ขอใช้ทั้งชีวิตแลกกับรักที่ยืนยาว

บทที่ 7 ผมไม่ใช่คนซื่อบื้อ



บทที่ 7 ผมไม่ใช่คนซื่อบื้อ

“คุณธาวินค้า ไหนตกลงกันแล้วว่าเป็นการแต่งงาน แบบเงื่อนไขไงค้า?”

ซัมเมอร์ตกใจแย่ ความเชื่อใจที่มีนั้นก็ได้พังลงวินาที

เดียว

เธอถูกตัวเขาทับไว้ ซีกแพกที่สัมผัสไว้ใกล้ชิด ลม หายใจที่ผสานกัน หัวใจทั้งสองดวงเต้นอย่างแรง เธอมอง เห็นความซ้อนเร้นภายใต้ตาของเขา เขารู้ว่าเธอกลัว

“กลัวมากเหรอครับ?”

ซัมเมอร์พยักหน้า แต่กลับได้ยินเขาพูดขึ้น“ซัมเมอร์ ที่ใจกล้าคืนนั้นไปไหนแล้วละครับ?”

ร่างกายเธอสั่นรุนแรงทีหนึ่ง หัวใจเหมือนมีคนบีบ แน่น ทั้งร่างกายเย็นแข็ง

“ที่แท้นายก็รู้แล้วเหรอ?”

เสียงของเธอสั่น ทั้งตัวสั่นไม่หยุด เพียงแค่เรื่องที่ หายใจเข้าหายใจออกแค่นั้น แต่เธอกลับเหมือนว่ามันนาน เหมือนรอมานานเป็นพันปี

“คุณนึกว่าผมเมางั้นเหรอ?”ธาวินขมวดคิ้วขึ้น คิ้วที่ แล้วลงแล้วเข้าทำให้เลบหล่อลมกว่าเดิม แต่กลับไม่ได้ดึงดุดหัวใจที่กำลังกลัวของซัมเมอร์

เธอกลืนน้ำไหลลงอย่างตื่นเต้น ดวงตาดูมือขึ้น ที่ จริงเขาไม่ได้ดื่มน้ำแก้วนั้นไปเลย จึงมีการแผนซ้อนแผน เกิดขึ้นมา

งี่เง่าที่สุด ยังคิดว่าตัวเองได้จัดเตรียมไว้อย่างดีแล้ว แต่กลับคิดไม่ถึงว่าตัวเองกลับเป็นคนที่โดนแผนคนอื่นไป สักงั้น

ทั้งร่างกายก็เบาลงไม่น้อย เธอดึงสติกลับ ธาวินก็ได้ ปล่อยเธอแล้วนอนข้างๆแล้ว เขาหลับตาแล้วพูดขึ้น ผม ยังไม่ถึงขั้นที่ต้องบังคับผู้หญิงคนหนึ่งมีความสุขแบบนั้น กับผม ครั้งหน้าอย่าลืมใส่ชุดชั้นในด้วย ผมไม่ใช่คนซื้อบื่อ จนเห็นแบบนั้นแล้วก็ไม่มีความรู้สึกอะไร

เธอหายใจเข้าลึกทีหนึ่ง เมื่อฟังคำพูดเขาแล้ว ก็รีบ ดึงเสื้อไว้ ที่จริงเหตุก็เกิดจากตัวเธอนี่เอง

หลายวันนี้ไม่ได้นอนสนิทเหมือนคืนนี้ อาจเป็นเพราะ ผ้าม่านที่ดึงให้แน่นสนิท เลยไม่เห็นแสงสีด้านนอก เลย คิดว่าวันนี้เป็นคืนนี้ที่ยาวไกล

ขยับตัวอย่างระหว่างที่พื้นที่ตัวเอง นอนหลับสนิทแต่ ก็มีช่วงที่ตื่นบ้าง คุ้นเคยกับการที่ลืมตาขึ้นมาดูเวลา ทำตาหยืมองอย่างงัวเงียเมื่อเห็นเวลาได้ชัดเจนแล้วกลุกขึ้นมา นั่งอย่างกะทันหัน

แล้วรีบเปลี่ยนชุดตัวเอง เมื่อออกมาก็เห็นเขานั่งอยู่ ที่ห้องโถง กำลังอ่านหนังสืออย่างไม่ขยับ การเป็นกัปตัน คนหนึ่งต้องรับผิดชอบชีวิตคนเป็นร้อย ลอยอิสระอยู่บน ท้องฟ้า แล้วส่งผู้โดยสารให้ไปถึงจุดมายปลายทางอย่าง สวัสดิภาพ เป็นอาชีพที่ยิ่งใหญ่และน่าสุดยอดไปเลย

และเขาได้รับการยกย่อมและความนับถือเคารพจาก คนเป็นหมื่น

“ทำอาหารเป็นไหม?

ซัมเมอร์มองไปทางเขา แล้วส่ายหัวตอบอย่าง ง่ายดาย ไม่เป็น

“ก็ไม่ได้หวังให้คุณเป็นอยู่แล้ว เขาวางหนังสือลง แล้วลุกขึ้นไปที่ห้องครัว ชี้ไปที่หม้อโจ๊ก กินได้แต่โจ๊ก ถ้า คุณไม่อยากลงมือทำเอง

เธอยื่นคอยาวไปมอง แต่กลับออกมา “ฉันไม่ได้ เลือกมากขนาดนั้น กินโจ๊กไปก่อนเถอะ กลับไปตอนเย็นก็ มีของกินแล้ว”
“กลับไปตอนเย็นคุณจะทำเหรอครับ?”

“มีแม้บ้านอยู่ไม่ใช่เหรอ?”

ธาวินกอดอกแล้วหัวเราะ เรากลับไปถึงก็เที่ยงคืน แล้ว คุณแน่ใจว่าจะให้แม่บ้านที่ขึ้นเตียงไปแล้วลงมาทำ อาหารให้เราจริงเหรอ?”

เธอก้มหน้าลงอย่างเขินๆ แล้วปัดผมที่อยู่หน้าผากที หนึ่ง“โทษทีนะ ฉันลืมเวลาไปแล้ว”

แล้วเธอก็มองธาวินไปสองที งั้นมากสุดก็แค่ฉันกลับ ไปแล้วทำหมี่ให้นายกิน ฉันทำได้อร่อยนะ

เธอและธาวินรู้จักกันมาหลายปี คำพูดที่เคยพูดไปมัน สามารถนับออกมาได้ แต่เมื่อครอบครัวพังทลายแล้ว เธอ กลับต้องพึ่งเขาในการใช้ชีวิตต่อไป มีเรื่องบางเรื่องที่เธอ ไม่ทำก็ต้องทำ

อย่างเช่นทำอาหาร ต่อจากนี้ก็ต้องลงมือฝึกทำแล้ว

“วันมะรืนนี้กลับบ้านอศักดินกับผม”

ซัมเมอร์ที่พึ่งกินเสร็จคำเดียว ก็มองเขาด้วยความอึ้ง หัวใจเธอลังเลไปนานกว่าจะผุดขึ้น การแต่งงานของเราจะไม่ถูกเปิดเผยไม่ใช่เหรอ?”

ธาวินมองเธอไว้นิ่งๆ แล้วคุณจะช่วยผมขัดกั้นผู้หญิง น่ารำคานพวกนั้นให้ยังไง?

ซัมเมอร์ไม่ได้ตอบกลับ แล้วเขาก็พูดขึ้นต่อวันมะรืน เป็นวันเกิดแม่ผม วันนั้นจะมีผู้หญิงมามากมาย

ซัมเมอร์ทำอะไรไม่ได้ แสดงว่าเธอก็ต้องเจอมายด์

ด้วยสิ?

“ค่ะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ