ขอใช้ทั้งชีวิตแลกกับรักที่ยืนยาว

บทที่ 2 เหนื่อยทั้งกายและใจ



บทที่ 2 เหนื่อยทั้งกายและใจ

ซัมเมอร์เองก็ไม่รู้ว่าตัวเองผ่านเก้าชั่วโมงที่นานา แสนนานมานี้ได้ไง ทั้งหมดทั้งมวลนี้สามารถใช้คำว่า เหนื่อยทั้งกายและใจมาเปรียบเทียบได้เลยจริงๆ

เธอเป็นเด็กที่ไม่มีแม่ เติบโตมากับไทม์ตั้งแต่เด็กๆ ไทม์อยู่กับเธอตั้งแต่ยังเด็ก และไม่เคยคิดว่าเขาจะจาก เธอไป และไม่เคยคิเว่าเขาจะคบกับเพื่อนสนิทตัวเอง

เป็นเพราะไม่เคยคิด ดังนั้นในตอนที่มีเรื่องพวกนั้น เข้ามา ก็เหมือนถูกบาดที่หัวใจ

เสียงเคาะที่ประตูดังขึ้นอีกครั้ง ธาวินไม่ได้พักผ่อน เพียงพอ จึงขมวดคิ้วแล้วเดินไปเปิดประตู

ซัมเมอร์มองดูใบหน้าที่อ่อนล้าของเขา ก้มหัวลงแล้ว ถามไปว่า “ขอยืมห้องคุณเปลี่ยนเสื้อผ้าหน่อยได้ไหม?”

ตอนแรกก็คิดว่าธาวินจะปฏิเสธ แต่คิดไม่ถึงว่าเขา กลับหลีกให้เธอ แล้วพูดออกมาอย่างแหบๆว่า “ครั้งนี้ครั้ง เดียวนะ”

ซัมเมอร์อึ้งไปซักพัก แล้วมองเห็นเขากำลังจัดปก เสื้อ จากนั้นก็ก้าวขาเดินออกไป

หลังจากที่เครื่องลง เธอขอลาแล้ว จึงไม่ได้ไปประชุม แล้วรีบถือกระเป๋าเดินทางเดินตามไทม์และมายด์ ไป จะไม่ยอมให้เขาหลอกโดยไม่มีอะไรชัดเจนแบบนี้ไม่ ได้

“ไทม์ นายหยุดนะ”

ในสนามบิน เสียงของซัมเมอร์ดึงความสนใจจาก คนรอบข้างไม่น้อยเลย ธาวินที่กำลังจะไปประชุมก็ได้ยิน เสียงที่ฉีกอกของเธอ เขาจึงหยุด แล้วมองดูพวกเขา

ซัมเมอร์ไม่ได้พูดอะไร แต่เดินเข้าไปตบไทม์ จากนั้น ก็พูดอย่างโมโหว่า “ของที่อกตัญญู นายยังเหมาะที่จะ เป็นคนอยู่ไหม?”

ไทม์ทนกับความเจ็บนี้ แต่ไม่ได้พูดอะไร

มายด์กัดฟันแล้วยื่นมือไปตบซัมเมอร์ “แต่งงานยัง มีหย่า เป็นเพราะเธอที่ขัดขวางความรักพวกเรามาตลอด อย่ามาทำหน้าดูถูกพวกเราแบบนี้ ไทม์ไม่เคยรักเธอตั้งแต่ แรก อย่ามาตอแยอีก ถ้าไม่ใช่เพราะบ้านเธอมีบุญคุณกับ ไทม์ พวกเธอจะมาถึงจุดๆนี้หรอ? ไทม์ นายไม่เป็นไรใช่ ไหม?”

ไทม์ส่ายหัว “ฉันไม่ป็นอะไร”
ซัมเมอร์มองดูไทม์อย่างไม่พอใจ กลืนน้ำลายแล้ว พูดว่า “นายไม่เคยรักฉันใช่ไหม?”

ไทม์มองไปทางซัมเมอร์ “ใช่ ไม่เคยรัก เธอตายใจ ได้แล้ว มายด์ พวกเราไปเถอะ”

ซัมเมอร์นั่งยืนโง่ๆอยู่ที่สนามบิน หลังจากนั้นไม่นาน กระเป๋าเดินทางในมือก็ถูกดึงไป เธอถึงดึงสติกลับมาได้ แล้วมองธาวินด้วยดวงตาแดงๆ จากนั้นก็ดึงกระเป๋าเดิน ทางกลับมา ยิ้มตอบกลับไปว่า “นายมองเห็นหรือยัง? นี่ คือลูกสาวที่บ้านของนายสั่งสอนมา นี่ก็คือหลานของ นาย!”

“ชายชอบหญิงรักเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าพวกเขาไม่ทำ แบบนี้เธอจะรู้ได้ไงว่าใครดีใครร้าย? เธอควรจะดีใจ ที่มอง คนๆหนึ่งออกก่อนแต่งงาน ถ้ามารู้หลังจากแต่งงานแล้ว คงจะเสียใจไปตลอดชีวิตไม่ใช่หรอ?”

หลังจากที่ธาวินเดินไปไม่กี่ก้าวก็หันกลับมาพูดว่า “ถ้าไม่อยากโดนไล่ออก ก็รีบไปประชุมกับฉัน”

“ฉันขอลาแล้ว” เธอพูด

ธาวินไม่ได้สนใจเธอมากนัก สุดท้ายซัมเมอร์ก็ไป

ประชุม
ในการประชุมก็คุยเรื่องทะเลาะเป็นส่วนมาก แล้วยัง ย้ำอีกว่าไม่อนุญาติให้เปลี่ยนเที่ยวบินกันเอง เพื่อนร่วม งานทุกคนก็รู้หมดแล้วว่าซัมเมอร์ถูกทิ้ง แต่ถึงแม้เธอจะ โดนทิ้งเธอก็ยังยืดอกเชิดหน้า ไม่ยอมให้คนอื่นมาดูถูก ง่ายๆหรอก

เธอคิดว่าน้ำฝนในรอบถัดไปจะสามารถลบล้างเรื่อง ราวที่ผ่านมา เก็บอารมณ์ไว้ แล้วมีชีวิตอยู่ต่อไป ไม่กี่ชั่ว โมงสั้นๆนี้ ข่าวร้ายก็ตกลงมายังบนตัวเธออีกครั้ง

ยกเลิกงานแต่งไม่ได้เป็นอะไรมาก ก็เป็นเรื่องของ เร็วๆนี้อยู่แล้ว แต่ว่าข่าวที่บริษัทพิสุทธิ์ประกาศออกมา หมายความว่าอะไร?

“คณซัมเมอร์คะ โรคหัวใจของคุณพ่อคุณกำเริบ กระทันหัน ต้องการผ่าตัดด่วน ขอให้คุณเตรียมค่าใช้จ่าย ไว้ด้วยค่ะ”

“เธอยืนโง่ไปทั้งตัว ทั้งหมดนี้มาได้เร็วเกินไปแล้ว โหดร้ายเกินไปแล้ว เวลาค่อยๆเดินผ่าน หลังจากที่สมอง โล่งไปประมาณหนึ่งนาที ซัมเมอร์ก็ถูกเสียงโทรศัพท์ดึงส กลับมา

“มายด์ เธอจะทำอะไรกันแน่?” เธอยืนตะโกนที่ กลางสนามบิน
มายด์หัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “ส่งของขวัญครบ รอบอายุ26ปีให้เธอไง ของขวัญชิ้นนี้คงทำให้เธอจำจน วันตาสินะ คุณซัมเมอร์ที่รัก?”

“เป็นเธอจริงด้วย? ทำไมเธอถึงทำแบบนี้? ฉันไม่ยุ่ง เกี่ยวอะไรกับเธอแล้ว ทำไมแม้แต่คนในครอบครัวฉันเธอก็ ไม่ยอมปล่อย?”

ซัมเมอร์ยืนจับโทรศัพท์แล้วร้องไห้ราวกับคนบ้า กลางสนามบิน ในที่ๆผู้คนผ่านไปผ่านมา มีแต่เธอที่แบก รับเรื่องราวร้ายๆนี้คนเดียว

“ผู้หญิงตัวเล็กอย่างฉันจะทำเรื่องใหญ่ขนาดนี้ได้ ไง? เออ จริงด้วย ไทม์บอกว่าอยากจะขอบคุณการเลี้ยงดู จากพ่อเธอตลอดหลายปีมานี้ ของขวัญชิ้นนี้ เธอค่อยๆลิ้ม รสนะ ลาก่อนซัมเมอร์ที่รัก”

ขณะที่มายด์กำลังจะวางสาย ก็พูดอีกคำว่า “เอ้อ ใช่ แล้ว เธอควรจะรีบไปเยี่ยมพ่อที่โรงพยาบาลนะ ถ้าเกิเตา ยละก็….

“เธอ….”

ซัมเมอร์อึ้งจนตาโตค้าง ไม่รู้ว่าจะใช้ประโยคไหนมา เปรียบเทียบมายด์แล้ว
“ถ้าเธอไม่มีค่ารักษา ฉันสามารถยืมให้เธอก่อนได้นะ ขอแค่เธอคุกเข่าขอร้องฉัน…”

“ฝันลมๆแล้งๆของเธอไปเถอะ! หมาชายหญิงคู่นี้ แกไม่ตายดีแน่!”

ซัมเมอร์โมโหจนโยนโทรศัพท์ทิ้ง อุปกรณ์ที่แตก กระจายตกลงไปยังใต้เท้าของธาวิน เขาหยุดแล้วมองไป ที่ใต้ขา แล้วเงยหน้าขึ้นพร้อมกับความสงสัย

ก็แค่การเลิกลาเอง ทำไมถึงร้องไห้ขนาดนี้

ซัมเมอร์มองดูความเยาะเย้ยภายในตาของเขา เธอ เดินกัมแล้วเก็บโทรศัพท์ขึ้นมา พูดอย่างเยือกเย็นว่า “ขอ รบกวนคุณธาวินช่วยไปบอกคุณมายด์หน่อยว่า ฉันไม่ ปล่อยเขาไว้แน่”.

ธาวินยังไม่ทันตกใจ เธอก็ดึงกระเป๋าเดินทางแล้วเดิน ตัดหน้าเขาไป เหลือเพียงเงาที่โดดเดี่ยวแล้วเข้มแข็งไว้

เขาคิดว่าเป็นแค่การอกหักธรรมดา แต่คิดไม่ถึงว่า บริษัทพิสุทธิ์จะล้มละลายไปด้วย และพ่อของเขากำลังตก อยู่ในภาวะอันตราย

ก็ว่าเธอถึงได้โมโหนขนาดนี้!
เธอหาบัตรธนาคารที่เธอมีทั้งหมดออกมา ตอนนำไป จ่ายที่โรงพยาบาลกลับถูกฟ้องว่าไม่สามารถใช้แล้ว เธอ เหมือนคนที่ไม่มีทางเลือกแล้ว และสายตาเธอก็ค่อยๆมืด

“คุณซัมเมอร์คะ?” พนักงานเรียกเธอ “คุณไม่เป็น อะไรใช่ไหมคะ?”

ซัมเมอร์ส่ายหัวแล้วตอบกลับว่า “ขอโทษด้วยนะคะ ฉันสามารถจ่ายพรุ่งนี้ได้ไหมคะ?”

“ได้ค่ะ ช้าสุดคือพรุ่งนี้เช้าค่ะ ทางเราจะรีบจัดการ เรื่องผ่าตัดค่ะ เพราะอาการไม่สามารถรอช้าได้อีกแล้วค่ะ”

ซัมเมอร์เดินด้วยก้าวเท้าที่หนักหน่วง ไม่รู้ว่าจะเดิน ออกจากโรงพยาบาลอย่างไร ตอนนี้ข้างๆเธอก็ไม่มีใคร สามารถช่วยเธอได้แล้ว ค่าผ่าตัดเป็นแสนนี้ ไม่ใช่ใครก็ได้ ที่สามารถแบกรับไหว

ตอนเย็นหกโมงครึ่ง เธอเหมือนจะคิดอะไรออก รีบ หยิบเสื้อผ้าแล้วตรงไปที่ห้องอาบน้ำ จากนั้นก็เปลี่ยนชุด นอน แต่งหน้าเบาๆ ดึงสติกลับมาแล้วไปร่วมงานที่บริษัท จัดขึ้น

คนอื่นจะมาหรือไม่มาเธอไม่รู้ แต่ธาวินต้องไปแน่ๆ นี่คืองานที่บริษัทจัดขึ้น ในฐานะหัวหน้าของเที่ยวบิน ถ้าเขา ไม่ไป ก็คือไม่ให้หน้าบริษัทแล้วจริงๆ

ในตอนที่เธอเห็นธาวินกำลังดื่มอยู่ เธอก็ยิ้มออกมา มายด์ เธอยิ่งเกลียดฉันเท่าไหร่ ฉันก็จะยิ่งให้เธอเจอ

ฉันทุกวัน!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ