ตอนที่3 สมควรตาย
ได้เห็นภาพเช่นนี้ ใจของฉันสั่นไหว อยากถามเหลือ เกินว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พ่อกับแม่เดินเข้ามาหา แล้วตบ หน้าฉันเสียก่อน ร่างที่ถูกตบของฉันชนเข้ากับกำแพง ด้านหลัง ยังไม่ทันได้สติดี ก็ได้ยินเสียงพ่อด่า”ณิชา พวกเราเลี้ยงดูแกมาสามปี แกกลับ ตอบแทนพวกเรา แบบนี้เหรอ?”
มีเลือดปนอยู่ในปากฉัน ภาพตรงหน้าก็เลือนรางไม่ ชัดเจน
ฉันพยายามยันตัวลุกขึ้น มองไปที่พ่อ แล้ว ถาม “เพราะอะไรคะ…
“แกยังมีหน้ามาถามว่าเพราะอะไร? แกคิดว่าแกทำ เรื่องพวกนี้แล้วพวกเราจะไม่รู้งั้นเหรอ? แกวางแผน ทำร้ายพี่สาวของแก ให้เธอกินยานอนหลับ แล้วแก เข้าไปแต่งงานแทน! ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเรารู้เรื่องเร็ว รีบพายัยณาไปส่งโรงพยาบาลล้างท้องได้ทันป่านนี้จะ มีชีวิตรอดอยู่ไหมก็ไม่รู้!
พูดจบพ่อก็ยกมือขึ้นตบฉันอย่างแรงอีกครั้ง
ตบครั้งนี้ แรงกว่าครั้งก่อน ฉันถึงกับมึน ทิ้งตัวลงไป ที่พื้น
แม้ว่าตาจะพร่าไปแล้ว แต่ว่าสมองของฉันนั้นตื่นตัว ขึ้นมาเลยทีเดียว!
ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ พ่อกับแม่บอกฉันว่าจิณณากำลัง มีความรักกับฝางลี่เหวิน แต่ก็ไม่กล้าขัดขืนดนุนัย ดัง นั้นจึงต้องการให้ฉันแต่งงานแทน
วันก่อน ฉันไปส่งพี่สาวที่สนามบินด้วยตัวเอง มองดู พวกเขาจนถึงจุดตรวจเช็คก่อนขึ้นเครื่อง
จากต้นจนจบ ทําไมกลายเป็นฉันคิดร้ายกับจิณณา
ไปเสียได้?
สมองของฉันสับสนวุ่นวาย
ราวกับมีบางอย่างค่อยโผล่ขึ้นสู่ผิวน้ำ แต่ฉันก็ไม่ อยากจะเชื่อ
พ่อที่ดูเหมือนจะไม่บรรเทาความโกรธลงเลย หยิบ ม้านั่งไม้ด้านข้างขึ้นมา แล้วทุบมาที่หัวของฉัน!
ฉันกลัวจนวิ่งหาที่หลบ แต่ยังคงถูกตีที่ด้านหลัง!
มันเจ็บ!
ฉันเจ็บจนทนไม่ไหว แต่ก็กัดฟันไม่ร้องไห้ เหมือน ตอนป่วยแล้วถูกทิ้งไว้ที่บ้านเด็กกำพร้า
เพราะว่าตอนนั้นฉันไม่สบาย ปวดเมื่อยไปทั้งตัว ข้างกายก็ไม่มีใคร แล้วฉันจะร้องไห้หาใคร? เรียกร้อง หาใคร?
เวลาเนิ่นนานแล้ว ความเจ็บปวดได้เกิดขึ้นอีก ยังไง ฉันก็ไม่เอ่ยปากร้องง่ายๆ
พ่อเห็นฉันไม่ร้อง ก็ไม่ลดความโกรธ ตีฉันอีกหลาย ครั้ง ฉันกัดริมฝีปากตัวเองแน่น
ในที่สุด แม่มองดูต่อไปไม่ไหว คว้าม้านั่งยาว“ดีเลย งั้นก็ตีหล่อนให้ตายไปเลย!”
“สมควรตายแล้ว!”พ่อขว้างม้านั่งใส่ พูดด้วยความ โกรธ
ฉันได้ยินเสียงม้านั่งร่วงลง ถึงจะกล้าหยุดยืนนิ่ง เงยหน้ามองดนุนัยที่ตอนนี้อยู่ในอ้อมกอดของจิณณา แต่สายตากลับมองมาที่ฉัน แล้วเอ่ยว่า“ดนุนัย คุณดู สิคะ พ่อฉันตีขนาดนั้น จะไม่ใช่การวางแผนได้เหรอ เพราะหล่อนโตมาที่บ้านเด็กกำพร้าไงคะ มันอาจจะ เรียนสิ่งไม่ดีมา”
ถึงแม้ว่าเสียงของเธอจะมีความเห็นอกเห็นใจ แต่ว่า ฉันมองเห็นได้อย่างชัดเจน ท่าทีนั้นไม่ใช่ความเห็นใจ แต่มันคือแผนร้าย!
นี่ยิ่งทำให้ตรงกับที่ฉันคาดเดาไว้มากขึ้น!
ฉันยืนอยู่ที่มุมห้อง ไม่พูดอะไรสักคำ เพราะว่าตอน นี้หลังของฉันมันเจ็บมาก ฉันกลัวว่าถ้าพ่อจะตีอีก หลัง ของฉันต้องหักแน่ๆ
ตนนัยหันมามองฉัน นัยน์ตาดำขลับเป็นประกายนั้น มีความรู้สึกซับซ้อน ผ่านไปนาน จึงเอ่ยว่า”ไว้ค่อยพูด เถอะ”
พ่อเข้ามาดูฉัน แล้วด่าว่า”รีบขึ้นไปข้างบน ไม่งั้นฉัน จะตีแกให้ตายอีก!”
ฉันมองจิณณาที่นั่งอยู่ข้างๆดนุนัย แขนโอบกอด
ชายหนุ่มอย่างเสน่หา ทั้งสองต่างประสานนิ้วเข้าด้วย
กัน
อย่างนี้ถึงจะเรียกว่าสามีภรรยานะ…
ฉันมีอาการปวดหลังอย่างรุนแรง ต้องงอหลัง บันได สิบกว่าขั้นตรงหน้า สำหรับฉัน มันราวกับเป็นบันได สวรรค์ เดินขึ้นไปทีละขั้น ความเจ็บปวดจากจุดที่ถูกตี ทำให้ฉันเหงื่อแตกพลั่ก
ทว่า เปรียบกับร่างกายที่เจ็บปวดแล้ว ใจฉันเจ็บ ปวดมากกว่านัก!
ถึงแม้ว่าฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเรื่องกลายเป็นเช่นนี้ ได้ แต่ฉันเข้าใจชัดแจ้งแล้วว่า ฉันถูกวางแผนให้ร้าย แล้ว
ด้านหลังจิณณากำลังงอนกระเป๋ากระงอด ดนุนัยที่ กำลังปลอบใจ และพ่อแม่บอกรักอย่างทะนุถนอม
ฉันเข้าใจดี นั่นคือโลกของพวกเขา ฉันก็เป็นเพียงแค่ตัวตลกที่กระโดดไปมา ไม่สามารถเข้าร่วมกับพวก เขาได้ตั้งแต่แรก
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ