ตอนที่2 กอดจิณณาที่กำลังร้องไห้
ในตอนเช้า ฉันถูกปลุกให้ตื่นด้วยความเจ็บปวดรวด ร้าวของร่างกายส่วนล่าง ทุกอย่างในคืนที่ผ่านมาเป็นดั่ง เช่นฝันร้ายที่โหมซัดสาดอยู่ในความทรงจำ
ครั้งแรกของฉัน ค่ำคืนงานแต่งงานของฉัน กลับถูก ดนุนัยปฏิบัติเหมือนเป็นศัตรูกัน
ทำลายภาพที่ฉันคิดไว้ก่อนหน้านี้จนหมด
เตียงด้านข้างของฉันเย็นเยียบ
บนผ้าปูสีขาวราวหิมะมีหยดเลือดสีแดงเห็นได้ชัด
ฉันทนความเจ็บปวดลุกขึ้นและเดินไปที่ห้องน้ำเพื่อ อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า ดึงผ้าปูที่นอนออกมาเปลี่ยน
ออกจากประตู ฉันยืนอยู่บนบันไดชั้นสอง มองเห็น ดนุนัยนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร อ่านหนังสือพิมพ์ไปพลางกิน ข้าวเช้าไปพลาง
แสงอาทิตย์สีทองยามเช้าส่องผ่านด้านข้างของชาย หนุ่ม อบอุ่นและดูศักดิ์สิทธิ์
12 ปีของความรักที่แอบซ่อนไว้ ได้แต่งงานกับ เขา ได้ทานอาหารเช้าและอาศัยภายใต้หลังคาเดียวกัน เคยเป็นสิ่งที่ฉันไม่กล้าคาดหวัง ทั้งยังเป็นแค่เรื่องเพ้อ ฝัน
ตอนนี้กลายเป็นจริงแล้ว ฉันกลับไม่กล้าก้าวไปข้าง
หน้า
เมื่อคืนถูกเขาบุกรุกราวกับสัตว์ร้าย เมื่อไรก็ตาม ความทรงจำนั้นได้บอกให้ฉันรู้ว่าฉันไม่เคยรู้จักผู้ชาย นี้จริงๆเลย
“คุณจิณ คุณตื่นแล้ว
ขณะที่ฉันมองดนุนัย คนรับใช้ได้เห็นฉันแล้ว และ ทักทายฉันที่ชั้นล่างอย่างเกรงใจ
เธอไม่ได้เรียกฉันว่าคุณผู้หญิงเหมือนเมื่อวาน แต่เรียกฉันว่า“คุณจิณ”
ใจของฉันสั่นเล็กน้อย แม้ว่าจะมีความไม่พอใจเกิด ขึ้นในใจฉัน แต่เพราะสถานะของตัวเอง จึงไม่กล้าถาม ความหวาดกลัวจากเหตุการณ์เมื่อคืนแม้จะผ่านไปแล้ว แต่ยังทำให้ฉันหวาดผวาอยู่ในใจ ฉันลงมาชั้นล่าง นั่งลง ตรงข้ามดนุนัย
คนรับใช้นำอาหารมาเสิร์ฟ ฉันไม่มีความอยาก อาหารเลยจึงกินไปได้แค่สองคำ
เงยหน้าขึ้น จึงเห็นว่าดนุนัยเป็นเหมือนฉัน อาหาร ตรงหน้าแทบไม่ขยับ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะต้องการปรับบรรยากาศ หรือ เพื่อปรับปรุงให้การแต่งงานครั้งนี้จะยังสามารถดำเนินต่อ ไปได้หรือไม่ จึงใช้เสียงอ่อนโยนเอ่ยว่า“ขอโทษด้วยค่ะ วันนี้ฉันตื่นสายไปหน่อย แต่ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ฉัน จะตื่นมาทําอาหารเช้าให้คุณนะคะ”
ตัวของฉัน ถ้าจะมีเรื่องอะไรที่สามารถนับได้ว่าเป็น ความสามารถพิเศษ สิ่งนั้นน่าจะเป็นเรื่องทำอาหารล่ะ
พูดจบ เดิมทีฉันยังคงคงมีความคาดหวัง แต่ด นัย กลับวางมือลงบนโต๊ะอาหาร และลุกขึ้น แสดงท่าทีไม่ แยแส”ไปกันได้แล้ว รถรออยู่ด้านนอก”
“ไปไหนคะ?”ฉันมองไปที่ชายหนุ่มที่มีท่าทีไม่พอใจ ช่วงเวลานั้นฉันรู้สึกตื่นตระหนก
กังวลใจว่าตัวเองพูดอะไรผิดไป
ฉันไม่ใช่คนนิสัยเก็บตัว
ต่อหน้าดนุนัย แม้แต่การหายใจ ก็ต่ำต้อยราวกับพื้น
ดิน
ตอนนี้เขาเดินไปถึงประตูเพื่อเปลี่ยนรองเท้าแล้ว แล้วตอบโดยไม่หันหน้ามา“กลับไปไหว้บ้านฝ่ายหญิง”
ฉันนั่งอยู่ในรถของดนุนัย จนมาถึงบ้านจันทร์
ก่อนเข้าประตูไป ฉันคิดว่าที่ดนุนัยทำแบบนี้กับฉัน เป็นเพราะเขาไม่พอใจการแต่งงานครั้งนี้ มันไม่ได้เป็นเพราะค้นพบว่าฉันไม่ใช่พี่สาว
ทว่า เมื่อฉันเดินเข้าประตูไปกับเขา ได้เจอกับ จิณณาผู้ที่ฉันได้ไปส่งที่สนามบินเมื่อวานนี้ และในเวลา นี้ได้เจอกับพ่อแม่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น
ดวงตาบวมเหมือนลูกท้อ ราวกับร้องไห้มานาน
พ่อแม่ยืนอยู่ข้างๆเธอ สีหน้าโกรธเคือง
ฉันหันไปมองดนุนัย ปฏิกิริยาแรกคือ—เขารู้เรื่อง การแต่งงานแทนกันแล้ว เพราะว่ามีคนตามจิณณากลับ มาได้แล้ว
ใจของฉันนั้นหวาดกลัว
ดนนัยเป็นคนมีอิทธิพล ไม่อาจพูดว่าเขาเรียกลม เรียกฝนได้ แต่ถ้าหากใครคิดจะหาเรื่อง ไม่ใช่เรื่องยาก
เลย
ถ้าหากเรื่องนี้เป็นที่ฉันคนเดียวคงจบไปแล้ว แต่ ตอนนี้เกี่ยวข้องกับพ่อแม่และพี่สาว….
ฉันโทษตัวเองในใจ คิดจนวุ่นวายว่าจะอธิบาย อย่างไรดี แต่กลับเห็นดนุนัยก้าวเท้าไปหาจิณณาที่ กำลังร่ำไห้อยู่ข้างหน้า กอด เธอแล้วก้มหน้าลงปลอบ ใจ”คุณไม่เป็นอะไรนะ?”
สายตาของชายหนุ่มดูซึมซาบ เป็นความอ่อนอ่อนโยนที่ฉันไม่เคยเห็น
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ