Ep.3
“เพราะเราสองคน ต่างก็แต่งงานกันแล้ว และเมื่อถึงเวลา นั้น ผมก็ต้องการให้คุณไปพูดกับแม่ของคุณ ด้วยเหตุผล ที่เราอาจจะต้องโกหกท่าน ว่าเราจําเป็นที่จะต้องเลิกกัน อาจจะบอกว่าคุณมีคนใหม่แล้ว หรือผมก็มีแฟนอยู่แล้ว แล้วเราสองคนก็เข้ากันไม่ได้ ถึงเวลานั้นท่านทั้งสอง ก็ อาจจะยอมให้เราทั้งคู่เลิกกัน”
“ถ้าคุณต้องการแบบนั้น ฉันก็คงไม่มีทางเลือกได้หรอก ค่ะ เพราะฉันก็ไม่คิดจะเลือกทางไหนอยู่แล้ว เพราะทางที่ ฉันเลือกก็แค่ทำให้แม่ไม่ต้องผิดคำสัญญาเท่านั้น และฉัน ไม่คาดหวังหรอกค่ะ ว่าจะให้คุณมารักฉัน และฉันก็อยาก จะบอกคุณเหมือนกันนะคะ ว่าฉันก็มีคนรักของฉันแล้ว เหมือนกัน แต่แฟนของฉัน เขาก็เข้าใจดีค่ะ เพราะเราสอง คนต่างก็คิดว่า หากเราเป็นเนื้อคู่กันแล้วสักวันหนึ่งเราก็ ต้องกลับมารักกันอีกจนได้ และคนรักของฉันก็ไปเรียน ต่อที่ต่างประเทศแล้วค่ะอีกประมาณ 2 ปีเขาก็จะกลับมา
“ถ้าเราตกลงกันได้แล้ว ผมก็ไม่มีปัญหาที่จะแต่งงานกับ คุณเพราะผมก็คุยเรื่องนี้กับแฟนของผมแล้วเหมือนกันว่า เราสองคนแต่งงานกันแค่ในนามเท่านั้น ผมหวังว่าเรื่องที่ เราคุยกันวันนี้ จะเป็นความลับระหว่างเราสองคนนะ”
“ได้ค่ะ”
ประมาณหนึ่งเดือนค่ะไปภูวดลกับน้ำหวานก็ได้แต่งงาน กันอย่างเอิกเกริก แล้วในวันเข้าหอ ภูวดลก็ไม่คิดที่จะ แตะเนื้อต้องตัวเจ้าสาวของเขา ต่างคนต่างก็นอนแยก ห้อง ซึ่งภูวดลก็ได้บอกแก่บิดาและมารดาของเขาว่า เขา กับน้ำหวานจะต้องศึกษาดูใจกันไปก่อนอย่างน้อยก็สัก สองสามเดือน เขาสองคนจึงขอแยกห้องนอนกัน ซึ่ง พ่อกับแม่ของภูวดลก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ต่างก็เข้าใจดี เพราะรู้ว่าหนุ่มสาวทั้งคู่ ยังไม่ได้คุ้นเคยกันมาก่อน ถ้า อย่างนั้นพวกเขาทั้งคู่ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ร่วมห้องกัน ตั้งแต่วันแรกที่แต่งงานกันก็ได้ ซึ่งทางผู้ใหญ่ทั้งสงฝ่าย ต่างก็คิดเหมือนกันว่า เมื่อทั้งสองหนุ่มสาวได้มาใกล้ชิด กัน ก็คงจะรักกันเองนั่นแหละ
ในช่วงครึ่งปีแรกน้ำหวานได้ตกลงกับคุณนายพิศมัยว่า เธอจะขอไม่อยู่ที่บ้านของคุณนายพิศมัยปีละหกเดือน หลังจากเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไปจนถึงสิ้นปี เธอก็จะ ไปอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ของเธอ เพราะคุณแม่ของเธอไม่ ค่อยสบาย ซึ่งคุณหญิงก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ว่าตอนนี้เป็น เดือนมกราคม เป็นช่วงต้นเดือนมกราคมที่สองหนุ่มสาว เพิ่งจะแต่งงานกัน คุณหญิงพิศมัยจึงต้องการให้น้ำหวาน มาทำหน้าที่ลูกสะใภ้ในบ้านหลังใหญ่นี้ก่อนดีกว่า แล้ว ค่อยพากันกลับไปบ้านของน้ำวหานที่แม่ฮ่องสอน
อย่างน้อยๆ ถ้าน้ำหวานอยู่ที่นี่ ก็เพื่อกันไม่ให้เด็กสาว เจนี่นั่น มาใกล้ชิดกับภูวดล และคุณนายพิศมัยก็หวัง เป็นอย่างยิ่งว่า ในช่วงเวลาพี่น้ำหวานมาอยู่กับภูวดล จะ ทำให้สาวเจนี่นั่น อาจจะเริ่มห่างออกไปเรื่อยๆ แล้วความรักของทั้งคู่ก็คงจะจืดจางไปในที่สุด
แล้วเมื่อน้ำหวานมาอยู่ร่วมบ้านเดียวกันกับภูวดล ต่าง คนต่างก็ทํางานของตัวเอง ซึ่งพวกเขาสองคนก็ทำงาน คล้ายๆกัน นั่นคือการวาดรูป น้ำหวานเองก็มีห้องทำงาน ของเธอหนึ่งห้อง ซึ่งคุณหญิงพิศมัยได้ยกห้องหนึ่ง ให้ เป็นห้องทำงานของลูกสะใภ้ ส่วนภูวดลก็ไม่มีอะไร เปลี่ยนแปลง เขาก็ยังคงนอนในห้องเดิมของเขา และ ทำงานในห้องทำงานเดิมของเขา
มีหลายครั้งที่ภูวดลแอบมาดูการวาดรูปของน้ำหวาน ซึ่ง เขาก็ทึ่งในฝีมือของเธอมาก เขาไม่คิดว่าน้ำหวาน จะวาด รูปธรรมชาติออกมาได้สวยงามมากขนาดนั้น
แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาใฝ่ฝันมานาน ก็คือวาดรูปเปลือยของผู้ หญิงซึ่งเขาเคยขอร้องให้แฟนสาวของเขา มาเป็นแบบให้ แล้วครั้งหนึ่ง แต่ว่าเจนี่ก็ไม่กล้าที่จะถอดเสื้อเปลือยกาย ให้เขาวาดรูปเธอได้
คืนนี้ภูวดลก็เลยคิดพิเรนทร์ขึ้นมา หลังจากที่ได้อยู่ร่วม บ้านกับน้ำหวานมาได้ประมาณหนึ่งอาทิตย์ ชายหนุ่ม ตัดสินใจเดินมาเคาะห้องนอนของหญิงสาว
ก๊อกๆ!
น้ำหวานเปิดประตูออกมา เธอกำลังอยู่ในชุดนอนบางเบาสุด เป็นผ้าซาตินนุ่มลื่นมันวาวสีครีมอ่อนๆ ดูละมุนมากในสายตาของภูวดล จนเขาแอบลอบกลิ่น น้ำลายลงคออีกใหญ่
“คุณมีธุระอะไรจะคุยกับฉันเหรอคะ
“ผมอยากจะจ้างคุณ มาเป็นแบบวาดรูปให้กับผม
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ