เขาคือใคร??
หนึ่งปีต่อมา
นาซาเก็บของลงในกระเป๋าผ้าสีขาวสะอาดตา หลังจาก
มาปฏิบัติธรรมที่วัดป่าแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานีอย่าง เรียบร้อย
หนึ่งสัปดาห์เต็มๆ ที่เธอหลบมาอยู่ที่นี่ ความเศร้าโศกที่ เพิ่งเสียมารดาไปด้วยโรคมะเร็งทำให้นาชาจิตใจหดหู่
โชคดีที่ตอนนี้น้าเอ็มมี่คนคุ้นเคย มาอยู่เป็นเพื่อนและ อาสาที่จะดูแลนาวาในระหว่างที่เธอมาปฏิบัติธรรมและมี น้ามดคอยดูแลทำให้นาชาคลายใจเป็นอย่างมาก
หญิงสาวโทรหาน้ามดและพูดคุยกับน้องชายเล็กน้อย น้ามดบอกว่าลูกของน้าเอ็มมี่แวะมาเที่ยวเมืองไทยนาชา ได้แต่ฟังแล้วลือออ
หญิงสาววางสาย ก่อนที่จะกราบลาแม่ชีที่วัดแล้วเร่งรีบ ขับรถกลับกรุงเทพ
อีกแปดถึงเก้าชั่วโมงนาชาคิดว่าตนเองคงจะขับรถถึง ปลายทาง เมื่อกลับมาสู่ความวุ่นวายของท้องถนนทำให้ สมองของนาชาที่สงบลงไปได้เป็นสัปดาห์เริ่มคิดฟุ้งซ่าน ขึ้นมาอีกครั้ง
เขาคนนั้นตอนนี้จะยังจำเธอได้หรือเปล่านะ
หลังจากวันนั้นนาชาก็ไม่ได้พบเควิลอีก ส่วนเพื่อนสาว ยัยกุ๊กไก่ก็ติดต่อผู้ชายให้เธออีกหลายคน
แต่นาซาได้เงินจากเควิลมาพอสมควรอีกทั้งไม่คิดว่าจะ รับแขกได้อีกแล้วเธอจึงปฏิเสธยัยกุ๊กไก่ไปอย่างแข็งขัน จนสุดท้ายเพื่อสาวก็เลิกกวนใจเธอ
ยัยกุ๊กไก่ยังคงกวนใจเธอด้วยคำพูดที่ว่านาชาโง่ต้อง ทำงานเป็นเอ็มซีและยืนเมื่อยขาเป็นพริตตี้ทั้งวันได้เงิน ไม่กี่บาททำไมยังทำ สู้ให้ผู้ชายเลี้ยงสวยๆ ไม่ดีกว่ายังคง ลอยเข้าหูทุกครั้งเมื่อเจอกัน
นาชาไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องหาเงินด้วยวิธีการนั้นอีกทำไม ในเมื่อความจำเป็นในเรื่องของมารดาก็หมดลงไปแล้ว
เงินที่เควิลให้มาแน่นอนว่าหมดลงไปอย่างรวดเร็ว แต่ เพราะคุณเอ็มมี่เพื่อนของคุณแม่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ จึงทำให้นาชาไม่ลำบากอีกต่อไป
แม้ว่าเงินค่ารักษาพยาบาลมารดาจะเป็นเงินที่เยอะ มากสำหรับนาชาแต่คุณน้าเอ็มมี่ก็ไม่เร่งร้อนเพราะในใจ ต้องการช่วยเหลือโดยไม่หวังอะไรอยู่แล้ว
แต่เมื่อเห็นว่านาชาเกรงใจตนเองเพียงใดน้าเอ็มมี่จึงไม่ ขัดข้องเพียงแต่บอกว่าหากนาชามีก็ผ่อนชำระหากไม่มีก็ ไม่ต้องกังวลจึงทำให้นาซาสบายใจที่จะหาเงินมาอย่างไม่ กดดันอะไรมากนัก
เมื่อน้าเอ็มมีได้ยินข่าวว่าแม่ของนาชาป่วยหนักจากน้า มด ก็รีบบินมาจากต่างประเทศทั้งน้ำตาพร้อมคำต่อว่าที่ แม่ของนาชาปิดบังอาการป่วยของตนเอง
แม่ของนาชาได้แต่ยิ้มแล้วตอบว่า เพราะคิดว่าต้องตา ยอยู่แล้วจึงไม่อยากให้ใครมาลําบาก ขอไปอย่างสงบดี กว่า
น้าเอ็มมี่ดูแลแม่ของนาชาเหมือนเป็นพี่สาวแท้ๆ ของตัว เองอย่างดีจวบจนท่านจากไปอย่างสงบสุข บุญคุณครั้งนี้ นาชาไม่อาจลืมและซาบซึ้งใจนัก
น้าเอ็มมี่ยึดครองบ้านหลังเล็กๆ ของเธอเหมือนบ้านของ ตัวเองแล้ว บ้านหลังนี้แม้จะไม่ใญ่โตแต่ก็มีบริเวณที่กว้าง ขวางด้วยอดีตเคยเป็นสวนผลไม้มาก่อน น้าเอ็มมี่สมัย เรียนมหาวิทยาลัยก็เคยอาศัยอยู่ที่นี่
ในอดีตน้าเอ็มมี่เองก็มีฐานะที่ลำบากขาดเหลืออะไรเป็น ตายายที่ช่วยเหลือจนน้าเอ็มมี่เรียนจบมหาวิทยาลัย และ บังเอิญได้ดิบได้ดีเพราะสามีเป็นคนต่างชาติ ด้วยเหตุนี้ น้าเอ็มมีจึงรักแม่และน้ามดเหมือนเป็นพี่สาวน้องสาวแท้ ๆ ของตัวเอง
นาซาจอดรถหน้าบ้านพร้อมบิดขี้เกียจอย่างเมื่อยล้า มองนาฬิกาข้อมือเห็นว่าตอนนี้ตีสองกว่าแล้ว
ไฟในบ้านยังสว่างอีกทั้งในโรงจอดรถนอกจากรถของ น้าเอ็มมี่แล้ว นาชายังเห็นรถเบ้นซ์คันสีขาวคันหนึ่งจอด ข้างๆ กัน
หญิงสาวย่นหัวคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัยเพราะไม่ เคยเห็นรถรุ่นนี้มาก่อน เธอถือกระเป๋าผ้าของตนเองออก จากรถแล้วเดินเข้าไปในบ้าน
ด้านในตรงระเบียงที่ยื่นออกไปตรงริมสระบัวข้างบ้าน ตรงระเบียงนั่งเล่นไม่ได้เปิดไฟ
นาชาเห็นผู้ชายหนุ่มสองคนที่กำลังนั่งหันหลังเล่นกีตาร์ อย่างสบายอารมณ์ดวงตาของพวกเขาดูเหมือนจะเหม่อ ลอยไปยังสระบัวของนาชา
ด้านข้างของเขามีเบียร์หลายกระป๋องวางอยู่ดูแล้วน่าจะ ดื่มหมดแล้ว
ในถังน้ำแข็งใบเล็กมีเบียร์อีกหลายกระป๋องคนตัวโตร่าง สูงดีดกีตาร์ส่วนคนที่ตัวเล็กกว่ากำลังร้องเพลงคลออย่างมีความสุข
เสียงของผู้ชายคนนั้นไม่ได้เพราะมากแต่เมื่อเข้ากันกับ เสียงกีตาร์ที่ไพเราะแล้วก็ฟังดูไม่ได้ขัดหูสักเท่าใด หญิง สาวคิดว่าแขกที่ว่าคงเป็นลูกชายของน้าเอ็มมี่ตามที่น้ามด บอก
เธอมองไม่เห็นหน้าของพวกเขาจึงจินตนาการในใจ อย่างรวดเร็วว่าทั้งสองคนคงหน้าตาดีไม่น้อยด้วยรูปร่าง ที่ดูดีขนาดนี้แม้จะในความมืดก็ทำให้ดูออก
ไร้วี่แววของน้าทั้งสองนาชาคิดว่าหญิงชราทั้งสองคนก็ คงจะนอนแล้วกระมังด้วยตอนนี้ดึกมากแล้ว
นาชาเห็นแขกสองคนที่ทําราวกับว่าเป็นเจ้าของบ้านเสีย เองกําลังสบายอารมณ์จึงคิดจะเดินเข้าไปทักทายในใจ คิดว่าพวกเขาคงเมาแล้วจึงไม่ได้ยินเสียงรถของเธอมา จอดเพราะมัวแต่สนใจร้องเพลงเล่นกีตาร์กันแน่ๆ
ยังไม่ทันจะได้ทักทายแต่แล้วเสียงกีตาร์และเสียงเพลง ก็เปลี่ยนเป็นเพลงที่นาชาชอบฟัง
หญิงสาวจึงเปลี่ยนใจค่อยๆ ย่องขึ้นด้านบนแล้วเปิด ประตูเข้าห้องของตัวเอง เสียงกีตาร์ยังคงดังตามมา
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ