หน้า ห้องรับแขก
เขาเงยหน้ามองไปที่เธอเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมานัชชาเป็น ภรรยาที่เรียบร้อยเชื่อฟังมาโดยตลอดแต่พอมาวันนี้เธอกลับต้อง หน้าเขา ไม่เคยเห็นด้านนี้ของเธอมาก่อน ทำให้รู้สึกว่าเขา ไม่เคยรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเธอเลย
เขายกขาพาดขึ้นบนโต๊ะ พูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ “ถ้าฉันไม่ ทำแบบนี้เธอจะกลับมาเหรอ เธอไม่กลับบ้าน นัชชาเธอเก่งกล้า ขึ้นเยอะเลยนะ”
นึกว่าตัวเองเป็นใคร นัชชาได้แต่คิดในใจเพราะไม่อยากหา เรื่องทะเลาะด้วย “ฉันขอเตือนนะว่าอย่าไปยุ่งกับพ่อแม่ฉันอีก ถ้าเกิดยังมีครั้งหน้าละก็ฉันจะประกาศให้ทุกคนในบริษัทรู้ว่า นายนอก ใจฉัน”
“ก็ลองดูสิ” ดวิษลุกยืนอย่างรวดเร็ว เดินเข้ามาหาเธอด้วย ความโกรธ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ